WICE กำไร Q3 ฮวบ 72% มั่นใจปี’67ฟื้นตั้ง WGRS รองรับ

HoonSmart.com>>ไวส์ โลจิสติกส์ (WICE) เปิดกำไรสุทธิไตรมาส 3 ที่ 42 ล้านบาท ลดลง 72% ผลจากเศรษฐกิจไม่ดีทำปริมาณการขนส่งลด อัตราค่าระวางเรือที่ลดลง มั่นใจปี’67 โลจิสติกส์ฟื้นตัว ตั้ง WGRS รองรับบุกขนส่งข้ามพรมแดนคู่กับ ETL 

บริษัท ไวส์ โลจิสติกส์ ( WICE) รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปี 2566 มีกำไรสุทธิ 42 ล้านบาท ลดลง 72% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีที่ผ่านมา ส่วนงวด 9 เดือน มีกำไรสุทธิ 186 ล้านบาท ลดลง 63%

นายชูเดช คงสุนทร กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท ไวส์ โลจิสติกส์ ( WICE) เปิดเผยว่า เป็นผลจากความกังวลในสถานการณ์เศรษฐกิจ ทำให้ผู้ประกอบการลดกำลังการผลิตลง ซึ่งมีผลทำให้ปริมาณการขนส่งทั้งนำเข้าและส่งออกลดลงไปด้วย รวมถึงยังได้รับผลกระทบจากอัตราค่าระวางเรือที่ลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงกลางปีที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม คาดว่าอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ในปี 2567 จะกลับมาฟื้นตัวดีขึ้น โดยคู่ค้าที่สำคัญของบริษัทฯ อย่างประเทศจีน ได้ออกแผนกระตุ้นเศรษฐกิจโดยประกาศใช้นโยบายและมาตรการในทางปฏิบัติต่างๆ เพื่อกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจทั้งภาคเอกชน การบริโภค และการลงทุน ส่งผลให้ภาพรวมธุรกิจโลจิสติกส์ดีขึ้น ขณะที่ค่าระวางเรือคาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นเช่นเดียวกัน ตามปริมาณการขนส่งที่คาดว่าจะฟื้นตัวกลับมา

ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้เดินหน้าสร้างการเติบโตในธุรกิจโลจิสติกส์อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะธุรกิจขนส่งสินค้าข้ามพรมแดน (Cross Border Service) โดยได้ขยายงานควบคู่กับบริษัทในเครืออย่าง บริษัท ยูโรเอเชีย โทเทิล โลจิสติกส์ หรือ ETL ภายหลังจากเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เรียบร้อยแล้ว

ล่าสุดได้จัดตั้งบริษัทย่อยภายใต้ชื่อ WICE Global Road Solutions Co.,Ltd หรือ WGRS ในประเทศสิงค์โปร์ ด้วยทุนจดทะเบียน 4 แสนดอลลาร์สิงคโปร์ ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ WICE Logistics (Singapore) Pte.Ltd ถือหุ้น 100% โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มขีดความสามารถและสร้างสรรค์โซลูชันแก่ลูกค้าในการให้บริการขนส่งสินค้าข้ามพรมแดน (Cross Border Transportation Carrier) แบบครบวงจร พร้อมขยายพื้นที่ให้บริการในตลาดใหม่ๆ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้แก่กลุ่มบริษัทโดยรวม รวมถึงสามารถรองรับการขยายธุรกิจในอนาคตอย่างเต็มกำลัง

ทั้งนี้ WICE ได้เล็งเห็นถึงการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของธุรกิจขนส่งสินค้าข้ามพรมแดน ซึ่งเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีอัตราการเติบโตตามการค้าระหว่างจีนและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เพิ่มขึ้นสูง ด้วยโอกาสเติบโตจากเส้นทางใหม่ที่เชื่อมต่อเอเชียกับยุโรปผ่านเส้นทางสายใหม่ (One-belt One-road) รวมถึงการค้าข้ามพรมแดนของไทยกับสิงคโปร์ เวียดนาม และจีนตอนใต้ ทำให้มีการเติบโตสูง นอกจากนี้ ได้เล็งเห็นถึงโอกาสความต้องการการขนส่งสินค้าที่ควบคุมอุณหภูมิ เช่น ผลไม้สดและผลไม้แช่เย็น ที่เป็นสินค้าส่งออกสำคัญของไทยไปยังตลาดหลักคือ ประเทศจีน จึงได้ร่วมกับ ETL ในการขยายเข้าสู่ธุรกิจโลจิสติกส์แบบควบคุมอุณหภูมิ (Reefer Container) อย่างเต็มรูปแบบ นับเป็นโอกาสที่จะช่วยสร้างการเติบโตอย่างมหาศาล