บลจ.กสิกรไทยเสิร์ฟ K-TNZ-ThaiESG กองทุนแรกในไทยลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก

HoonSmart.com>> “บลจ.กสิกรไทย “รุกตลาดหุ้นไทยกลุ่ม ESG พร้อมโอกาสรับผลตอบแทนใกล้เคียงดัชนี SET100 ผ่านกองทุน K-TNZ-ThaiESG กองทุนแรกของไทยที่กลยุทธ์การลงทุนมีเป้าหมายช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างชัดเจน หนุนภาคธุรกิจและประเทศไทยบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เป็นศูนย์ได้เร็วขึ้น เสริมทัพด้วยพันธมิตรที่ปรึกษาและใช้โมเดลคัดสรรหุ้นจาก Lombard Odier เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารพอร์ตลงทุน เสนอขายครั้งแรก 8-21 ธ.ค.นี้ พบโปรโมชั่นพิเศษลงทุน ThaiESG/SSF/RMF กสิกรไทย รับ Fund Back สูงสุด 1,200 บาท

ธิดาศิริ ศรีสมิต

นางสาวธิดาศิริ ศรีสมิต, รองกรรมการผู้จัดการ สายงานจัดการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า การเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิโลกที่เพิ่มสูงขึ้น เป็นประเด็นที่ทั่วโลกให้ความสำคัญและร่วมกันหาทางแก้ไข รวมถึงประเทศไทยที่ทั้งภาครัฐและเอกชนมุ่งสร้างความร่วมมือในการตั้งเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เป็นศูนย์ (Target Net Zero) เพื่อสร้างความสมดุลให้เศรษฐกิจสามารถเติบโตควบคู่ไปกับสังคมและสิ่งแวดล้อมได้อย่างยั่งยืน

ทั้งนี้ บลจ.กสิกรไทยพร้อมสนับสนุน ผลักดันและเติบโตไปกับธุรกิจเหล่านี้เพื่อบรรลุเป้าหมายดังกล่าว จึงได้จัดตั้งกองทุน K-TNZ-ThaiESG หรือ กองทุนเปิดเค Target Net Zero หุ้นไทย ชนิดไทยเพื่อความยั่งยืน โดยเปิดเสนอขายครั้งแรกในระหว่างวันที่ 8 – 21 ธ.ค.2566

นางสาวธิดาศิริ กล่าวต่อไปว่า กองทุน K-TNZ-ThaiESG เป็นกองทุนแรกของไทยที่มีกลยุทธ์บริหารพอร์ตลงทุนโดยมีเป้าหมายให้ปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของพอร์ตลงทุนเฉลี่ยต่ำกว่าดัชนีชี้วัด (SET100) ให้น้ำหนักการลงทุนในบริษัทที่มีการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการปล่อยก๊าซเรือนกระจก แผนการจัดการ และตั้งเป้าหมายเพื่อบรรลุการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงอย่างชัดเจน ส่งผลให้กองทุน K-TNZ-ThaiESG มีปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (GHG Emission) และ การเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิเฉลี่ย (Implied Temperature Rise) ที่น้อยลงเมื่อเทียบกับดัชนีชี้วัด

อีกหนึ่งความน่าสนใจของกองทุน K-TNZ-ThaiESG อยู่ที่การมีปรึกษาด้านการลงทุนที่เป็นพันธมิตรทางธุรกิจอย่าง Lombard Odier ซึ่งเป็นบริษัทจัดการลงทุนชั้นนำระดับโลกที่มีความเชี่ยวชาญด้านการลงทุนอย่างยั่งยืนมาอย่างยาวนาน โดยกองทุน K-TNZ-ThaiESG ได้ใช้โมเดลที่พัฒนาโดย Lombard Odier ซึ่งได้รับการตรวจสอบและยอมรับในระดับสากล มาใช้ในกระบวนการวิเคราะห์และคัดเลือกหุ้น

“บลจ.กสิกรไทย เป็นบริษัทจัดการลงทุนในไทยที่ให้ความสำคัญต่อประเด็นด้าน ESG อย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลากว่า 10 ปีนับตั้งแต่ปี พ.ศ.2556 โดยได้เริ่มนำหลักการมาปรับใช้ในทุกขั้นตอนของการบริหารจัดการกองทุน รวมถึงมีการจัดตั้งกองทุนธีมหุ้น ESG ที่หลากหลายทั้งไทยและต่างประเทศ อีกทั้งยังเป็นบลจ. แรกในไทยที่ได้รับอนุมัติจัดตั้งกองทุนรวมเพื่อความยั่งยืน (SRI Fund) และปัจจุบันเป็นบลจ.เดียวในไทยที่เข้าร่วมลงนาม Principles for Responsible Investment (PRI Signatory) ซึ่งเป็นหลักการลงทุนที่รับผิดชอบในระดับสากลที่ได้รับการสนับสนุนจากองค์การสหประชาชาติ (United Nations) รวมถึงมีการจัดทำรายงานการเปิดเผยข้อมูลทางการเงินที่เกี่ยวกับสภาพภูมิอากาศ (TCFD) แสดงให้เห็นความมุ่งมั่นในการปฏิบัติตามหลักการลงทุนอันเป็นที่ยอมรับในระดับสากล เพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้ลงทุนและสังคมไทยในระยะยาว” นางสาวธิดาศิริ กล่าว

นางสาวธิดาศิริ กล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้ลงทุนจะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีเพิ่มเติมอีก 100,000 บาทจากการลงทุนในกองทุน ThaiESG โดยกองทุนมีระยะเวลาถือครองหน่วยลงทุน 8 ปีนับจากวันที่ซื้อ และสามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้ 30% ของเงินได้ แต่ไม่เกิน 100,000 บาท ทั้งนี้ บลจ.กสิกรไทย ได้จัดโปรโมชั่นพิเศษเมื่อลงทุนในกองทุน K-TNZ-ThaiESG และ SSF/RMF นับรวมทุกช่องทางการซื้อ ครบทุก 50,000 บาท รับ Fund Back หน่วยลงทุน K-FIXEDPLUS-A 100 บาท (สูงสุด 1,200 บาท) สิ้นสุดวันที่ 28 ธันวาคมนี้

การเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิโลกในอนาคตจะส่งผลกระทบที่รุนแรงเป็นวงกว้างต่อทั้งธรรมชาติและมนุษย์ โดยเฉพาะการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิโลกที่มากกว่า 1.5 องศาเซลเซียส จะเป็นจุดหายนะอันนำมาซึ่งความเสียหายที่ไม่อาจประเมินค่าได้ และเกินกว่าจะแก้ไขให้กลับมาอยู่ในระดับที่เหมาะสมดังเดิมได้

ทั้งนี้ บลจ.กสิกรไทย ขอเชิญชวนให้ผู้ลงทุนได้ตระหนักและสนับสนุนธุรกิจที่มีแนวคิดลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอันเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้อุณหภูมิโลกสูงขึ้น เพื่อลูกหลานของเราจะได้ใช้ชีวิตกันอย่างปลอดภัยในวันข้างหน้า วันนี้เราจึงควรต้องหันมาใส่ใจโลกควบคู่ไปกับการลงทุนผ่านกองทุน K-TNZ-ThaiESG เริ่มต้นเพียง 500 บาท ซื้อง่ายปลอดภัยผ่านทุกช่องทางของธนาคารกสิกรไทยและผู้แทนสนับสนุนการขาย สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ KAsset Contact Center 0 2673 3888