ดาวโจนส์ปิดทรุด 570 จุด ข้อมูลแรงงานร้อนแรง รอผลประชุมเฟด

HoonSmart.com>> ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ร่วงแรง ดัชนีดาวโจนส์ปิดดิ่ง 570 จุด ข้อมูลแรงงานร้อนแรงเกินคาด นักลงทุนกังวลเงินเฟ้อกลับมา รอผลการตัดสินใจนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)วันนี้ ด้าน “ราคาน้ำมันดิบ WTI” ลดลง 70 เซนต์ ฟาก “ตลาดหุ้นยุโรป” ปิดลบ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) วันที่ 30เมษายน 2567 ปิดที่ 37,815.92 จุด ลดลง 570.17 จุด หรือ -1.49% ส่งผลให้เดือนเมษายนเป็นเดือนที่เลวร้ายในปี 2024 จากข้อมูลแรงงานล่าสุดที่ร้อนแรงเกินคาด ทำให้ความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อกลับมา ขณะที่นักลงทุนรอผลการตัดสินใจนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ในวันนี้

ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,035.69 จุด ลดลง 80.48 จุด, -1.57%

ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,657.82 จุด ลดลง 325.26 จุด, -2.04%

เดือนเมษายนเป็นเดือนที่เลวร้ายสุดของดัชนีหลัก โดยดัชนีดาวโจนส์ลดลง 5% และเป็นการลดลงรายเดือนที่แย่ที่สุดนับตั้งแต่เดือนกันยายน 2022 ส่วนดัชนี S&P 500 ร่วงลงประมาณ 4.2% ในเดือนนี้ และดัชนี Nasdaq ร่วงลง 4.4% ส่งผลให้หักล้างการปรับขึ้นที่ติดต่อกัน 5 เดือน

กระทรวงแรงงานเปิดเผยเมื่อวันอังคารว่า ดัชนีต้นทุนการจ้างงาน(ECI) ซึ่งเป็นตัวชี้วัดค่าจ้างและสวัสดิการในไตรมาสแรกปีนี้ เพิ่มขึ้น 1.2% เมื่อเทียบรายไตรมาส ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบ 1 ปี ซึ่งสูงกว่าคาดการณ์ 1% ของนักเศรษฐศาสตร์ที่สำรวจโดย Dow Jones

ส่วนค่าจ้างและเงินเดือนเพิ่มขึ้น 1.1% เมื่อเทียบรายปี ขณะที่ต้นทุนสวัสดิการก็เพิ่มขึ้น 1.1% เช่นกัน ทำให้เกิดความกังวลมากขึ้นว่าค่าจ้างที่สูงอย่างต่อเนื่องทำให้ระดับเงินเฟ้อสูงขึ้น

ทอม ฟิทซ์แพทริค กรรมการผู้จัดการฝ่ายข้อมูลเชิงลึกตลาดโลกของR.J. O’Brien and Associates R.J. กล่าวว่า รายงานต้นทุนแรงงานฉบับใหม่ ไม่ใช่ตัวเลขที่จะโน้มน้าวให้เฟดเปลี่ยนจุดยืนที่ว่าไม่ต้องเร่งรีบในการผ่อนคลาย

พอล แอชเวิร์ธ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ในอเมริกาเหนือของ Capital Economics กล่าวว่า ข้อมูลเมื่อวันอังคารแสดงให้เห็นว่าการเติบโตของค่าจ้างก็ยังเพิ่มขึ้นเช่นกันไม่ใช่แค่ข้อมูลเงินเฟ้อเท่านั้น และการเติบโตของค่าจ้างเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เฟดต้องใช้เวลาในการลดอัตราดอกเบี้ย

หลังการรายงานข้อมูลอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 2 ปีเพิ่มขึ้นมาที่ 5%
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีเพิ่มขึ้นมาที่ 4.67%

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจอื่น Conference Board สถาบันวิจัยเศรษฐกิจรายงาน ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเดือนเมษายนลดลงมาที่ 97 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2022 จาก 103.1 ในเดือนมีนาคม และต่ำกว่า 104 ที่นักวิเคราะห์คาด

ส่วนความเคลื่อนไหวหุ้นรายตัว หุ้นสตาร์บัคลดลงราว 10% หลังรายงานผลการดำเนินงานที่ต่ำกว่าคาด ทั้งกำไร รายได้และยอดขายจากสาขา

หุ้นอีไล ลิลลี (Eli Lilly)เพิ่มขึ้น 6% หลังปรับคาดการณ์ยอดขายขึ้น หุ้น 3M เพิ่มขึ้น 3% จากผลกำไรรายไตรมาสที่เพิ่มขึ้น

ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบจากรายงานผลประกอบการที่ย่ำแย่จากผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำของภูมิภาค ขณะที่นักลงทุนยังประเมินความเป็นไปได้ในการควบรวมกิจการระหว่างธนาคารสองแห่งในสเปนและข้อมูลที่เป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้น

กลุ่มยานยนต์ลดลง 4.3% ซึ่งเป็นการลดลงครั้งใหญ่ที่สุดของกลุ่มนับตั้งแต่เดือนกันยายน 2022

หุ้นโฟล์คสวาเกน, เมอร์เซเดส-เบนซ์ และ สเตลแลนติส ร่วงลง4% ถึง 10% หลังเปิดเผยรายได้และยอดขายลดลงในไตรมาสแรก และเผชิญกับต้นทุนเพิ่มขึ้น กับความต้องการรถรุ่นใหม่ลดลง

หุ้น BBVA ธนาคารใหญ่ที่สุดอันดับสองของยูโรโซน ลดลง 6.6% หลังจากที่ เริ่มการเจรจาเพื่อสำรวจความเป็นไปได้ในการควบรวมกิจการ Sabadell ธนาคารเล็ก ราคาหุ้นSabadell เพิ่มขึ้น 3.5%

ข้อมูลล่าสุดแสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจยูโรโซนในไตรมาสแรกดีดตัวขึ้นจากภาวะถดถอยเล็กน้อย ขณะที่เยอรมนีกลับมาเติบโต ส่วนเงินเฟ้อทรงตัว ตอกย้ำการคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิถุนายนของธนาคารกลางยุโรป

ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับแนวนโยบายการเงินของสหรัฐฯ หลังตามข้อมูลที่แสดงให้เห็นว่าต้นทุนแรงงานในไตรมาสแรกของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนยูโรโซนสูงขึ้น และกดดันตลาด

หุ้นHSBC เพิ่มขึ้น 4.1% หลังประกาศผลประกอบการรายไตรมาส แผนการซื้อหุ้นคืน และการลาออกของซีอีโอ

ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 504.89 จุด ลดลง 3.45 จุด, -0.68%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,144.13 จุด ลดลง 2.90 จุด, -0.04%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,984.93 จุด ลดลง 80.22 จุด, -0.99%,

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิด 17,932.17 จุด ลดลง 186.15 จุด, -1.03%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน ลดลง 70 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 81.93 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนมิถุนายนลดลง 54 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 87.86 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และครบกำหนดส่งมอบแล้วในวันอังคาร ส่วนงวดส่งมอบเดือนกรกฎาคมลดลง 87 เซนต์ ปิดที่ 86.33 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล