HoonSmart.com>>Thai ESGX กองทุนสายกรีน ลงทุนแบบมีธรรมาภิบาล (และมีตังค์กลับบ้าน)!รับโอน LTL-ซื้อใหม่ ออกสตาร์ท พ.ค. สิ้นสุดทางเลือก มิ.ย.’68
นักลงทุนน้อยใหญ่ โปรดฟังทางนี้ ! ถ้าคุณยังนั่งมองพอร์ตกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) หรือ แอลทีเอฟ อย่างอาวรณ์เพราะครบกำหนดแล้วแต่ยังขาดทุน
หรือกำลังมองหากองทุนใหม่ที่ทั้งดีต่อโลก ดีต่อเงินในบัญชี มาทางนี้เลย!
ขบวนรถไฟสายการลงทุนเพื่อโลกที่ดีกว่า! กำลังจะออกสตาร์ทเปิดให้จับจองที่นั่งในต้นเดือนพ.ค.นี้ และสิ้นสุดทางเลือกในเดือนมิ.ย.นี้เท่านั้น
วันนี้ “หุ้นสมาร์ท” จะพาไปทำความรู้จักกับ กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืนแบบพิเศษ (Thailand ESG Extra Fund หรือ Thai ESGX) เป็นกองทุนรวมที่ให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีรองรับการสับเปลี่ยนหน่วยลงทุน LTF และเงินลงทุนใหม่
กองทุนน้องใหม่สายกรีน ให้สิทธิลดหย่อนภาษีกรณีโอนย้าย LTF เข้ามา 3 แสนบาทในปีแรก และปีที่ 2 ถึงปีที่ 5 ได้ลดหย่อนปีละ 5 หมื่นบาท
ตัวเลขนี้มาจาก สิทธิลดหย่อนภาษี LTF เดิมได้ 5 แสน เมื่อปีแรกทางคลังให้ใช้สิทธิได้ 3 แสน ก็เหลืออีก 2 แสน กองทุนมีเวลาลงทุน 5 ปี ก็เลยให้ใช้สิทธิได้อีกปีละ 5 หมื่นก็ครบสิทธิ
กรณีซื้อใหม่ก็ได้สิทธิ 3 แสนบาท หรือสูงสุดไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมิ รวมแล้ว 6 แสนบาท โดย
ไม่รวมสิทธิลดหย่อนภาษีการลงทุนในกองทุน Thai ESG ที่ให้ 3 แสน สิทธิลดหย่อนจากการลงทุนในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ(RMF) 5 แสนบาท
ตอนนี้ กำลังเป็นที่พูดถึงกันให้แซ่ด และเฝ้ารอด้วยใจระทึก เพราะมีเวลาให้โอนย้าย LTF และลงทุนแค่ 2 เดือน แบบมาเร็วเคลมเร็ว
ใครไม่ทันรอบนี้ อดได้สตอรี่ใหม่ให้ชีวิต ต้องรอยาวไปถึงต้นปี 2569 จึงจะซื้อได้อีกรอบและนับตั้งแต่ปี 2569 กองทุน Thai ESGX และ Thai ESG จะใช้วงเงินลดหย่อนเดียวกัน
Thai ESGX พิเศษตรง?
