บลจ.ภัทร มองหุ้นโค้งสุดท้ายผันผวนสูง ลงทุนต้องใช้ความระมัดระวังและติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด แนะกระจายลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ช่วยลดความเสี่ยง โอกาสเพิ่มผลตอบแทนระยะยาว พร้อมเปิดตัว 3 กองทุน RMF เน้นลงทุนสินทรัพย์หลากหลายและหุ้นบริษัทชั้นนำข้ามชาติ IPO วันนี้- 7 ธ.ค.61
นายยุทธพล ลาภละมูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ภัทร จำกัด ในกลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร เปิดเผยว่า มุมมองการลงทุนในช่วงที่เหลือของปี 2561 ตลาดการลงทุนทั่วโลกยังคงมีความผันผวนจากผลกระทบที่เกิดขึ้นจากปัจจัยต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสัญญาณการชะลอตัวการเติบโตของเศรษฐกิจโลก แนวโน้มการทยอยขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ อย่างต่อเนื่อง ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ที่ยังไม่มีความชัดเจน
สำหรับราคาน้ำมันดิบยังคงมีปัจจัยที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็นมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯต่อประเทศอิหร่าน และการประชุมของกลุ่ม OPEC ที่กำลังจะเกิดขึ้น โดยในสภาวะที่ตลาดมีความผันผวนนี้ การลงทุนจึงต้องใช้ความระมัดระวังและต้องติดตามประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
“บลจ.ภัทร แนะนำให้ผู้ลงทุนควรเน้นกระจายเงินลงทุนไปในทรัพย์สินประเภทต่าง ๆ ทั้งในและต่างประเทศ เพื่อช่วยลดความเสี่ยงของการลงทุนโดยรวมและเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทนในระยะยาว”นายยุทธพล กล่าว
พร้อมกันนี้บริษัทฯ ได้ออกกองทุนเพื่อการเลี้ยงชีพใหม่จำนวน 3 กองทุน เป็นทางเลือกการลงทุนพร้อมสิทธิประโยชน์ทางภาษีในช่วงท้ายของปี ประกอบด้วยกองทุนเปิดภัทร สตราทิจิค แอสเซ็ทอโลเคชั่น เพื่อการเลี้ยงชีพ (Phatra Strategic Asset Allocation Retirement Fund – PHATRA SG-AA RMF), กองทุนเปิดภัทร โกลบอล นิว เพอร์สเปกทีฟ เพื่อการเลี้ยงชีพ อันเฮดจ์ (Phatra Global New Perspective Retirement Fund-Unhedged – PHATRA GNP RMF-UH) และกองทุนเปิดภัทร โกลบอล นิว เพอร์สเปกทีฟ เพื่อการเลี้ยงชีพ เฮดจ์ (Phatra Global New Perspective Retirement Fund-Hedged – PHATRA GNP RMF-H) โดยทั้งสามกองทุนเปิดเสนอขายครั้งแรก (IPO) ระหว่างวันที่ 19 พ.ย. – 7 ธ.ค. 2561 ลงทุนขั้นต่ำ 1,000 บาท
กองทุนเปิดภัทร สตราทิจิค แอสเซ็ท อโลเคชั่น เพื่อการเลี้ยงชีพ (PHATRA SG-AA RMF) เน้นกระจายการลงทุนในทรัพย์สินประเภทต่าง ๆ ได้แก่ ตราสารหนี้ ตราสารทุน ทรัพย์สินทางเลือก ทั้งในและต่างประเทศสัดส่วนการลงทุนขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของบริษัทจัดการและตามความเหมาะสมกับสภาวการณ์แต่ละขณะ และเพื่อประสิทธิภาพในการบริหารจัดการลงทุนในช่วงแรก กองทุน PHATRA SG-AA RMF อาจพิจารณาลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน PHATRA SG-AA ที่มีการกระจายการลงทุนไปยังทรัพย์สินหลากหลายประเภทภายใต้กรอบการให้คำแนะนำในด้านการลงทุนที่ระบุไว้ในบทวิเคราะห์ Asset Allocation ที่ได้รับจากที่ปรึกษาการลงทุน ซึ่งก็คือบริษัทหลักทรัพย์ ภัทร จำกัด (มหาชน)
การกระจายการลงทุนนี้จะช่วยลดความผันผวนและช่วยเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนให้กับนักลงทุนได้ในระยะยาว ดังนั้น กองทุน PHATRA SG-AA RMF จึงเป็นกองทุนที่จะตอบโจทย์ความต้องการของนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในระยะยาว และยังกระจายเงินลงทุนไปยังสินทรัพย์หลากหลายประเภท โดยผู้ลงทุนไม่ต้องทำเอง
ส่วนอีก 2 กองทุน กองทุนเปิดภัทร โกลบอล นิว เพอร์สเปกทีฟ เพื่อการเลี้ยงชีพ อันเฮดจ์ (PHATRA GNP RMF-UH) และกองทุนเปิดภัทร โกลบอล นิว เพอร์สเปกทีฟ เพื่อการเลี้ยงชีพ เฮดจ์ (PHATRA GNP RMF-H) เป็นกองทุน Feeder Fund ที่ลงทุนในกองทุนรวมหลักเพียงกองเดียวคือ Capital Group New Perspective Fund (LUX) ลงทุนในหุ้นของบริษัทชั้นนำทั่วโลกซึ่งเป็นบริษัทข้ามชาติที่แข็งแกร่ง โดยกองทุนเน้นลงทุนในหุ้นที่ได้รับประโยชน์จากแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงระยะยาวของโลกในอนาคต เช่น การขยายตัวของเทคโนโลยีดิจิตอลและอินเตอร์เน็ต การเพิ่มขึ้นของชนชั้นกลางและกำลังบริโภคของ Emerging Market รวมทั้งการก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ
กองทุนนี้จึงเหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการกระจายเงินลงทุนไปในหุ้นต่างประเทศ เพื่อเป็นส่วนประกอบหนึ่งของการจัดสรรการลงทุนที่สอดคล้องกับการประเมินความเหมาะสมในการลงทุนของผู้ลงทุน สำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการลดความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน สามารถเลือกลงทุนในกองทุน PHATRA GNPRMF-H ซึ่งมีนโยบายการลงทุนเหมือนกับ PHATRA GNP RMF-UH แต่กองทุน PHATRA GNP RMF-H จะป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นสกุลเงินฐาน (Base Currency) ของหน่วยลงทุนของกองทุนหลัก ไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 ของมูลค่าเงินลงทุนในต่างประเทศ ซึ่งจะช่วย
“บลจ.ภัทร ให้ความสำคัญกับการออกกองทุน โดยเชื่อว่าทั้ง3 กองทุนจะตอบสนองต่อความต้องการของผู้ลงทุนที่หลากหลาย เป็นทางเลือกที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนระยะยาว เก็บออมไว้ใช้ยามเกษียณ พร้อมรับสิทธิ์ลดหย่อนภาษีและเพิ่มโอกาสในการรับผลตอบแทนที่ดีในอนาคต รวมทั้งแนะนำให้ผู้ลงทุนควรใช้วิธีการลงทุนแบบ Dollar Cost Average (DCA) หรือการทยอยลงทุนทุกเดือน ซึ่งนอกจากจะช่วยเฉลี่ยต้นทุนในการเข้าลงทุนแล้ว ยังเป็นการสร้างวินัยที่ดีในการออมให้กับผู้ลงทุนอีกด้วย”นายยุทธพล กล่าว