MTC ปิดจ๊อบสิ้นปีขายหุ้นกู้ 2 ชุดใหม่ ระดมทุนได้ 1.8 พันลบ.

HoonSmart.com>>”เมืองไทย แคปปิตอล”(MTC) สิ้นปีปิดขายหุ้นกู้ 2 ชุดใหม่ ระดมทุนได้ 1,800 ล้านบาท ตอกย้ำความเชื่อมั่นนักลงทุน พร้อมนำเงินลุยปล่อยกู้สนับสนุนประชาชนเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่เป็นธรรม ลดความเหลื่อมล้ำ เพิ่มศักยภาพการเติบโตของบริษัทฯ ในฐานะผู้นำธุรกิจสินเชื่อไมโครไฟแนนซ์ได้อย่างมั่นคง และให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นในระยะยาว

​นายปริทัศน์ เพชรอำไพ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล (MTC) เปิดเผยว่า หุ้นกู้ 2 ชุดใหม่ ที่เสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไป และผู้ลงทุนสถาบัน (เฉพาะบุคคลธรรมดา โดยให้บุคคลธรรมดาที่เป็นผู้ลงทุนสถาบันจองซื้อทั่วไปเท่านั้น) โดยเสนอขายระหว่างวันที่ 21-22 และ 25 ธันวาคม 2566 ผ่านสถาบันการเงินชั้นนำ 11 แห่ง วงเงินที่เสนอขาย 1,500 ล้านบาท ได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน สามารถปิดการขายได้เต็มจำนวน ทางบริษัทจึงตัดสินใจนำหุ้นกู้สำรอง (Greenshoe option) ออกเสนอขายเพิ่มเติมอีก ส่งผลให้บริษัทฯ สามารถระดมทุนจากการเสนอขายหุ้นกู้ในครั้งนี้มูลค่ารวม 1,800 ล้านบาท

​โดยหุ้นกู้ชุดที่ 1 มีอายุ 1 ปี 5 เดือน 15 วัน โดยครบกำหนดไถ่ถอนปี2568 อัตราดอกเบี้ยคงที่ระดับ 4.25% ต่อปี ชำระดอกเบี้ยทุกๆ 3 เดือน ตลอดอายุหุ้นกู้ โดยดอกเบี้ยงวดสุดท้ายจะมีระยะเวลา 2 เดือน 15 วัน ส่วนหุ้นกู้ชุดที่ 2 มีอายุ 2 ปี 5 เดือน 14 วัน ซึ่งครบกำหนดไถ่ถอนในปี 2569 และอัตราดอกเบี้ยคงที่ระดับ 4.40% ต่อปี ชำระดอกเบี้ยทุกๆ 3 เดือน ตลอดอายุหุ้นกู้ โดยดอกเบี้ยงวดสุดท้ายจะมีระยะเวลา 2 เดือน 14 วัน

​ทั้งนี้ ถือเป็นการตอกย้ำความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อบริษัทฯ ในฐานะผู้นำสินเชื่อไมโครไฟแนนซ์ ของเมืองไทยที่ดำเนินธุรกิจด้วยความโปร่งใส มีการเติบโตที่ยั่งยืน แข็งแกร่ง และเคียงข้างสังคมไทยมาตลอดกว่า 30 ปี โดยอันดับความน่าเชื่อถือของบริษัทฯ และหุ้นกู้ระดับ Investment Grade ที่ “BBB+” แนวโน้ม “คงที่” โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2566

​“MTC ขอขอบคุณนักลงทุนทุกท่านที่ให้ความเชื่อมั่นและการตอบรับหุ้นกู้ทั้ง 2 ชุดสุดท้ายของปีนี้เป็นอย่างดี และบริษัทฯ เตรียมนำเงินไปใช้ปล่อยสินเชื่อใหม่ เพื่อสนับสนุนและเพิ่มโอกาสให้ประชาชนได้เข้าถึงแหล่งเงินทุนที่เป็นธรรม ทั่วถึง และเท่าเทียม และขอบคุณที่เชื่อมั่นในธุรกิจของบริษัทฯ ในฐานะที่เป็นผู้นำในธุรกิจสินเชื่อไมโครไฟแนนซ์ที่บริหารงานภายใต้หลักธรรมาภิบาล และมีศักยภาพที่จะผลักดันการเติบโตได้อย่างมั่นคง สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นได้อย่างต่อเนื่อง” นายปริทัศน์ กล่าว

​นายปริทัศน์ กล่าวต่อว่า MTC ยังได้รับการจัดอันดับอยู่ในรายชื่อหุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings ที่ระดับ “A” ประจำปี 2566 จากการประเมินทางมิติเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยบริษัทฯ มีเป้าหมายที่จะพัฒนาให้เป็นระดับ AA ภายในปี 2569 นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้รับผลประเมินการกำกับดูแลกิจการบริษัทจดทะเบียนไทย ประจำปี 2566 ในระดับดีเลิศ (Excellent CG Scoring) หรือ 5 ดาว และเป็นปีที่ 6 ติดต่อกัน จากสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (Thai Institute of Directors : IOD) และบริษัทฯ ยังได้รับการรับรองผลการประเมิน ESG MSCI Index ในปี 2566 ที่ระดับ AA ในกลุ่มธุรกิจสินเชื่อเพื่อผู้บริโภค (Customer Finance) ซึ่งการประเมินทั้งในประเทศและระดับสากลเหล่านี้ ถือเป็นการตอกย้ำให้เห็นว่า บริษัทฯ มีการกำกับดูแลกิจการที่ดีเยี่ยมต่อเนื่อง สามารถเปิดเผยข้อมูลอย่างโปร่งใส คำนึงถึงผลกระทบต่อเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย รวมถึงการให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน