บลจ.ไทยพาณิชย์มองตลาดหุ้นจีน 12 เดือนหน้าฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป

HoonSmart.com>> บลจ.ไทยพาณิชย์ มองตลาดหุ้นจีนยังน่าลงทุน ราคาปรับตัวลงมาค่อนข้างมาก เชื่อระยะ 12 เดือนข้างหน้ามีแนวโน้มฟื้นตัวต่อได้ในลักษณะค่อยเป็นค่อยไป ความเสี่ยงตลาดปรับตัวลงแบบรุนแรงมีจำกัด พร้อมเสิร์ฟกองทุน SCBDSHARC1YI เสริมพอร์ตลดเสี่ยงขาดทุนเงินต้น เพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนส่วนเพิ่มจากสัญญาออปชั่นอิง HSCEI Index

นางนันท์มนัส เปี่ยมทิพย์มนัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไทยพาณิชย์ จำกัด ( SCBAM) เปิดเผยว่า จีนเป็นประเทศที่ยังน่าสนใจเข้าลงทุน หลังจากที่ตลาดหุ้นจีนปรับระดับราคา (Price Drawdown) และระดับมูลค่า (Valuation) ลงมาค่อนข้างมาก โดยมองว่าระยะ 12 เดือนข้างหน้า ตลาดหุ้นจีนมีแนวโน้มที่จะฟื้นตัวต่อได้ในลักษณะค่อยเป็นค่อยไป และความเสี่ยงที่ตลาดจะปรับตัวลงแบบรุนแรงค่อนข้างมีจำกัด

ทั้งนี้ ภาพรวมเศรษฐกิจจีนเริ่มเห็นภาพการฟื้นตัวจากดัชนีตัวเลขเศรษฐกิจที่ปรับขึ้นมาตั้งแต่ไตรมาส 3 ของปีที่ผ่านมา โดยได้รับปัจจัยหนุนจากภาคอุตสาหกรรมและกลุ่มค้าปลีก จากการที่หน่วยงานและภาครัฐทยอยออกมาตรการช่วยเหลือทางการเงิน-การคลัง และการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อเสริมสภาพคล่องเข้าสู่ระบบต่อเนื่อง

สำหรับในเชิงของการเข้าลงทุน SCBAM มองว่าตลาดหุ้นจีน H-Shares หรือ Hang Seng China Enterprises (HSCEI Index) เป็นตลาดที่มีความน่าสนใจ จากการที่เป็นตลาดหุ้นจีนขนาดใหญ่ บริษัทจดทะเบียนส่วนใหญ่มีปัจจัยพื้นฐานดี งบฐานะการเงินแข็งแกร่ง และมีสภาพคล่องสูง SCBAM จึงเปิดเสนอขาย กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ Double Structured Complex Return 1YI หรือ SCBDSHARC1YI ซึ่งจะเป็นกองทุนที่มีกลยุทธ์ลดความเสี่ยงจากการขาดทุนเงินต้น พร้อมหาโอกาสสร้างผลตอบแทนส่วนเพิ่มจากการปรับตัวของดัชนี HSCEI ทั้งในจังหวะขาขึ้นและขาลง โดยจะเปิดขายหน่วยลงทุนเพียงครั้งเดียว ระหว่างวันที่ 16-23 มกราคม 2567 เริ่มต้นลงทุนขั้นต่ำ 500,000 บาท

สำหรับ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ Double Structured Complex Return 1YI ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย หรือ SCBDSHARC1YI กองทุน Complex Fund อายุ 1 ปี ที่มีนโยบายการลงทุนแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ (1) ลงทุนในตราสารหนี้และเงินฝาก ระดับ Investment Grade ทั้งในและต่างประเทศ ในสัดส่วนร้อยละ 98.10 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน (NAV) เพื่อช่วยลดความเสี่ยงการขาดทุนเงินต้น พร้อมโอกาสรับผลตอบแทนคงที่จากตราสารหนี้ที่เข้าไปลงทุนได้

(2) ลงทุนในสัญญาออปชั่นที่อ้างอิงกับการเคลื่อนไหวของดัชนี Hang Seng China Enterprises หรือ HSCEI Index ร้อยละ 1.90 ของ NAV เพื่อหาโอกาสรับผลตอบแทนส่วนเพิ่มจากการจ่ายผลตอบแทน แบบ Double Shark Fin ตามการปรับตัวของราคาดัชนีอ้างอิงทั้งขาขึ้น-ขาลง ซึ่งจะมีโอกาสรับผลตอบแทนสูงสุดที่เป็นไปได้ที่ 10% และ 12% จากการเปลี่ยนแปลงของราคาดัชนีอ้างอิงที่ไม่เกินกรอบ -20% ถึง 24% ตามลำดับ(*) เมื่อเทียบกับราคาสินทรัพย์ ณ วันเริ่มต้นสัญญา ทั้งนี้ หากราคาดัชนีอ้างอิงไม่มีการเปลี่ยนแปลง หรือเปลี่ยนแปลงเกินกว่ากรอบการปรับตัวองราคาดัชนีที่ตั้งไว้ระหว่างอายุสัญญา จะทำให้ผู้ลงทุนไม่ได้รับผลตอบแทนส่วนเพิ่มนี้ แต่ยังได้รับผลตอบแทนอัตราคงที่จากการลงทุนตราสารหนี้และเงินฝากในส่วนแรกพร้อมเงินต้นได้

นางนันท์มนัส กล่าวเพิ่มเติมว่า จีนยังเจอภาวะกดดันจากปัญหาภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ยืดเยื้อ และความตึงเครียดทางการเมือง รวมถึงการแข่งขันด้านเศรษฐกิจและเทคโนโลยี ระหว่างสหรัฐฯ- จีน อย่างไรก็ดี ตัวเลขดัชนีเศรษฐกิจของจีนยังสะท้อนให้เห็นว่ามีโอกาสกลับมาฟื้นตัวได้จากความโดดเด่นเชิงปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ควบคู่กับมาตรการผลักดันเศรษฐกิจที่ภาครัฐเร่งทำอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับ ความคาดหวังของตลาดยังอยู่ในระดับที่ไม่สูงมาก ทำให้การรายงานดัชนีเศรษฐกิจมีความเป็นไปได้มากขึ้นที่จะออกมาดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ ปัจจัยข้างต้นอาจส่งผลให้ตลาดมีความผันผวนในกรอบ จึงมองว่าการลงทุนที่สามารถให้ผลตอบแทนต่อการปรับตัวของตลาดหุ้นทั้งในขาขึ้น-ขาลงแบบ Double Shark Fin จะเป็นส่วนเสริมพอร์ต และมีโอกาสรับผลตอบแทนส่วนเพิ่มจากผลตอบแทนจากตราสารหนี้ได้