JASIF ปี 66 ขาดทุน 1.1 หมื่นล้าน งดจ่ายปันผลไตรมาส 4

HoonSmart.com>> “กองทุนโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน” (JASIF) เปิดงบปี 66 ขาดทุนสุทธิ 1.11 หมื่นล้านบาท เหตุกำไรจากการลงทุนสุทธิลดลง 10% ขาดทุนจากการเปลี่ยนแปลงในมูลค่ายุติธรรมของเงินลงทุนในทรัพย์สินเส้นใยแก้วนำแสง 1.9 หมื่นล้านบาท รายได้ลด ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น งดจ่ายเงินปันผลงวดไตรมาส 4/66 เหตุขาดทุนสะสม 8,196 ล้านบาท

กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน (JASIF) เปิดเผยผลการดำเนินงานปี 2566 มีการลดลงในสินทรัพย์สุทธิจากการดำเนินงานจำนวน 11,139.18 ล้านบาท จากปี 2565 มีการเพิ่มขึ้นในสินทรัพย์สุทธิจากการดำเนินงานจำนวน 3,650.40 ล้านบาท

รายได้รวมในปี 2566 เท่ากับ 9,514.85 ล้านบาท ลดลง 7.56% โดยมาจากรายได้ค่าเช่าทรัพย์สินเส้นใยแก้วนำแสง 9,436.51 ล้านบาท ลดลง 8.10% และมีรายได้ดอกเบี้ย 74.53 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 200.28% และมีรายได้อื่น 3.81 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3,710% ส่วนค่าใช้จ่ายรวมในปี 2566 เท่ากับ 1,554.07 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.69%

ค่าใช้จ่ายรวมจำนวน 1,554.07 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.69% จากปีก่อน แบ่งเป็นค่าใช้จ่ายการดำเนินงาน 534.31 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.89% จากปีก่อน ประกอบด้วยค่าบริหารดูแลและบำรุงรักษาทรัพย์สิน 425.75 ล้านบาท ค่าสิทธิแห่งทาง 99.19 ล้านบาท และมีต้นทุนทางการเงิน 887.68 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 15.99% จากปีก่อน

ขณะที่กำไรจากการลงทุนสุทธิของปี 2566 เท่ากับ 7,960.78 ล้านบาท ลดลง 10.05% เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อน ขาดทุนจากการเปลี่ยนแปลงในมูลค่ายุติธรรมของเงินลงทุน 19,099.98 ล้านบาท ลดลง 267.30% จากปีก่อน (สาเหตุหลักจากค่าเช่าทรัพย์สินเส้นใยแก้วนำแสงตามสัญญาแก้ไขเพิ่มเติมและแทนที่สัญญาประกันรายได้ค่าเช่า 802.76 บาทต่อคอร์กิโลเมตรต่อเดือน โดยเรียกเก็บถึงวันที่ 24 สิงหาคม 2566 ซึ่งเป็นไปตามมติที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหน่วยลงทุน ครั้งที่ 1/2566) สินทรัพย์สุทธิจากการดำเนินงานลดลง 11,139.18 ล้านบาท เปลี่ยนแปลงลดลง 405.15% จากปีก่อน

สำหรับงวดไตรมาส 4 ปี 2566 มีรายได้รวม 1,859.29 ล้านบาท ลดลง 27.82% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และลดลง 20.45% จากไตรมาสก่อนหน้า โดยมาจากรายได้ค่าเช่าทรัพย์สินเส้นใยแก้วนำแสง 1,834.74 ล้านบาท ลดลง 28.53% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน (เนื่องจากค่าเช่าทรัพย์สินเส้นใยแก้วนำแสงตามสัญญาแก้ไขเพิ่มเติมและแทนที่สัญญาประกันรายได้ค่าเช่าเรียกเก็บถึงวันที่ 24 ส.ค.2566) และลดลง 20.69% จากไตรมาสก่อนและรายได้ดอกเบี้ย 24.55 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 174.92% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนและเพิ่มขึ้น 16.63% จากไตรมาสก่อน

