“ตรีรัตน์” ลั่น ! ค่าไฟขึ้นแน่ 10 สต. โรงไฟฟ้าแม่เมาะถูกเบรกซื้อถ่านหิน

HoonSmart.com>> ‘ตรีรัตน์ ศิริจันทโรภาส’ ลั่น !!! ค่าไฟขึ้นแน่ 10 สต.หลัง “พีระพันธุ์” สั่งเบรกการจัดซื้อถ่านหินสำหรับโรงไฟฟ้าแม่เมาะ ซัดแรง! พร้อมรับผิดชอบไหม หากค่าไฟแพงขึ้น 

วันนี้ (13 มีค.2568) นายตรีรัตน์ ศิริจันทโรภาส นักธุรกิจด้านพลังงานสะอาด และอดีตสมาชิกพรรคไทยสร้างไทย ได้โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟสบุ๊ค และแพลทฟอร์มเอ๊กซ์ (X) ถึงกรณีที่นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้เคยออกคำสั่ง เบรกการจัดซื้อ-จัดจ้าง ถ่านหินลิกไนท์ เข้าโรงไฟฟ้าแม่เมาะของการไฟฟ้าฝ่ายผลิต ว่า จะทำให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตมีภาระที่สูงขึ้น และอาจกระทบค่าไฟได้ถึง 10 สตางค์ โดยนายตรีรัตน์ได้กล่าวว่า

วันนี้การใช้ไฟฟ้าในประเทศไทยนั้น ประกอบไปด้วยโรงไฟฟ้าจากหลายประเภท ทั้ง แก๊ส โซลาร์ ลม ขยะ ถ่านหินลิกไนต์ เป็นต้น ซึ่งสูตรการคิดค่าขายไฟให้ประชาชน ก็คือการเอาต้นทุนซื้อไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าเหล่านี้มาเฉลี่ยต้นทุน บวกค่าสายส่ง และค่าบริการของการไฟฟ้าฯ เป็นต้น

โดยอัตราค่าซื้อไฟก็แตกต่างกันออกไป เช่น โรงไฟฟ้าแก๊สก็ประมาณ 3 บาทกลางๆต่อหน่วย(ขึ้นอยู่กับต้นทุนแก๊ส) โรงไฟฟ้าโซลาร์ ลม Adder ก็อยู่ประมาณ 8-13 บาท/หน่วย ส่วนถูกที่สุดก็คือโรงไฟฟ้าถ่านหินประมาณ 1.5 บาท/หน่วย ซึ่งปัจจุบันโรงไฟฟ้าถ่านหินแม่เมาะ ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตถือว่าเป็นโรงไฟฟ้าที่ต้นทุนการผลิตไฟต่ำที่สุด

ซึ่งหากประเทศไทยทำสัญญาซื้อไฟกับโรงไฟฟ้าที่ต้นทุนถูกมากๆ แน่นอนว่าค่าไฟก็จะถูกลงครับ อย่างเช่นโครงการประมูลโซลาร์ล๊อตใหม่ 3,600 เมกะวัตต์ ก็จะถูกกว่าโครงการโซลาร์แบบมี Adder ล๊อตเก่า เพราะราคาประมูลใหม่นั้น fix ราคาซื้อที่ 2.16 บาท/หน่วย ตลอดอายุสัญญา (ในขณะที่สัญญาเก่า+ค่าแอดเดอร์+FT กลับสูงถึง 8-13บาท/หน่วย)

แต่วันนี้ประเทศไทยกำลังเข้าขั้นวิกฤตจากการบริหารงานที่ผิดพลาดอีกครั้งของนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน

เนื่องจากโรงไฟฟ้าถ่านหินแม่เมาะของการไฟฟ้าฝ่ายผลิต ที่ปัจจุบันมีกำลังผลิตถึง 2,400 เมกะวัตต์ และเป็นโรงไฟฟ้าที่ผลิตไฟได้ถูกที่สุดของประเทศไทย กำลังมีปัญหาด้านการผลิต เพราะคุณพีระพันธุ์ไปสั่งคัดค้านการซื้อถ่านหินของการไฟฟ้าฝ่ายผลิต ทั้งๆที่มีการประมูลอย่างถูกต้องตามกฎหมาย

ซึ่งทราบต่อมาว่ามี “นายทุนใหญ่” ผู้เสียผลประโยชน์แพ้ประมูลขุดถ่านหิน ไปวิ่งอุทธรณ์ โดยนายพีระพันธุ์ก็รับลูกด้วยความรวดเร็วเสมือนเป็นผู้มีส่วนได้เสียเองจนน่าแปลกใจจนเป็นที่มาของการ “เบรก” การไฟฟ้าฝ่ายผลิต(กฟผ.)ในการจัดซื้อถ่านหินซึ่งเป็นเชื้อเพลิงเดียวของโรงไฟฟ้าแม่เมาะ ทั้งที่กฟผ.ได้เคยออกมาชี้แจงแล้วว่าการประมูลขุดเหมืองถ่านหินเป็นไปอย่างโปร่งใส

ทั้งหมดนี้ส่งผลให้ประชาชนต้องรับกรรมที่ตามมาจากการกระทำของคุณพีระพันธุ์ เพราะโรงไฟฟ้าถ่านหินแม่เมาะต้องลดกำลังการผลิตจาก 2,400 เมกะวัตต์เหลือ 1,285 เมกะวัตต์ เนื่องจากถ่านหินในคลังมีไม่เพียงพอ โดย กฟผ.ต้องเปลี่ยนไปเดินโรงไฟฟ้าก๊าซแทน ซึ่งมีต้นทุนการผลิตที่สูงกว่า และยังต้องนำเข้าก๊าซ LNG มาเพิ่มขึ้น ส่งผลให้รัฐต้องแบกต้นทุนที่สูงขึ้นถึงเดือนละ 1,300-1,900 ล้านบาท และอาจมีการปรับค่าไฟขึ้นอีกประมาณ 7-10 สตางค์ ตั้งแต่เดือน เม.ย. 68 เป็นต้นไป

คำถามคือ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และเป็นผู้สั่งคัดค้านการรับซื้อถ่านหินเข้าโรงไฟฟ้าแม่เมาะ พร้อมรับผิดชอบลาออกไหมครับ หากค่าไฟมีการปรับขึ้น?

https://www.facebook.com/share/p/1A6pPP8653/?mibextid=wwXIfr

https://x.com/punetreerat/status/1900007946131824998?s=46&t=kg5wi1vab40C4eedfP3SCA