HoonSmart.com>> CPALL เดินหน้าซื้อ 7-Eleven ญี่ปุ่น คาดใช้เงินมากถึง 1 แสนล้านบาท ฉุดราคาหุ้นไหลรูด หวั่นหนี้พุ่งสูง-กดดันกำไรปี 68 ตกต่ำ
การซื้อขายหุ้น บริษัท ซีพี ออลล์ (CPALL) วันที่ 6 ก.พ.2568 ที่ผ่านมา มีแรงขายต่อเนื่อง เปิดตลาด 49.50 บาท ลดลง 0.50 บาท แรงขายจำนวนมาก กดราคาหุ้นลงไปลึก 46.75 บาท ลดลง 3.25 บาท หรือ 6.5% ก่อนขยับเล็กน้อยปิดที่ 47.50 บาท ลดลง 2.50 บาท หรือ -5% จำนวนหุ้นซื้อขาย 154.23 ล้านหุ้น มูลค่าซื้อขาย 7,474.41 ล้านบาท สูงสุดอันดับ 1 ของตลาดวันนี้
สำหรับหุ้น CPALL คงปรับตัวลงต่อเนื่องจากปลายเดือนม.ค. 2568 ที่ผ่านมา จากราคา 56.50 บาท ราคาปิดปัจจุบัน (6 ก.พ.) 47.50 บาท ลดลง 9 บาท หรือ 15.93% จากข่าวสนใจซื้อ 7-Eleven ของญี่ปุ่น
ข่าวดังกล่าวสร้างความกังวัลให้กับนักลงทุน ถึงผลกระทบกับการใช้เงินลงทุนจำนวนมาก , การกู้เงินสถาบันการเงิน ดันหนี้พุ่ง ตลอดจนการเพิ่มทุนกระทบราคาหุ้น
ล่าสุด Bloomberg อ้างแหล่งข่าวว่า CPALL อาจเข้าร่วมกลุ่มเพื่อซื้อกิจการ การจัดการ Seven & I (โดยที่ Citi และ Bank of America ได้รับการทาบทามให้สนับสนุนการจัดหาเงินทุนของกลุ่มกิจการ) ข่าวดังกล่าวยังไม่มีการยืนยันจาก CPALL
ตามข่าว CPALL อาจเข้าถือหุ้นในการซื้อกิจการผู้บริหาร 500 พันล้านเยน (หรือ 110 พันล้านบาท)
การคำนวณของเรา สมมติว่า ใช้เงินทุน 100% ด้วยหนี้สิน อัตราหนี้สินต่อทุนของ CPALL จะเพิ่มขึ้นจาก 0.8 เท่าเป็น 1.15 เท่า ซึ่งยังต่ำกว่าข้อกำหนดในการชำระหนี้ที่ 2.0 เท่า
มูลค่าการซื้อกิจการโดยรวมยังไม่เป็นที่สิ้นสุด อย่างไรก็ตาม อ้างถึงตัวเลขการซื้อกิจการของผู้บริหารล่าสุดในข่าวคือ 9 ล้านล้านเยน ดังนั้น ด้วยเงิน 5 แสนล้านเยน CPALL จึงน่าจะถือหุ้น 5.6%
กรณีเช่นนี้ หากสมมติว่า ต้นทุนหนี้อยู่ที่ 4% ในระดับ CPALL อาจทำให้กำไรปี 2568 ตกต่ำ (ส่วนแบ่งกำไรสุทธิจาก Seven & I) ที่ 3.7%
คาดว่าสิ่งนี้จะยังคงกดดันหุ้น แม้ว่ายังคงคาดหวังผลกำไรที่มั่นคงในช่วงต่อ ๆ ไป