ดาวโจนส์ปิดร่วง 284 จุด กำหนดเวลาลดดอกเบี้ยเฟดยังไม่แน่นอน

HoonSmart.com>> ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ร่วง ทั้ง 3 ดัชนีหลักปิดลบ ดาวโจนส์ลดลง 284 จุด นักลงทุนขายทำกำไร มองการลดอัตราดอกเบี้ยยังไม่แน่นอน หลังรายงานประชุม Fed Minute ด้านตลาดแรงงานคลายความร้อนแรงต่อเนื่อง ข้อมูลการจ้างงานใหม่ลดลงมากกว่าคาด ด้าน “ราคาน้ำมันดิบ WTI” ดีด 2.32 ดอลลาร์ กว่า 3.3% ฟาก “ตลาดหุ้นยุโรป” ปิดลบ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) ปิดวันที่ 3 มกราคม 2567 วันแรกของการซื้อขายของปีนี้ ที่ 37,430.19 จุด ลดลง 284.85 จุด หรือ -0.76% จากแรงขายทำกำไร เนื่องจากการมุมมองในทางบวกต่อการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างรวดเร็วได้ลดลง ท่ามกลางการรายงานข้อมูลการจ้างงานใหม่และการเผยแพร่รายงานการประชุมจากการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ครั้งล่าสุดแสดงให้เห็นว่ากำหนดเวลาในการลดอัตราดอกเบี้ยยังคงไม่แน่นอน

ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,704.81 จุด ลดลง 38.02 จุด, -0.80%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,592.21 จุด ลดลง 173.73 จุด, -1.18%

ในช่วงเช้ารายงานข้อมูลเศรษฐกิจสองชุดที่บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจชะลอตัว โดยข้อมูลแรกได้แก่ผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) เดือนพฤศจิกายนสำนักงานสถิติของกระทรวงแรงงานรายงาน ซึ่งสัญญาณว่าตลาดแรงงานคลายความร้อนแรงต่อเนื่อง โดยการเปิดรับสมัครงาน ลดลง 62,000 ตำแหน่ง มาที่ 8.790 ล้านตำแหน่งซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2021 และต่ำกว่า 8.820 ล้านตำแหน่งที่นักวิเคราะห์คาด

ข้อมูลชุดที่สองคือ ดัชนีภาคการผลิตเดือนธันวาคมจากสถาบันจัดการด้านอุปทาน (ISM) ปรับตัวขึ้นมาที่ 47.4 จาก 46.7 ในเดือนพฤศจิกายน และสูงกว่า 47.2 ที่นักวิเคราะห์คาด แต่ยังคงหดตัวเพราะต่ำกว่า 50 โดยเป็นการหดตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 14

ตลาดได้รับแรงกดดันในบ่ายวันพุธหลังจากการเปิดเผยรายงานการประชุมล่าสุดของเฟด เนื่องจากแสดงให้เห็นว่าเฟดยังไม่พร้อมที่จะลดอัตราดอกเบี้ยลง

รายงานการประชุมเผยให้เห็นเจ้าหน้าที่เฟดเชื่อว่า ความเสี่ยงขาขึ้นต่ออัตราเงินเฟ้อลดลง โดยทั่วไปผู้เข้าร่วมเน้นย้ำถึงความสำคัญของการรักษาแนวทางอย่างระมัดระวังและขึ้นอยู่กับข้อมูลในการตัดสินใจเกี่ยวกับนโยบายการเงิน และยืนยันว่าจะเป็นการเหมาะสมที่นโยบายจะคงอยู่ในจุดยืนที่เข้มงวดต่อไปสักระยะหนึ่งจนกว่าอัตราเงินเฟ้อจะลดลงอย่างชัดเจนอย่างยั่งยืนตามวัตถุประสงค์ของคณะกรรมการ

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่เฟดบ่งชี้ว่า พวกเขาคาดว่าจะมีการปรับลด 3 ครั้งครั้งละ 0.25% ภายในปีนี้ แม้ว่าจะมีความไม่แน่นอนสูงว่าเมื่อไรจะปรับลดลง

เจสัน เบตซ์ ที่ปรึกษาprivate wealth ของ Ameriprise Financial กล่าวว่า ตลาดต้องการรู้ว่าว่าเฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยเมื่อใดและเท่าใด แต่ก็ไม่ได้คำตอบ แม้จะไม่ใช่หน้าที่ของเฟดที่จะต้องบอกก็ตาม การขายในวันนี้อาจเป็นความหงุดหงิดเล็กน้อยจากการขาดความโปร่งใสของเฟด

หุ้น megacap ที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ยปรับตัวลดลง โดย Nvidia, Apple และ Tesla ต่างลดลงระหว่าง 0.7% ถึง 4%

กลุ่มสายการบินลดลง เนื่องจากความกังวลว่าราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นจะส่งผลให้ต้นทุนเชื้อเพลิงของเครื่องบินสูงขึ้น แต่ขณะเดียวกันราคาน้ำมัน WTI ที่เพิ่มขึ้นกว่า 3% เป็นปัจจัยหนุนหุ้นกลุ่มพลังงาน ให้เพิ่มขึ้น 1.5%

ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ จากการเทขายทั้งตลาดในวงกว้าง หลังปรับขึ้นอย่างมากในปีที่ผ่านมา ด้วยความหวังว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ โดยดัชนี STOXX 600 ลง ไปแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 14 ธันวาคม และเป็นการปรับลงที่มากที่สุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน

ดัชนีสำคัญๆ ในเยอรมนี อิตาลี และฝรั่งเศส ร่วงลงมากกว่า 1% แตะระดับต่ำสุดในรอบ 1 เดือน

กลุ่มก่อสร้างและวัสดุลดลง 2.9% นับเป็นการลดลงแบบเปอร์เซ็นต์ในวันเดียวที่มากสุดในรอบเกือบหกเดือน

หุ้นกลุ่มการเงินลดลง 2.5% ขณะที่ราคาโลหะที่ลดลงฉุดหุ้นกลุ่มทรัพยากรพื้นฐานร่วง 2.3%

หุ้นกลุ่มสินค้าหรูร่วงลง 2.7% แตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายน โดยหุ้นLVMH, Kering, Hermes, Richemont ต่างลดลงราว 1.9-3.8%

ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 474.40 จุด ลดลง 4.11 จุด, -0.86%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,682.33 จุด ลดลง 39.19 จุด, -0.51%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,411.86 จุด ลดลง 119.00 จุด,-1.58%,
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 16,538.39 จุด ลดลง 230.97 จุด, -1.38%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์เพิ่มขึ้น 2.32 ดอลลาร์ หรือ 3.3% ปิดที่ 72.70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนมีนาคมเพิ่มขึ้น 2.36 ดอลลาร์ หรือ 3.1% ปิดที่ 78.25 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล