CPF ขาย 4 บริษัทในจีนคืนซีพี 2.2 พันลบ. ลดการขาดทุน กำไรพิเศษ 3 พันล้านบ.

HoonSmart.com>>บอร์ด”เจริญโภคภัณฑ์อาหาร” (CPF) อนุมัติขายหุ้นธุรกิจไก่ครบวงจรในจีน 4 บริษัทกลับคืนให้เครือซีพีมูลค่าประมาณ  2,152 ล้านบาท บล.หยวนต้าชวนซื้อหุ้น ให้ราคาเป้าหมาย 24 บาท หลังขายหุ้นในจีนได้กำไรพิเศษ 3,000 ล้านบาท และยังช่วยลดขาดทุนจาก 4 บริษัทปีละ 800-1,300 ล้านบาท ที่มีส่วนผู้ถือหุ้นขาดทุนรวม 4,000 ล้านบาท

บริษัทเจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF) เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริษัทฯ(บอร์ด) มีมติอนุมติให้ CP Food Investment Limited (CP Food) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยขายหุ้นในบริษัทที่ดำเนินธุรกิจไก่ครบวงจรในประเทศจีน 4 บริษัท ให้กับบริษัทย่อยของบริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ (CPG) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ CPF มูลค่ารายการรวม 432 ล้านเรนมินบิ หรือ 2,152 ล้านบาท

บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) วิเคราะห์ว่า CP Food ซึ่งเป็นบริษัทย่อยทางอ้อมที่ CPP (บริษัทย่อยที่ CPF ถือหุ้นสัดส่วน 76.2%) ถือหุ้นทั้งหมด จะขายเงินลงทุนทั้งหมดในธุรกิจไก่ครบวงจรในประเทศจีนจำนวน 4 บริษัทให้กับ Chia Tai CP (บริษัทย่อยของ CPG) ทำให้สิ้นสภาพการเป็นบริษัทย่อยของ CPF และ CPP ซึ่งทั้ง 4 บริษัท มีส่วนของผู้ถือหุ้นขาดทุนรวม  4,000 ล้านบาท และมีผลการดำเนินงานขาดทุนสุทธิต่อเนื่องเฉลี่ยปีละราว 800 –1,300  ล้านบาท ส่งผลให้ CPF ยกเลิกการรับรู้ผลดำเนินงานที่อ่อนแอ ทำให้งบการเงินมีผลบวก ส่วนของผู้ถือหุ้นสูงขึ้น จากการยกเลิกการรวมบัญชีตั้งแต่ปี 2567 เป็นต้นไป

นอกจากนี้การรับชำระเงินค่าหุ้นประมาณ  2,200  ล้านบาท ส่งผลให้อัตราหนี้สินต่อทุน(D/E Ratio)และฐานะการเงินของ CPF ดีขึ้น  นอกจากนี้คาดเบื้องต้นว่าCPF จะมีการรับรู้รายการกำไรพิเศษในงบไตรมาสที่ 4 ปีนี้ ราว 3,000 ล้านบาท เป็นบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการที่อาจพลิกกลับมามีกำไรสุทธิได้ แต่ยังประเมินว่าผลการดำเนินงานหลักจะยังมีผลขาดทุน แต่เป็นผลขาดทุนที่ลดลง QoQ

“เรามีมุมมองบวกต่อการขายธุรกิจไก่ในจีนและไม่ต้องรับรู้ผลประกอบการที่ขาดทุนต่อเนื่องจากการช่วยหนุนผลประกอบการของ CPF ที่ราว 600 -1,000 ล้านบาทต่อปี (ตามสัดส่วนการถือหุ้น 76.2% ใน CPP)และประเมินว่าเป็น Upside ต่อราคาเป้าหมายปี 2567 ของเราที่1.00 –1.70 บาท/หุ้น(อิง PER ที่ 14.3 เท่า) เบื้องต้นยังคงประมาณการกำไรปกติปี 2567 ไว้ตามเดิมที่ 6,183 ล้านบาท แต่มีโอกาสปรับประมาณการขึ้นในอนาคต คงราคาเป้าหมายที่ 24 บาทราคาหุ้นที่ย่อลงมาทำให้ปัจจุบันซื้อขายบน P/BV ต่ำเพียง 0.5 เท่า เทียบเท่ากับ -2.0 SD ของค่าเฉลี่ยย้อนหลังในอดีต สะท้อนว่าราคาหุ้นปัจจุบันอยู่ในโซนต่ำแล้วและมี Downside risk จำกัด และมองประเด็นการขายธุรกิจฟาร์มไก่ในจีนดังกล่าวจะเป็น Catalyst ให้กับราคาหุ้น คงคำแนะนำ “ซื้อ””บล.หยวนต้าระบุ

ด้านบล.บัวหลวงมองเป็นข่าวบวกต่อ CPF อย่างมีนัยสำคัญ เพราะจะไม่ต้องบันทึกผลขาดทุนสุทธิจากธุรกิจไก่ในประเทศจีนอีกต่อไป และเงินที่ได้จากการขายหุ้นจำนวน 2,125  ล้านบาท นำเอาไปหักออกจากภาระหนี้สินที่ 4 บริษัทย่อย ค้างชำระกับ CPP โดยตรง ถือว่าเป็นการลดภาระหนี้สินของ CPP โดยทางอ้อมลง  นอกจากนี้ผลขาดทุนของ 4 บริษัทย่อย งวด 9 เดือน/2566 อยู่ที่ 1,260 ล้านบาท คำนวณกลับมาเต็มปีเท่ากับขาดทุนสุทธิ  1,680 ล้านบาท  จะส่งผลกระทบให้ขาดทุนสุทธิของ CPF ลดลง 1,280 ล้านบาทตั้งแต่ปี 2567เป็นต้นไป

ในแง่ทางบัญชี เนื่องจากทั้ง 4 บริษัทย่อยมีขาดทุนทางบัญชี (equity loss) อยู่ที่ 3,900 ล้านบาท จึงคาดว่า CPF มีแนวโน้มที่จะบันทึกกำไรจากการขายในครั้งนี้จำนวน  3,000 ล้านบาท จะกระทบงบของ CPF สำหรับปี 2566 เป็น 41%และไม่ต้องบันทึกขาดทุนจากธุรกิจไก่ในประเทศจีน ตั้งแต่ปี 2567 เป็นต้นไป ซึ่งคิดเป็นกระทบ 25% ส่วนภาระหนี้สินของ CPP ที่ลดลงอีก 2,152  ล้านบาทและการบันทึกกำไรจากการขาย 3,000 ล้านบาท จะส่งผลให้อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนของ CPF ปรับลดลงจาก1.725 เท่าสิ้นไตรมาสที่ 3/2566 เหลือ 1.707 เท่า ซึ่งมีผลอย่างไม่มีนัยสำคัญมากนัก

“เราอยู่ระหว่างการปรับประมาณการงบกำไรขาดทุนของ CPF สำหรับปี 2566 และหลังจากปี 2567 เป็นต้นไป โดยเอากำไรครั้งเดียวจากการขายใส่เข้าไปในปี 2566 และนำเอาผลขาดทุนจากการธุรกิจไก่จีนออกจากประมาณการตั้งแต่ปี 2567 เป็นต้นไป เรายังคงแนะนำ “ซื้อ” หุ้น CPF ที่ราคาเป้าหมาย 26 บาท และมองว่าจะเห็นการขายธุรกิจที่ขาดทุนของบริษัทในเครืออื่นๆ ของ CPF ตามมาอีกภายในปี 2567 ซึ่งถือว่าเป็นปัจจัยบวกต่อ CPF ในระยะยาว”บล.บัวหลวงระบุ