HoonSmart.com>> หุ้น RML ราคาพุ่งชนซิลลิ่ง รับแผนเพิ่มทุนขาย PP มูลค่ากว่า 1,059 ล้านบาท พร้อมแจกวอร์แรนต์ ดึง “พาที สารสิน” ใส่เงิน 378 ล้านบาท เข้าถือหุ้น นั่งกรรมการ มีผล 8 ก.พ. หวังนำประสบการณ์เสริมแกร่งธุรกิจ เตรียมนำเงินเพิ่มทุนชำระหนี้ตั๋วแลกเงิน หุ้นกู้ระยะสั้น ลงทุนโครงการ ด้าน “กฤษณ์ ณรงค์เดช” ทุ่มกว่า 681 ล้านบาท ซื้อหุ้น หนุนถือแตะ 25% ขอผ่อนผันทำเทนเดอร์
ความเคลื่อนไหวหุ้น RML เช้านี้ เปิดตลาดราคาซิลลิ่งที่ 0.57 บาท ล่าสุดเวลา 10.19 น. ยืนที่ 0.57 บาท +0.13 บาท หรือ +29.55% มูลค่าการซื้อขาย 9.85 ล้านบาท
บริษัท ไรมอน แลนด์ (RML) เปิดเผยมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 17 ก.พ.2567 อนุมัติให้เสนอต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2567 เพื่อพิจารณาอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัท จำนวนไม่เกิน 2,874,000,000 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิมจำนวน 4,172,484,127 บาท เป็นทุนจดทะเบียนใหม่จำนวน 7,046,484,127 บาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่จำนวนไม่เกิน 2,874,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท
การจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทจำนวนไม่เกิน 2,522,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท เพื่อเสนอขายให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) โดยกำหนดราคาเสนอขายไว้อย่างชัดเจนตามประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน ในราคาเสนอขายหุ้นละ 0.42 บาทคิดเป็นสัดส่วนรวมทั้งสิ้นไม่เกิน 37.67% ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัทภายหลังการเสนอขายหุ้นที่ออกใหม่ต่อบุคคลในวงจำกัด รวมมูลค่า 1,059,240,000 บาท ให้แก่บุคคลซึ่งเป็นผู้ลงทุนที่มีศักยภาพและสามารถลงทุนในบริษัทได้จริง
บริษัทฯ จะจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนจำนวน 1,622,000,000 หุ้น ให้แก่นายกฤษณ์ ณรงค์เดช และ/หรือบริษัทที่จะจัดตั้งขึ้นในต่างประเทศเพื่อประโยชน์ในการจัดการลงทุนในธุรกิจต่าง ๆ โดยมีนายกฤษณ์ ณรงค์เดช เป็นผู้ถือหุ้นทั้งหมดและมีอำนาจควบคุม และเป็นผู้รับประโยชน์ที่แท้จริงในบริษัทดังกล่าว รวมเป็นมูลค่า 681,240,000 บาท
จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 900,000,000หุ้น ให้แก่นายพาที สารสิน และ/หรือบริษัทที่จะจัดตั้งขึ้นในต่างประเทศเพื่อประโยชน์ในการจัดการลงทุนในธุรกิจต่าง ๆ โดยมีนายพาที สารสิน เป็นผู้ถือหุ้นทั้งหมดและมีอำนาจควบคุม และเป็นผู้รับประโยชน์ที่แท้จริงในบริษัทดังกล่าว รวมมูลค่า 378,000,000 บาท
