บล.กสิกรฯถอยตั้งรับที่ 1,415 สัปดาห์หน้าลุ้นส่งออกต.ค.-ฟันด์โฟลว์

HoonSmart.com>>บล.กสิกรไทยให้แนวรับที่ 1,440 และ 1,415 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,460 และ 1,470 จุด   ด้านค่าเงินบาท ธนาคารกสิกรไทยมองกรอบการเคลื่อนไหวที่ระดับ 34.40-34.90 บาทต่อดอลลาร์ฯ

บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทยมองหุ้นสัปดาห์ถัดไป (25-29 พ.ย.2567) ดัชนีหุ้นมีแนวรับที่ 1,440 และ 1,415 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,460 และ 1,470 จุด ตามลำดับ

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลขส่งออกเดือนต.ค.ของไทย และทิศทางเงินทุนต่างชาติ

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ บันทึกการประชุมเฟด ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3/2567 ยอดขายบ้านใหม่ ดัชนี PCE/Core PCE Price Index รายได้และรายจ่ายส่วนบุคคล ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน เดือนต.ค. รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ขณะที่ปัจจัยเศรษฐกิจต่างประเทศอื่นๆ ได้แก่ กำไรบริษัทภาคอุตสาหกรรมเดือนต.ค. ของจีน ดัชนีราคาผู้บริโภค (เบื้องต้น) เดือนพ.ย. ของยูโรโซน ตลอดจนผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนต.ค. ของญี่ปุ่น

ในวันศุกร์ที่ 22 พ.ย. 2567 ดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,446.30 จุด เพิ่มขึ้น 0.25% จากระดับปลายสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 41,316.10 ล้านบาท ลดลง 12.71% ส่วนดัชนี mai เพิ่มขึ้น 0.30% มาปิดที่ระดับ 322.57 จุด

ดัชนีหุ้นดีดตัวขึ้นช่วงต้นถึงกลางสัปดาห์ขานรับปัจจัยบวก ทั้งรายงานตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3/2567 ที่ขยายตัว 3.0% YoY ซึ่งดีกว่าที่ตลาดคาด และรายงานข่าวเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศเพิ่มเติม ซึ่งหนุนแรงซื้อหุ้นในหลายกลุ่มอุตสาหกรรม นำโดย กลุ่มพลังงาน เทคโนโลยี และแบงก์

อย่างไรก็ดี ดัชนีหุ้นร่วงลงแรงในเวลาต่อมา โดยเผชิญแรงขายหลักๆ จากหุ้นบริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่แห่งหนึ่งหลังเข้ามาตรการกำกับการซื้อขายระดับ 1 แม้จะมีแรงซื้อหุ้นบิ๊กแคปอื่นๆ เข้ามาประคองตลาดก็ตาม ตลาดหุ้นฟื้นตัวกลับมาได้บางส่วนช่วงปลายสัปดาห์ตามทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศ ประกอบกับนักลงทุนน่าจะคลายความกังวลต่อประเด็นการเมืองลงในช่วงปลายสัปดาห์ด้วยเช่นกัน

ส่วนค่าเงินบาทสัปดาห์ระหว่างวันที่ 25-29 พ.ย. ธนาคารกสิกรไทยมองกรอบการเคลื่อนไหวที่ระดับ 34.40-34.90 บาทต่อดอลลาร์ฯ

สัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทแข็งค่าขึ้นในช่วงต้นสัปดาห์ หลังตัวเลขจีดีพีของไทยในไตรมาสที่ 3/2567 ออกมาดีกว่าที่ตลาดคาด นอกจากนี้ เงินบาทยังมีแรงหนุนเพิ่มเติมจากการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำในตลาดโลก ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ ยังเผชิญแรงขายทำกำไรและปรับโพสิชั่นอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ปรับตัวขึ้นมาค่อนข้างมากในช่วงก่อนหน้านี้

เงินบาทลดช่วงบวกบางส่วนลงในช่วงกลางสัปดาห์ท่ามกลางแรงกดดันจากสถานะขายสุทธิหุ้นและพันธบัตรไทยของนักลงทุนต่างชาติ ประกอบกับเงินดอลลาร์ฯ ทยอยฟื้นตัวกลับมา เนื่องจากตลาดเปลี่ยนจุดสนใจกลับมารอประเมินนโยบายและมาตรการต่างๆ ของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีคนที่ 47 ของสหรัฐฯ และความไม่แน่นอนของโอกาสการลดดอกเบี้ยของเฟดในเดือนธ.ค. อย่างไรก็ดี เงินบาทแข็งค่ากลับมาอีกครั้งในช่วงปลายสัปดาห์ตามแรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำในตลาดโลกท่ามกลางสัญญาณตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครน

ในวันศุกร์ที่ 22 พ.ย. 2567 เงินบาทปิดตลาดในประเทศที่ 34.58 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับระดับ 34.82 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (15 พ.ย. 67)

สำหรับสถานะพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติระหว่างวันที่ 18-22 พ.ย. 2567 นั้นซื้อสุทธิหุ้นไทย 907 ล้านบาท และมีสถานะอยู่ในฝั่ง Net Outflows ออกจากตลาดพันธบัตรไทย 1,330 ล้านบาท (แบ่งเป็น ซื้อสุทธิพันธบัตร 91 ล้านบาท หักด้วยตราสารหนี้หมดอายุ 1,421 ล้านบาท)

 
 
 
———————————————————————————————————————————————————–