เป็นกองทุน สายกรีน สายบุญ ที่กระทรวงการคลังอนุมัติให้ทำคลอดได้ จะคลอดออกมาในเดือนพ.ค.นี้
จะลงทุนในหุ้นไทย อย่างน้อย 65% และไม่ใช่หุ้นธรรมดา เพราะในสัดส่วน 65% นี้ต้องเป็นหุ้นที่มีคะแนน ESG อย่างน้อย 80%
การคัดหุ้นใช้เกณฑ์ ESG (สิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล) นั่นหมายความว่า หุ้นที่จะติดโผต้องมีคุณสมบัติดีงาม ใน 3 คุณสมบัติอันแสนพิเศษนี้
1.ต้องผ่าน ESG Rating ระดับโลก เช่น FTSE หรือ MSCI และ ESG Rating ของตลท.ไม่ธรรมดา
2.เปิดเผยข้อมูลคาร์บอนฟุตพริ้นท์ และต้องได้รับการรับรองจากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (อบก.)ให้โลกรู้ว่าไม่ได้ทำลายสิ่งแวดล้อม
3.ต้องมีคะแนน CGR (ธรรมาภิบาล) สูงปรี๊ดกว่า 90 คะแนน และเปิดเผยข้อมูล ESG มากกว่า 85% เพื่อความโปร่งใส
พูดง่ายๆ คือ Thai ESGX ไม่ได้เลือกหุ้นเพราะ “หล่อ รวย โปรไฟล์ดี” แต่ต้องมี จิตสำนึกที่ดีต่อโลกและสังคม ด้วย! หุ้นนางงามชัดๆ ว่าไหม
ต้องเตรียมตัวยังไง?
เรื่องนี้ถามกูรูมาเลยนะ คุณชวินดา หาญรัตนกูล นายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน (AIMC) แนะนำว่า 1. เช็ก LTF ของตัวเองงว่ามีอยู่ที่บลจ.ไหนบ้าง
จากนั้นแจ้งบลจ. เพื่อบอกว่าอยากใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษี มีกี่บลจ.ก็ต้องแจ้งทุกบลจ.มีกี่กองก็ต้องโอนย้ายมาให้หมดถึงจะได้สิทธิภาษี
ทางบลจ.ก็จะโอนให้ทันที โดยไม่ต้องไปจัดประชุมผู้ถือหน่วยเพื่อขออนุมัติให้ยุ่งยาก เพราะมีมติครม.ออกมารองรับให้ทำได้เป็นกรณีพิเศษ และไม่มีค่าธรรมเนียมในการโอนย้าย
การโอนสามารถทำได้ตั้งแต่ ต้นเดือนพฤษภาคม ไปจนถึง สิ้นเดือนมิถุนายน
ถ้าช้า! อดจ้าปีนี้ รอยาวไปถึงต้นปี 2569 ถึงจะเปิดให้ซื้อได้อีกครั้ง และนับตั้งแต่ปี 2569 กองทุน Thai ESGX และ Thai ESG จะใช้วงเงินลดหย่อนเดียวกัน
ตั้งอีก 6 เดือนตอนนั้นดัชนีหุ้นไทยจะอยู่ตรงไหนน๊า? ขูดหาจากต้นไม้ได้ไหม?
2.คนที่ซื้อกองทุน Thai ESGX ด้วยเงินก้อนใหม่ ก็ต้องซื้อภายในเดือนมิถุนายนด้วยเช่นกัน ถึงจะได้สิทธิภาษี
3.ควรแจ้งการโอนให้ทันตามกรอบที่บลจ.กำหนด