ขณะเดียวกันภายหลังธุรกรรมการออกและเสนอขายหุ้น PP นายกฤษณ์ ณรงค์เดช และ/หรือบริษัทเพื่อการลงทุนของนายกฤษณ์ จะถือหุ้นจำนวน 1,622,000,000 หุ้น สัดส่วน 24.2% ของจำนวนสิทธิออกเสียงทั้งหมดภายหลังการเพิ่มทุนชำระแล้วของบริษัท หลังจากการออกและเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนในครั้งนี้ ซึ่งเป็นผลให้นายกฤษณ์ ณรงค์เดช และ/หรือบริษัทเพื่อการลงทุนของนายกฤษณ์ ณรงค์เดช เมื่อรวมหุ้นของบุคคลตามมาตรา 258 ของพ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ และบุคคลที่กระทำการร่วมกัน (concert party) จะถือหุ้นในสัดส่วนข้ามจุดที่ต้องทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของบริษัทที่ 25.0% ของจำนวนสิทธิออกเสียงทั้งหมดและมีหน้าที่ต้องทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของบริษัท จึงมีความประสงค์ที่จะขอผ่อนผันการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของบริษัท โดยอาศัยมติที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัท (Whitewash)
สำหรับหุ้นเพิ่มทุนที่เหลือจำนวนไม่เกิน 308,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท เพื่อรองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท ครั้งที่ 1 (RML-W1)ที่จะจัดสรรให้แก่บุคคลในวงจำกัด จำนวนไม่เกิน 308,000,000 หน่วย และจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนไม่เกิน 44,000,000 หุ้น รองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทที่ออกให้แก่กรรมการและพนักงานของบริษัท และบริษัทย่อย (โครงการ RML ESOP WARRANTครั้งที่1) จำนวนไม่เกิน 44,000,000 หน่วย
ทั้งนี้ เนื่องจากบริษัทมีขาดทุนสะสมปรากฏในงบแสดงฐานะการเงินและกำไรขาดทุน สำหรับไตรมาสที่ 3/2566 สิ้นสุด ณ วันที่ 30 ก.ย.2566 บริษัทจึงอาจกำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่ำกว่ามูลค่าที่ตราไว้ของบริษัทได้ แต่ต้องไม่ต่ำกว่า 0.01 บาทต่อหุ้น ทั้งนี้ ตามมาตรา 52 แห่ง พ.ร.บ. บริษัทมหาชนฯ
คณะกรรมการบริษัทฯ ได้อนุมัติการแต่งตั้ง บริษัท เอส 14 แอดไวเซอรี่ จำกัด ซึ่งเป็นที่ปรึกษาทางการเงินที่ได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานก.ล.ต. เป็นที่ปรึกษาทางการเงินอิสระของบริษัท เพื่อให้ความเห็นประกอบการพิจารณาแก่ที่ประชุมผู้ถือหุ้นและแต่งตั้งนายพาที สารสิน เป็นกรรมการบริษัท มีผลตั้งแต่วันที่ 8 ก.พ.2567 เป็นต้นไป เนื่องจากมีประสบการณ์ความรู้ ความสามารถ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจของบริษัท
สำหรับวัตถุประสงค์ของการเพิ่มทุนครั้งนี้ จะได้รับเงินไม่เกิน 1,059,240,000 บาท และหากมีการใช้สิทธิ RML-W1 ทั้งจำนวน บริษัทจะได้รับเงินไม่เกิน 308,000,000 บาท และหากมีการใช้สิทธิโครงการ RML ESOP WARRANT ครั้งที่ 1 ทั้งจำนวน บริษัทจะได้รับเงินไม่เกิน 44,000,000 บาท รวมทั้งสิ้นไม่เกิน 1,411,240,000 บาท บริษัทจะนำเงินที่ได้จากการเพิ่มทุนเพื่อลงทุนในโครงต่างๆ ไม่เกิน 200 ล้านบาท ในระยะเวลาไม่เกิน 3 ปี และชำระคืนหนี้ตามตั๋วแลกเงินและหรือสัญญากู้ยืมเงินและหรือหุ้นกู้ระยะสั้นของกลุ่มบริษัทและ/หรือกิจการร่วมค่าและหรือเพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนไม่เกิน 1,211.24 ล้านบาท ในระยะเวลาไม่เกิน 3 ปี