ITD-แบงก์รอด! ยืดหุ้นกู้ 4 รุ่น – 1 รุ่น นัดโหวตใหม่ 30 ม.ค.นี้

HoonSmart.com>>”อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์-ITD”และแบงก์เจ้าหนี้พ้นวิกฤต ผู้ถือหุ้นกู้ 4 รุ่นของ ITD เทคะแนนมากกว่า 90% ผ่อนผันการดำรง D/E Ratio เปิดทางเจรจาปรับโครงสร้างหนี้ และขยายอายุออกไปอีก 2 ปี แลกเพิ่มดอกเบี้ย ส่วนอีก 1 รุ่น ไม่ครบองค์ประชุม นัดโหวตใหม่ 30 ม.ค.นี้ คาดไม่มีปัญหา หนุนหุ้นธนาคารกสิกรไทยบวก สวนทางตลาดหุ้นทรุดหนัก -1.50% ฝีมือต่างชาติเทกระจาดมากถึง 5,749 ล้านบาท แดงเถือกตามภูมิภาค ฮ่องกงดิ่งหนักสุด -3.71% ผิดหวังเศรษฐกิจจีน กดดันหุ้นที่เกี่่ยวข้อง SCC ร่วงกว่า 3% และนิคมอุตสาหกรรม หุ้นยุโรป-สหรัฐร่วง  

บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ (ITD) แจ้งตลาดหลักทรัพย์ ในฐานะผู้ออกหุ้นกู้ได้จัดการประชุมผู้ถือหุ้นกู้ครั้งที่ 1/2567 ในวันที่ 17 ม.ค.2567 ในรูปแบบการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์(E-Meeting) สำหรับหุ้นกู้ทุกชุด โดยการพิจารณาวาระที่ 1 ผู้ถือหุ้นกู้เห็นชอบด้วยคะแนนมากกว่า 90% ผ่อนผันการดำรงอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E Ratio) ตามที่กำหนดในข้อกำหนดสิทธิโดยให้มีผลตั้งแต่วันสิ้นสุดรอบบัญชีปี 2566 จนถึงปี 2568 และผ่อนผันให้เจรจา หรือเข้าทำสัญญาใด ๆ กับเจ้าหนี้เพื่อปรับโครงสร้างหนี้ โดยไม่ถือเป็นเหตุผิดนัดตามข้อกำหนดสิทธิ

ส่วนวาระที่ 2 ผู้ถือหุ้นกู้ 4 รุ่น อนุมัติการขยายวันครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้ไปอีก 2 ปี  และการเพิ่มอัตราดอกเบี้ยอีก  0.25% ต่อปีจากเดิมจนถึงวันครบ 1 ปี  และเพิ่มอีก 0.50% ต่อปี

อย่างไรก็ตาม สำหรับหุ้นกู้ ITD254A ซึ่งไม่ครบองค์ประชุม ประธานในที่ประชุมสั่งเลิกประชุม และแจ้งเลื่อนประชุมใหม่ไปเป็นวันอังคารที่ 30 ม.ค. 2567 เวลา 14.00 น. ในรูปแบบการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (E-Meeting)

ผลการประชุมผู้ถือหุ้นกู้ ITD ออกมาตามคาดการณ์  เนื่องจากบริษัทแจ้งเหตุผลของการผ่อนผันการดำรงสัดส่วน D/E  เพื่อสนับสนุนการให้สินเชื่อก้อนใหม่จากสถาบันการเงิน ซึ่งจะช่วยให้บริษัทรอดพ้นจากวิกฤต ดีกว่าปล่อยให้บริษัทผิดนัดชำระหนี้  ซึ่งข่าวดีที่เกิดขึ้น สนับสนุนให้ธนาคารเจ้าหนี้ เช่น ธนาคารกสิกรไทย(KBANK) ราคาหุนปรับขึ้น 0.50 บาท ปิดที่ 131 บาท ท่ามกลางตลาดหุ้นร่วงลงแรง -1.50 % ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ปิดที่ระดับ 1,380.65 จุดท่ามกลางมูลค่าการซื้อขายหนาตา 56,728.83 ล้านบาท  เนื่องจากนักลงทุนต่างชาติขายมากถึง 5,749 ล้านบาท  โดยแรงขายกระจายในหุ้นหลายกลุ่ม โดยเฉพาะบริษัทที่มีรายได้มาจากกำลังซื้อของจีน เช่นปิโตรเคมี และนิคมอุตสาหกรรม  ส่งผลกระทบต่อหุ้น SCC ,AMATA และ WHA

“ตลาดหุ้นไทยแดงเถือกไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นต่างประเทศ  เช่น สหรัฐ ยุโรป และภูมิภาค โดยเฉพาะฮ่องกงดิ่งหนักสุด  -3.71% ตามด้วยเกาหลีใต้   -2.47% และจีน  -2.09% เพราะผิดหวังตัวเลขเศรษฐกิจจีน โตเพียง 5.2% ต่ำกว่าคาดการณ์ หวั่นจะถดถอยหลังจากธุรกิจธนาคารและอสังหาริมทรัพย์ล้มลาย  ส่งผลให้แนวโน้มราคาสินทรัพย์เสี่ยงยังคงปรับตัวลงต่อ ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ ราคาทองคำ ก็ปรับตัวลงด้วย”

ด้านบริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองศรษฐกิจจีนปี 2566 เติบโตได้ที่ 5.2% ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายทางการที่ 5.0% อย่างไรก็ตาม ภาคอสังหาริมทรัพย์ยังเป็นปัจจัยฉุดรั้งการเติบโตของเศรษฐกิจจีน ส่วนในปี 2567 ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่าเศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มเติบโตชะลอลงอยู่ที่ 4.5% โดยยังมีความเสี่ยงในภาคอสังหาริมทรัพย์และความเสี่ยงการเข้าสู่ภาวะเงินฝืดเพิ่มขึ้น