เดี๋ยวเร็วๆ นี้ คุณอัศเดช คงสิริ กรรมการผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย บอกว่า กำลังจัดเตรียมช่องทางให้นักลงทุนเข้าไปค้น..ค้น..สมบัติในตลาดทุนของตัวเองได้แบบที่เดียวจบ เห็นครบว่ามีหุ้น กองทุน อยู่เท่าไหร่ น่าจะออกมาก่อนที่กองทุน Thai ESGX เกิด เรียกว่าเปิดค่าการมองเห็นพอร์ตส่วนตัวตลอด 24 ชั่วโมงกันไปเลย
ส่วนคุณชวิดา นอกจากจะเป็น นากยกสมาคมบริษัทจัดการลงทุนแล้ว ยังเป็นกรรมการผู้จัดการบลจ.กรุงไทย ที่บริหารกองทุนวายุภักษ์ 1 ด้วย การันตีความเป็นกูรูขั้นเทพ มองว่า โอกาสที่หุ้นจะลงไปอีกมีขอบเขตจำกัดลง เพราะลงมามากแล้ว
ส่วนจะลงไปได้อีกไหม ก็ตอบเสียงดังฟังชัดว่า “มี” เอ้าาา
แล้วจะลงไปถึงไหน? ก็ตอบชัดถ้อยชัดคำด้วยความนิ่งๆ ว่า “ไม่รู้”
แต่ที่รู้คือ พื้นฐานบริษัทไทยไม่ได้แย่ขนาดที่หุ้นจะลงไปแรงๆ แต่ที่หุ้นลงแรงเพราะอารมณ์ของนักลงทุน ที่ตื่น กังวล กับข่าวที่เข้ามากระแทกกระทั้นหัวใจ
แต่ใครที่เลือกลงทุนช่วงนี้ สามารถคาดหวังผลตอบแทนที่ดีได้ในระยะ 5 ปีข้างหน้าได้ จากการที่ปัจจัยพื้นฐานหุ้นไทยยังแข็งอยู่ และเศรษฐกิจไทยก็ยังโตอยู่ รัฐบาลก็มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่ กองทุนวายุภักษ์ ก็มีการลงทุนต่อเนื่อง เลือกหุ้นดี ที่ไหลลงแรง เป็นการลงทุนแบบตั้งรับ และมีโอกาสพลิกฟื้นได้ถ้าผ่านช่วงเวลานี้ไปได้ ก็จะมีโอกาสเติบโตได้อีกไกล
คือ ณ ช่วงเวลานี้ โอกาสขาลงมีจำกัด โอกาสขาขึ้นเปิดกว้างมากกว่า
คาดว่า จะมีเงินลงทุนใหม่เข้ามา 3 หมื่นล้านบาท ซึ่งอาจจะมากกว่า หรือน้อยกว่าก็ได้ ขึ้นอยู่กับการสื่อสารของทาง สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) และสื่อมวลชน
“หุ้นสมาร์ท” ลองนับนิ้ว จากเงินลงทุนที่ค้างอยู่ในกองทุน LTF 1.8 แสนล้านบาท กับเงินลงทุนใหม่ที่คาดว่าจะได้มา 3 หมื่นล้านบาท ก็เป็นเงิน 2.1 แสนล้านบาท แต่อาจจะไม่ถึง 2.1 แสน เพราะอาจมีคนที่ไม่ย้ายเข้ากองทุน Thai ESGX และต้องการขายเหมือนช่วงที่ผ่านมา ที่ LTF ถูกขายไป 6 พันกว่าล้านบาท
เงินจำนวนนี้ ก็ใกล้เคียงกับเงินที่ต่างชาติขายหุ้นไทยออกไปเมื่อปี 2567 ที่ขายหุ้นไทยสุทธิ 1.5 แสนล้านบาท ดูตัวเลขแล้วก็ถือว่าน่าจะใกล้เคียงกันอยู่นะ
ต้องรอดูว่า ช่วง พ.ค.กับ มิ.ย.หุ้นไทยจะวิ่งไปได้ไกลแค่ไหน?
สแกนใจ
หลักการของกูรูโดยทั่วๆ ไปก่อนจะกระโจนขึ้นขบวนรถไฟสายหุ้น ถึงจะเป็นหุ้นเทพ ก็ขอให้ถามตัวเองสักนิดว่า…
ลงทุนเพราะต้องการผลตอบแทนระยะยาว หรือแค่อยากเอาไปทำสตอรี่?
