HoonSmart.com>>นักลงทุนที่พลาดโอกาสได้กำไรงามๆจากตลาดหุ้นต่างประเทศในปีที่ผ่านมา ไม่ต้องเสียใจ เพราะยังมีโอกาสหาผลตอบแทนที่ดี ในปี 2568 หากแบ่งเงินส่วนหนึ่ง นำมากระจายการลงทุนในหุ้นต่างประเทศบ้าง หาโอกาสจากเศรษฐกิจโตอย่างแข็งแกร่ง ซื้อขายง่ายๆ ผ่านตราสารแสดงสิทธิในหลักทรัพย์ต่างประเทศ (Depositary Receipt หรือ DR ) แทนที่จะลงทุนในตลาดหุ้นไทยเพียงอย่างเดียวเหมือนที่ผ่านมา
“อรรถนันต์ ปิยเศรษฐ์” ผู้อำนวยการ ฝ่าย Structured Product บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) บัวหลวง เจ้าแรกในการออก DR ในประเทศไทย มาตั้งแต่ปี 2561 ปัจจุบันเป็นผู้นำ มีส่วนแบ่งทางการตลาดประมาณ 50% ยังมองเห็นโอกาสจากการลงทุนใน DR แม้ว่าราคาหุ้นต่างประเทศหรือตลาดหุ้นหลายแห่งจะปรับตัวขึ้นสูงมากจนทำนิวไฮ หรือบางตลาดทำออลไทม์ไฮแล้วก็ตาม โดยเฉพาะสหรัฐทั้ง 3 ตลาดพุ่งขึ้นแรง แต่ก็ยังมีโอกาสในการแสวงหาผลตอบแทน และอาจจะตอบโจทย์ ให้ถือไปยาวๆ เพราะมีต้นทุนต่ำ นักลงทุนจ่ายค่าธรรมเนียมการจัดการ เพียงต่อเดียว เก็บโดย ETF ต้นทาง แตกต่างจากการลงทุนในกองทุนรวม
สำหรับนักลงทุนมือใหม่ DR ไม่ต้องกังวลเรื่องความยุ่งยาก เช่น การเปิดบัญชี หรือกลัวเรื่องความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน เพราะเป็นเครื่องมือในการลงทุนที่ง่าย มีเสนห์ ออกแบบมาให้เหมาะกับนักลงทุนเกือบทุกกลุ่ม รายย่อยเล่นได้ เพียง 1 หน่วย ใครมีพอร์ตหุ้นกับบริษัทหลักทรัพย์ ก็ซื้อ DR ได้เลย ด้วยเงินบาท เหมือนการซื้อขายหุ้นตามปกติ จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ซื้อขายแบบเรียลไทม์ จะช่วยให้ผู้ลงทุนไทยได้มีโอกาสลงทุนในหลักทรัพย์อ้างอิงต่างประเทศ ทั้งหุ้น ETF REIT และ Infrastructure Trust ได้สะดวกยิ่งขึ้น ผู้ถือ DR จะได้รับผลตอบแทนและสิทธิประโยชน์เสมือนกับการลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศโดยตรง ตามเงื่อนไขที่ระบุในหนังสือชี้ชวนของแต่ละ DR นั้น
” DR จะถือหรือเทรดก็ได้ เพราะเป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนที่เหมาะสำหรับการลงทุนทั้งระยะสั้นและระยะยาว ใช้เงินเพียงเล็กน้อยก็สามารถลงทุนได้ ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมการจัดการ 2 เด้ง มีผู้ดูแลสภาพคล่อง Bid Offer หากต้องการที่จะซื้อจำนวนมาก ทางบล.บัวหลวงเปิดให้บริการซื้อหรือขายบิ๊กล็อต ติดต่อโดยตรงกับโต๊ะ มีมาร์เก็ตเมคเกอร์ ดูแลในราคาที่เหมาะสม ตอบสนองความต้องการให้กับลูกค้าทุกระดับ ภาพรวมต้องการให้ถือยาวบนดัชนีระดับโลก”
บล.บัวหลวงมองเห็นโอกาสจากการลงทุนหลักทรัพย์อ้างอิงต่างประเทศมานานแล้ว โดยในปี 2561 ประกาศการเป็นผู้นำออก DR01 ชื่อ E1VFVN3001 อ้างอิง ETF ชื่อ E1VFVN30 ลงทุนในหุ้นเวียดนามชั้นนำ 30 บริษัท ในจังหวะที่ดี ซึ่งประสบความสำเร็จมาก ทั้งเรื่องการให้อัตราผลตอบแทนที่ดี นักลงทุนยังคงให้ความสนใจลงทุนสูง โตค่อนข้างมากแล้ว ก่อนขยายไปสหรัฐ ซึ่งแต่ละหลักทรัพย์อ้างอิงผ่านการคิดและวิเคราะห์ถึงโอกาสเป็นอย่างดีสำหรับนักลงทุนไทย ในปัจจุบันเป็นผู้ออก DR ทั้งหมด 11 หลักทรัพย์มีความหลากหลาย เป็น ETF ที่อ้างอิงดัชนีหลักของตลาดหุ้นต่างประเทศ ทั้งสหรัฐฯ (Nasdaq 100, S&P 500) จีน (CSI300, STAR50) ฮ่องกง (HSI, Hang Seng TECH, Hang Seng China Enterprises) เวียดนาม (VN30, VN Diamond) และหุ้นในตลาดยุโรป (หุ้น LVMH และ ASML)
“อรรถนันต์” ยกตัวอย่าง E1VFVN3001 นักลงทุนยังคงสามารถซื้อหรือถือลงทุนระยะยาวได้ต่อไป โดยมีปัจจัยสนับสนุนเพราะเศรษฐกิจมีพัฒนาการและยังคงเติบโตสูง 6-7% ต่อปี สนับสนุนการทำกำไรของบริษัทจดทะเบียน
DR ตัวล่าสุดประมาณเดือนต.ค.2567 ได้ออก “SP50001” หลักทรัพย์อ้างอิง คือ Hang Seng S&P 500 Index ETF (3195) อิงดัชนี S&P 500 บริษัทสหรัฐฯ ชั้นนำ 500 แห่ง ใช้สะท้อนเศรษฐกิจและตลาดหุ้นสหรัฐฯ ช่วยให้นักลงทุนไทยสามารถเข้าถึงตลาดสหรัฐฯ ได้อย่างสะดวกและคุ้มค่า ออกในจังหวะที่เหมาะสมได้รับการตอบรับที่ดีมากเช่นเดียวกัน เศรษฐกิจสหรัฐยังคงเติบโต ไม่ว่าใครจะเข้ามาเป็นประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ เข้ามารับตำแหน่ง นักลงทุนต้องการความชัดเจน บวกกับนโยบาย ทำให้เศรษฐกิจไปต่อได้
ที่สำคัญการลงทุน DR ในประเทศไทย ไม่ต้องเสียภาษีการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ โดยกรมสรรพากรได้ประกาศให้นำเงินได้มาคำนวณในการเสียภาษีบุคคลธรรมดาด้วย และปัจจุบันมีบริษัทหลักทรัพย์หลายแห่งเสนอบริการ DR ให้นักลงทุนเลือกลงทุนที่มีความหลากหลายยิ่งขึ้น นับเป็นเรื่องที่ดีในการสร้างผลตอบแทนให้แก่นักลงทุนไทยในระยะยาว