PTTEP ปี 66 กำไร 7.67 หมื่นลบ. โต 8.19% ปันผล 5.25 บาท XD 19 ก.พ.

HoonSmart.com>> “ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม” (PTTEP) เปิดกำไรปี 66 โตแตะ 7.67 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.19% เหตุผลขาดทุนจากสัญญาประกันความเสี่ยงราคาน้ำมันและการด้อยค่าของสินทรัพย์ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ด้านรายได้รวมลดลง บอร์ดเคาะจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลอัตรา 5.25 บาท ขึ้น XD 19 ก.พ.นี้ จ่ายเงิน 22 เม.ย.67

บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) เปิดเผยผลการดำเนินงานปี 2566 มีกำไรสุทธิ 76,706.39 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 18.89 บาท เพิ่มขึ้นจากงวดปี 2565 กำไรสุทธิ 70,901.33 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 17.94 บาท

ปตท.สผ.มีรายได้รวม 9,057 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลง 603 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จากงวดปี 2565 และมีรายได้จากการขาย 8,511 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลง 759 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จากปี 2565 และมี EBITDA จำนวน 6,433 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลง 670 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จากปี 2565

สาเหตุที่กำไรจากการดำเนินงานปกติลดลง เนื่องจากราคาขายเฉลี่ยของบริษัทลดลงจากปีก่อนหน้า 10% มาอยู่ที่ 48.21 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ รวมถึงปริมาณขายเฉลี่ยต่อวันที่ปรับตัวลดลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ 462,007 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน โดยหลักจากโครงการโอมาน แปลง 61 ที่มีการรายงานปริมาณขายลดลง (Entitlement) ตามเงื่อนไขของสัญญาแบ่งปันผลผลิต ในขณะที่ โครงการจี 1/61 (เอราวัณ) เพิ่มกำลังการผลิตก๊าชธรรมชาติมาอยู่ที่ 400 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวันได้เมื่อเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ กำไรสุทธิของบริษัทปรับตัวเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า จากการลดลงของผลขาดทุนที่ไม่ใช่การดำเนินงานปกติ เช่น ผลขาดทุนจากสัญญาประกันความเสี่ยงราคาน้ำมันและการด้อยค่าของสินทรัพย์ในจำนวนที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนั้น บริษัทยังคงรักษาต้นทุนต่อหน่วยให้อยู่ในระดับที่แข่งขันได้ โดยในปี 2566 ต้นทุนต่อหน่วยลดลงจากปีก่อนหน้ามาอยู่ที่ 27.65 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลต่อบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมั่นดิบ

ทั้งนี้ คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบดูไบในช่วงครึ่งแรกของปี 2567 จะทรงตัวอยู่ที่ระดับ 70 – 80 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล โดยมีปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ ภาวะเศรษฐกิจในฝั่งประเทศตะวันตก การเติบโตของเศรษฐกิจโลก นโยบายและความเข้มงวดในการควบน้ำมันดิบของกลุ่ม OPEC+ อัตราการผลิตน้ำมันดิบของประเทศนอกกลุ่ม OPEC+ ที่มีแนวโน้มสูงขึ้นต่อเนื่อง และความเสี่ยงทางด้านภูมิรัฐศาสตร์หรือภัยก่อการร้ายที่อาจส่งผลกระทบต่ออุปทานน้ำมันดิบ

ด้านฐานะการเงิน ณ สิ้นปี 2566 บริษัทมีสินทรัพย์รวม 26,380 ล้านเหรียญสหรัฐฯในขณะที่มีหนี้สินรวม 11,787 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยยังคงอยู่ในระดับดีที่ 0.25 เท่า และเป็นไปตามนโยบายทางการเงินดอกเบี้ย 3,654 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และส่วนของผู้ถือหุ้น 14,593 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ทำให้อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นยังคงอยู่ในระดับดีที่ 0.25 เท่า และเป็นไปตามนโยบายทางการเงิน

คณะกรรมการบริษัทฯ มีมติให้จ่ายเงินปันผลจากงวดการดำเนินงานวันที่ 1 ก.ค.2566-31 ธ.ค.2566 และกำไรสะสม ให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตรา 5.25 บาท กำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล (Record date) วันที่ 20 ก.พ.2567 และขึ้น XD วันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล 19 ก.พ.2567 จ่ายเงินในวันที่ 22 เม.ย.2567 ทั้งนี้ ปตท.สผ.ได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลสำหรับงวด 6 เดือนแรกของปี 2566 ไปแล้วในอัตราหุ้นละ 4.25 บาท รวมทั้งปีปันผลทั้งสิ้น 9.50 บาท