OTO มั่นใจลงทุน PFA-HPS เพิ่มรายได้ ..แจงเพิ่มทุน 0.60 บาท/หุ้น เหมาะสม

HoonSmart.com>>  OTO ยันแตกไลน์ทำธุรกิจใหม่ลงทุน PFA และ HPS หวังสร้างรายได้เพิ่ม หลังธุรกิจหลัก Call Center มาร์จิ้นเริ่มแผ่ว  ค่าแรงขยับ  ด้านซีอีโอ “จิรายุ เชื้อแย้ม” แจงเพิ่มทุน 0.60 บาท/หุ้น เหมาะสม ทำให้การเพิ่มทุนสำเร็จได้ ส่วนตอนนี้หุ้นเด้งขึ้นมา 0.80-0.90 บาท อาจขึ้นมาตอบรับการขยายธุรกิจใหม่ พร้อมคาดรายได้ธุรกิจ Call Center ในปี 67 โต 10%  

จิรายุ เชื้อแย้ม

นายจิรายุ เชื้อแย้ม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วันทูวัน คอนแทคส์ (OTO) เปิดเผยว่า การเข้าลงทุนในงบริษัท เพียร์ ฟอร์ ออล (PFA) และบริษัท แฮปปี้ โปรดักส์ แอนด์ เซอร์วิส จำกัด (HPS) ถือเป็นการขยายธุรกิจใหม่ของบริษัท หลังจากที่มองเห็นธุรกิจหลัก Call Center ปัจจุบันมาร์จิ้นลดลงเรื่อย ๆ ขณะที่ค่าแรงก็ขยับขึ้นเรื่อย ๆ จึงจำเป็นต้องหาธุรกิจใหม่เข้ามา ซึ่งก็ได้เลือกสองบริษัทดังกล่าว โดยบริษัทจะเข้าถือหุ้น PFA 91% ใช้เงินลงทุนกว่า 500 ล้านบาท โดยบริษัทฯ ได้เข้าซื้อธุรกิจ peer to peer lending platform (P2P) ของ “Nestifly” และขณะนี้อยู่ระหว่างรอการอนุญาตจากแบงก์ชาติ

“ธุรกิจ peer to peer lending platform (P2P) โดย “Nestifly” จะเป็นตัวกลางในการจับคู่ระหว่าง”ผู้กู้”กับ”ผู้ให้กู้”ให้มาเจอกัน ซึ่ง “Nestifly” ก็จะได้รับผลตอบแทนเป็นค่าธรรมเนียม ส่วนการขยายธุรกิจของ “Nestifly” จะเริ่มที่เทคโนโลยี และทำ Product ใหม่ ๆ รวมถึงการหาพาร์ทเนอร์มาช่วยหาลูกค้า ธุรกิจนี้พึ่งเริ่มทำได้ไม่ได้ มันเป็นสตาร์ทอัพ ดังนั้นคาดว่าจะสร้างผลกำไรได้ในปี 68”

ทั้งนี้ บริษัทเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ จำนวน ไม่เกิน 1,200 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท เพื่อเสนอขายให้แก่นักลงทุนในวงจำกัด (Private Placement) 7 ราย ได้แก่ 1) บริษัท อควา คอร์ปเปอรชั่น (AQUA) 2) ม.ร.ว จุลรังษี ยุคล 3) นายจินดาสร แสงฤทธิ์ 4) นายปฏิพล ประวังสุข 5) นายอาดาม อินสว่าง 6) นางสาวรฐา วีระพงษ์ และ 7) นายสุพรรณ เศษธะพานิช ซึ่งไม่เป็นบุคคลที่เกี่ยวโยงกันของบริษัทฯ โดยเสนอขายในราคาหุ้นละ 0.60 บาท และทางที่ปรึกษาทางการเงินเห็นว่าเป็นราคาไม่เหมาะสมนั้น

“ช่วงที่ผมเข้ามาบริหาร OTO ราคาหุ้นได้ปรับตัวลงมาต่ำมาก ลงไปถึง 0.50 บาท/หุ้น ซึ่งถ้าเราขาย 1 บาท ก็จะเพิ่มทุนไม่สำเร็จ ณ วันนั้นที่คุยกับนักลงทุน สถานการณ์ OTO และตลาดไม่ดี ราคาหุ้น OTO ในตลาดอยู่แถว 0.50-0.60 บาท เราก็เลยกำหนดราคาขายหุ้นเพิ่มทุนมาได้ประมาณนี้ และเป็นการกำหนดราคาตามเกณฑ์ของตลาด แต่ตอนนี้ราคาหุ้น OTO ก็ได้ขึ้นมาแถว 0.80-0.90 บาท มันกลับมา เพราะเรามีแผนจะทำพวกนี้…แต่ผมก็เข้าใจมุมมองตลาด และที่ปรึกษาฯนะ”

ส่วน HPS เป็นบริษัทที่ขายของออนไลน์ ซึ่ง OTO จะลงทุน 100% ใช้งบลงทุนประมาณ 150 ล้านบาท คาดว่าจะเซ็นสัญญาซื้อขายกันไม่เกินมีนาคมนี้ ส่วนการวางมัดจำมองเป็นเรื่องปกติของการซื้อขาย เพื่อป้องกันความเสี่ยง

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร OTO กล่าวอีกว่า  อย่างไรก็ดี ธุรกิจ Call Center ยังคงเป็นธุรกิจที่สร้างรายได้หลักให้กับบริษัท ซึ่งคาดว่ารายได้จากธุรกิจ Call Center ในปีนี้จะเติบโตได้ 10% ส่วนธุรกิจใหม่ที่เข้าไปลงทุนยังไม่คาดหวังมาก เพราะพึ่งเริ่มทำมาไม่นานนัก อีกทั้งส่วนที่ไปลงทุน HPS ก็จัดว่าเป็นส่วนต่อขยายของธุรกิจ Call Center ในการแชร์ระบบ เพราะ HPS มีรายได้จากการขายของผ่าน TV แต่การเติบโตรายได้ของ HPS จริง ๆ มาจากการเอาข้อมูลลูกค้ามาใช้แล้วไปขายสินค้าให้ลูกค้าโดยตรงเลย ซึ่งตรงนี้ให้มาร์จิ้นดีกว่าด้วย ซึ่งที่ผ่านมา HPS มีรายได้ปีละ 200 ล้านบาท โดย OTO จะรับรู้กำไรได้เลยหลังเข้าไปลงทุนแล้ว ส่วนการลงทุน “Nestifly” (PFA ถือหุ้น 100% ใน “Nestifly”) เป็นธุรกิจสตาร์ทอัพ คาดว่าจะสร้างผลกำไรได้ในปี 68