กองทุนมีกำไรจากการลงทุนสุทธิในไตรมาส 4 ปี 2566 จำนวน 1,485.53 ล้านบาท ลดลง 32.75% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนและลดลง 23.38% จากไตรมาสก่อน ขาดทุนจากการเปลี่ยนแปลงในมูลค่ายุติธรรมของเงินลงทุน 1,000.05 ล้านบาท (ในเดือนธ.ค.2566 กองทุนได้ว่าจ้างผู้ประเมินมูลค่ายุติธรรมของเงินลงทุนในทรัพย์สินเส้นใยแก้วนำแสงให้เป็นมูลค่ายุติธรรมใหม่ ซึ่งเป็นมูลค่า 75,700 ล้านบาท จึงรับรู้ขาดทุนจากการเปลี่ยนแปลงในมูลค่ายุติธรรมของเงินลงทุนจากการประเมินมูลค่าเงินลงทุนดังกล่าว 1,000 ล้านบาท) สินทรัพย์สุทธิจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้น เท่ากับ 485.50 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 161.38% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนและเพิ่มขึ้น 104.73% จากไตรมาสก่อน

บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง ในฐานะบริษัทจัดการของกองทุน JASIF เปิดเผยว่า กองทุน JASIF จะงดจ่ายเงินปันผลในรอบรอบระยะเวลาบัญชี ตั้งแต่ วันที่ 1 ตุลาคม 2566 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2566 เนื่องจากกองทุนมีขาดทุนสะสม ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2566 จำนวน 8,196.15 ล้านบาท เนื่องจากการขาดทุนจากการเปลี่ยนแปลงในมูลค่ายุติธรรมของเงินลงทุน ดังนั้น กองทุนจึงไม่สามารถจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนสำหรับไตรมาสนี้ ซึ่งเป็นไปตามหลักเกณฑ์และนโยบายการจ่ายเงินปันผลที่ระบุในหนังสือชี้ชวนของกองทุน

ในงวดไตรมาส 4 ปี 2566 กองทุนมีขาดทุนสะสม ณ วันที่ 31 ธ.ค. 2566 จำนวน 8,196.15 ล้านบาท เนื่องจากการขาดทุนจากการเปลี่ยนแปลงในมูลค่ายุติธรรมของเงินลงทุน ดังนั้น กองทุนจึงไม่สามารถจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนสำหรับไตรมาสนี้ซึ่งเป็นไปตามหลักเกณฑ์และนโยบายการจ่ายเงินปันผลที่ระบุในหนังสือชี้ชวนของกองทุน

อนึ่ง กองทุนมีเงินสดจากการดำเนินงานสำหรับรอบระยะเวลาบัญชีตั้งแต่ วันที่ 1 ต.ค.2566 ถึงวันที่ 31 ธ.ค.2566 จำนวน 1,485.53 ล้านบาท เนื่องจากการขาดทุนจากการเปลี่ยนแปลงในมูลค่ายุติธรรมของเงินลงทุน เป็นรายการทางบัญชีที่ไม่มีกระแสเงินสดออกไปจริง ดังนั้น บริษัทจัดการจะนำเงินจำนวน 1,280.00 ล้านบาท ไปดำเนินการลดเงินทุนจดทะเบียนของกองทุน โดยกำหนดการลดเงินทุนจดทะเบียนครั้งที่ 5 ในอัตรา 0.1600 บาทต่อหน่วย โดยการลดมูลค่าที่ตราไว้ จากหน่วยละ 9.6916 บาท เหลือหน่วยละ 9.5316 บาท วันปิดสมุดทะเบียนเพื่อสิทธิในการรับเงินเฉลี่ยคืนจากการลดทุนในวันที่ 23 ก.พ. 2567 และจ่ายเงิน 18 ก.พ.2567 ขึ้น XN ไม่ได้รับสิทธิการรับเงินเฉลี่ยคืนจากการลดเงิน 21 ก.พ. 2567