รับความเสี่ยงได้แค่ไหน? ต้องรอติดตามว่าความเสี่ยงจะตกฟากเลขอะไรระหว่าง 1-10 หุ้นไทยก็เหมือนอากาศ จะร้อนหนาวแค่ไหนก็ต้องเตรียมตัวไว้ ยิ่งช่วงนี้ PM 2.5 แรง ระดับอันตรายขึ้นสีแดงเกือบทุกวัน
ถือยาวได้ไหม? เพราะกองทุน Thai ESGX ไม่ใช่ตุ๊กตา ที่ไปหนีบๆ คีบๆ มาไม่พอใจก็ทิ้งได้ไม่เสียดาย แต่คือเชือกที่เราจะใช้พยุงตัวไต่ไปหาอิสรภาพทางการเงินวัยเกษียณ หรือความมั่งคั่ง ต้องถือยาว 5 ปีขึ้นไป ถ้าออกก่อน ต้องเอาภาษีที่ใช้ไปมาคืนรัฐด้วย
มือใหม่อยากร่วมขบวน
ไม่ยากเหมือนสมัยก่อน ที่แบกเอกสารไปเปิดบัญชีที่บลจ.หรือแบงก์
สมัยนี้เปิดบัญชีกองทุนผ่านแอปธนาคารหรือเว็บไซต์ของ บลจ.ได้เลย
เดิมอ่านหนังสือชี้ชวนจนตาแฉะ (แต่เยอะเกิ๊นไม่เคยอ่านจบซักกอง) แต่ด้วยนโยบายลงทุนของ Thai ESGX มีนโยบายเดียว ทุกบลจ.ที่ออกมา ก็น่าจะคล้ายๆกัน อาจจะต่างกันในรายละเอียดบ้างเล็กๆน้อยๆ
จากนั้น โอนเงินเข้าบัญชีที่ซื้อขายกองทุน และเริ่มต้นเส้นทางนักลงทุนสายกรีนกับกองทุน ThaiESGX ช่วงเดือน พ.ค.-มิ.ย.นี้ กันได้
หลังจากนั้น ก็นั่งจิบกาแฟ ติดตามผลการลงทุน และคอยเช็กพอร์ตอย่างมีสติ
ทำไมต้อง Thai ESGX
เพราะหุ้น ESG เป็น หุ้นคุณภาพสูง ไม่ใช่แค่หุ้นดี แต่ยังดีต่อโลกด้วย
เป็นทางเลือกแทน LTF สำหรับคนที่ยังอยากให้เงินทำงานต่อ แต่ถ้าจำเป็นใช้เงินก็ว่ากันไป
กระจายความเสี่ยงจากตลาดหุ้นขาลง ลดโอกาส “ขาย..มู” ตอนพอร์ตแดง
สิทธิประโยชน์ทางภาษี ยิ่งรายได้สูง ยิ่งคุ้ม คนที่เสียภาษีในอัตรา 30% ถ้าลงทุนเดือน พ.ค.1 แสนบาท พอเดือนมิ.ย.หุ้นในพอร์ตลง 10% มูลค่าพอร์ตเหลือ 9 หมื่นบาท สิ้นปีขอลดหย่อนภาษี 30% ได้เงินคืน 3 หมื่น หักลบที่ขาดทุน 10% ก็ยังมีกำไรอยู่ 2 หมื่น
เหมาะกับใคร?
แน่นอนเหมาะกับคนมี LTF แล้วอยากให้เงินทำงานต่อ
นักลงทุนที่อยากให้พอร์ตดูดีมีจริยธรรม
คนที่เชื่อว่า การลงทุนอย่างมีคุณค่า จะนำพาผลตอบแทนที่มั่นคงในอนาคต
คนที่ลงทุนระยะยาว ที่ไม่หวั่นไหวกับการแกว่งตัวของตลาด
การลงทุนในกองทุนที่ให้สิทธิลดหย่อนภาษี คนเสียภาษีไม่ควรพลาด เพราะการได้รับภาษีคืนนี้แหละ ชดเชยผลขาดทุน หรือลดการขาดทุนในพอร์ตได้เป็นอย่างดีเลย สร้างโอกาสในการลงทุนระยะยาว หากมีวางแผนดีและลงทุนอย่างต่อเนื่อง ก็สามารถพลิกวิกฤติเป็นโอกาส และได้รับผลตอบแทนที่ดีในอนาคตได้
รายงานโดย วารุณี อินวันนา