BBL หนุนลูกค้าเพิ่มขีดแข่งขัน โอกาสทองแบงก์โตอีกมาก

HoonSmart.com>>”ชาติศิริ” บิ๊กธนาคารกรุงเทพ (BBL) ลั่นธุรกิจไปได้สวย ทั้งลูกค้าธุรกิจ บุคคลและต่างประเทศ คาดสินเชื่อปีนี้โต 3-5% หนุนลูกค้าให้แข็งแรงโตยั่งยืน เพิ่มอำนาจแข่งขัน ทั้งส่งออก-นำเข้าขยายลงทุนหาตลาดใหม่ ซัพพลายเชนในภูมิภาค ใช้เครือข่ายในต่างประเทศแนะนำคู่ค้า เพิ่มลงทุนดิจิทัล “กอบศักดิ์”มองช่วงนี้เป็นโอกาสที่ดีของ BBL ธุรกิจกำลังปรับตัวออกไปต่างประเทศ เงินลงทุนโดยตรงกำลังเข้ามา ลูกค้าที่เคยตีจากไปใช้หุ้นกู้กลับมาแล้ว แนะหุ้นแบงก์-ท่องเที่ยว-สุขภาพ

นาย ชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ (BBL) เปิดเผยว่า แนวโน้มการดำเนินงานในปี 2567 คาดว่าสินเชื่อจะเติบโตประมาณ 3-5% โดยจะเน้นที่สินเชื่อธุรกิจและสินเชื่อบุคคล ขณะที่เศรษฐกิจคาดจะเติบโต 3% ส่วนธุรกิจต่างประเทศ ตั้งเป้าสินเชื่อโต 3-5% เช่นเดียวกัน มีสัดส่วนรายได้ที่ 25% ของรายได้รวม ธนาคารให้ความสำคัญกับการเติบโตในภูมิภาคนี้ พร้อมจะให้การสนับสนุนเอสเอ็มอีสร้างความสามารถในการแข่งขันดีขึ้น ส่งเสริมให้มีการปรับตัวสู่ความยั่งยืนให้ได้  เพื่อให้มีความยืดหยุ่นต่อสภาพความผันผวนของเศรษฐกิจและความไม่แน่นอนจากความขัดแย้งทางการเมืองในหลายๆประเทศ

“การปรับตัวและเตรียมตัวลูกค้าให้พร้อมกับสถานการณ์ จึงเป็นสิ่งที่ธนาคารให้ความสำคัญ พร้อมสนับสนุนลูกค้าที่ทำธุรกิจในภูมิภาคนี้ เช่น การขยายการลงทุน การช่วยหาตลาดใหม่ ซัพพลายเชน อาเซียนมีพื้นฐานที่ดี นักลงทุนต่างประเทศเลือกใช้อาเซียนในการขยายการลงทุน เวียดนามเศรษฐกิจใช้ได้ดี เราใช้เครือข่ายที่มีในต่างประเทศให้เกิดประโยชน์ ทั้งนำเข้าและส่งออก แนะนำคู่ค้ามากขึ้น ส่วนการลงทุนด้าน IT ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญ ก็ยังคงเดินหน้าต่อ เพราะว่าตลาดเปลี่ยนไปมาก ลูกค้าต้องปรับตัวรับดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชัน”นายชาติศิริกล่าว

สำหรับสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้หรือ NPLs ก็อยู่ในระดับที่บริหารจัดการได้ ขึ้นๆลงๆบ้าง แต่ไม่ได้กังวลอะไร ไม่มีพิเศษ  ลูกค้าก็มีการปรับตัว  ส่วน NIM ถือว่าสอดคล้องกับลูกค้าและสภาวะเศรษฐกิจ หากทางธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) มีนโยบายดอกเบี้ยอย่างไรในอนาคต ก็เชื่อว่าจะมีการพิจารณาอย่างเหมาะสม และสอดคล้องกับสถานะในขณะนั้น

