“ไทยเครดิต” ฤกษ์เข้าเทรด 9 ก.พ.นี้ กำไรออลไทม์ไฮ 3,557ลบ.พุ่งขึ้น 51 %

HoonSmart.com>>หุ้นน้องใหม่ ธนาคารไทยเครดิต (CREDIT) เริ่มซื้อขายใน SET  9 ก.พ. นี้  ราคา IPO  29  บาท  กำไรสุทธิปี 66 ทำสถิติสูงสุดในประวัติการณ์ ที่ 3,556.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 51.2% ผลจากสินเชื่อเติบโตทุกกลุ่ม การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย  ณ สิ้นก.ย. NIM สูงถึง  8.76%  หุ้นมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 35,649.39 ล้านบาท  

นายแมนพงศ์ เสนาณรงค์ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯต้อนรับ ธนาคารไทยเครดิต เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในกลุ่มอุตสาหกรรมธุรกิจการเงิน หมวดธุรกิจธนาคาร  ในวันที่ 9 ก.พ. 2567

CREDIT เป็นธนาคารพาณิชย์ที่มุ่งเน้นการให้บริการสินเชื่อนาโนและไมโครเครดิตเพื่อคนค้าขาย (Nano and Micro Finance) และสินเชื่อธุรกิจไมโครเอสเอ็มอี (Micro SME) มายาวนานกว่า 15 ปี แก่กลุ่มผู้ประกอบการรายย่อยและกลุ่มคนค้าขายที่ยังไม่สามารถเข้าถึงสินเชื่อในระบบ ซึ่งมีจำนวนมากและถือเป็นฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ

ธนาคารมีทีมวิเคราะห์สินเชื่อและบริหารความเสี่ยงที่แข็งแกร่ง ผ่านสาขาการให้บริการกว่า 527 แห่ง ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ และช่องทางดิจิทัลผ่านแอปพลิเคชัน ทำให้มีอัตราการขยายตัวของเงินให้สินเชื่อเติบโตอย่างรวดเร็วและมีคุณภาพสินเชื่อที่ดี โดย ณ วันที่ 30 กันยายน 2566 มี Net Interest Margin (NIM) สูงถึง 8.76% มีจำนวนสัญญาให้สินเชื่อกว่า 370,000 บัญชี และพร้อมที่จะให้บริการด้วยผลิตภัณฑ์ที่ซับซ้อนมากขึ้น ภายหลังได้รับความเห็นชอบจากกระทรวงการคลังให้เป็นธนาคารพาณิชย์เต็มรูปแบบเมื่อ 17 สิงหาคม 2566 ที่ผ่านมา

ด้านผลการดำเนินงานในปี 2566  มีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของธนาคารเท่ากับ 3,556.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 51.2% ทำสถิติสูงสุดในประวัติการณ์ โดยรายได้ดอกเบี้ย เพิ่มขึ้น 20.6% สอดคล้องกับเงินให้สินเชื่อเติบโต 18.8% จากเงินให้สินเชื่อที่เติบโตเพิ่มขึ้นในทุกกลุ่ม ผลิตภัณฑ์สินเชื่อหลัก โดยเฉพาะในกลุ่มผลิตภัณฑ์สินเชื่อธุรกิจไมโครเอสเอ็มอี สินเชื่อนาโนและไมโครเครดิตเพื่อคนค้าขาย และสินเชื่อบ้าน ประกอบกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอ้างอิง

CREDIT มีทุนชำระแล้ว 6,146.45 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 5 บาท โดยเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวนรวม 254.13 ล้านหุ้น ประกอบด้วยหุ้นเดิมของ OCA Investment Holdings I Pte. Ltd. 189.42 ล้านหุ้น และหุ้นเพิ่มทุน 64.71 ล้านหุ้น  ในราคาหุ้นละ 29 บาท มูลค่าระดมทุน 1,876.47 ล้านบาท มีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 35,649.39 ล้านบาท โดยมีธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน มีบล.ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) บล.บัวหลวง และบล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นร่วม

นายวิญญู ไชยวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยเครดิต (CREDIT) เปิดเผยว่า การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ จะสนับสนุนให้บริษัทเติบโตตามกลยุทธ์ที่วางไว้ทั้งในเชิงธุรกิจและการขับเคลื่อนสังคม เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และสร้างมูลค่าเพิ่มในระยะยาว เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้นำด้านการให้บริการ ไมโครไฟแนนซ์ของประเทศไทย

สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุนจะนำไปใช้ในการขยายพอร์ตสินเชื่อ และปรับปรุงพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศในการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบดิจิทัล (Digital Transformation) และโครงสร้างพื้นฐานด้านความปลอดภัยของระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT Security and Infrastructure)

CREDIT มีผู้ถือหุ้น 3 ลำดับแรกหลัง IPO ได้แก่ 1) กลุ่มวี.ซี.สมบัติ ถือหุ้น 60.40% 2) นายวิญญู ไชยวรรณ ถือหุ้น 6.40% และ 3) กลุ่มนายวีรเวท ไชยวรรณ ถือหุ้น 1.90% การกำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO ที่ 29 บาท คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อมูลค่าตามบัญชีต่อหุ้น (P/BV) เท่ากับ 2.12 เท่า เมื่อเทียบกับมูลค่าตามบัญชีต่อหุ้น ที่ 13.70 บาทต่อหุ้น

ทั้งนี้ ธนาคารมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลเป็นไปตามประกาศของธนาคารแห่งประเทศไทย และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยพิจารณาจากกำไรสุทธิตามงบการเงินเฉพาะกิจการภายหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและการจัดสรรทุนสำรองตามกฎหมายและตามที่ธนาคารฯ กำหนด ซึ่งไม่เกินกว่ากำไรสะสมตามงบการเงินเฉพาะกิจการ