ด้านนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ  กล่าวว่า ช่วงนี้เป็นโอกาสที่ดี สำหรับธนาคารกรุงเทพ สินเชื่อธุรกิจ บริษัทกำลังปรับตัวในการออกไปต่างประเทศมากขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่เงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศกำลังเข้ามา มีความต้องการใช้สินเชื่อสีเขียวมากขึ้น  เช่นโซลาร์  คาร์บอน รวมถึงการปรับตัวดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชัน เต็มไปหมด อยู่ในช่วงของลมใต้ปีกมีธุรกิจต่างๆที่เข้ามาส่งเสริมธุรกิจแบงก์ ขณะที่ธุรกิจของแบงก์กรุงเทพก็ไม่มีปัญหา

ตอนนี้ลูกค้าบางกลุ่มเริ่มกลับมาใช้สินเชื่อแล้ว หลังจากไปหาหุ้นกู้ เมื่อครบกำหนด ดอกเบี้ยเริ่มแพง ก็มาขอใช้สินเชื่อแทน  แบงก์พร้อมให้ความช่วยเหลือลูกค้าที่มีธุรกิจดี  ไม่มีปัญหาภายใน แต่หากบริษัทไหนมีปัญหามากก็พร้อมจะปล่อยให้ล้ม โดยภาพรวมเรื่องตราสารหนี้ ไม่มีผลกระทบในวงกว้าง

ส่วนเรื่องเศรษฐกิจไทยโตต่ำและปัญหาในเอเชีย ก็ทำให้นักลงทุนกังวลบ้าง ดึงสภาพคล่องกลับไป แต่อยากให้มอง ด้านปัจจัยพื้นฐานดีไหม อนาคตจะเป็นอย่างไร คาดเศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวรอบใหม่ในช่วงปลายปี ครึ่งปีหลังหุ้นไทยจะเริ่มฟื้นตัวขึ้นจากการลดดอกเบี้ยในต่างประเทศ ซึ่งมองว่าภาคเอกชนยังแข็งแกร่ง หุ้นถือว่าอยู่ในจุดที่ยังสามารถเข้าสะสมได้ อยากให้มองธุรกิจแต่ละบริษัทว่าเติบโตได้แค่ไหน โดยเฉพาะกลุ่มท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวได้ดี คาดนักท่องเที่ยวเข้ามาเพิ่มขึ้น 20% เป็น 35 ล้านคน จากปีก่อนมา 28 ล้านคนจะส่งผลให้ผลประกอบการดีขึ้น การส่งออก ธุรกิจแบงก์ รวมถึงการแพทย์ เรื่องสุขภาพก็เติบโต

ส่วนเสียงเรียกร้องให้ธปท.ลดดอกเบี้ยนั้นนายกอบศักดิ์ กล่าวว่า ในปีนี้คงจะลดไม่ได้มาก ดอกเบี้ยควรอยู่ที่ 2-2.5%ก็ต้องหามาตรการอื่นๆไปก่อน ที่สร้างความสามารถในการแข่งขันได้ ไม่ใช่มาตรการดอกเบี้ย เพื่อให้ประเทศไทยโตยั่งยืน เฉลี่ย 3-4% ให้ธนาคารพาณิชย์ช่วยลูกค้าเป็นจุดๆ รัฐบาลช่วยได้ในการทำบสย. ค้ำประกันให้กับ SME หรือการขอให้ประกันสินเชื่อ SME ที่ได้รับผลกระทบตั้งแต่โควิดเรื่อยมา เพื่อให้พื้นกลับมาได้ เช่นกลุ่มท่องเที่ยว จะต้องให้เงินทุนเพื่อกลับมาทำมาหากินได้เร็ว แทนที่จะค่อยๆหาเงิน เมื่อท่องเที่ยวกลับมาได้ก็จะช่วยเศรษฐกิจภาคอื่นๆด้วย นอกจากนี้ควรให้บริษัทข้ามชาติ เข้ามาง่ายขึ้น