THG ปั้นร้านขายยา“ทีเอช เฮลท์ ฟาร์มา”ขยายฐานลูกค้ารพ.เอกชน

HoonSmart.com>>”ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป”(THG) ปั้นธุรกิจใหม่ “ทีเอช เฮลท์ ฟาร์มา” ลุยตลาดร้านขายยา ประเดิมสาขาแรก รพ.สิริเวช จันทบุรี ปี 67 เล็งขยายฐานลูกค้าเข้าสู่กลุ่มโรงพยาบาลเอกชนอีกหลายแห่งในอนาคต ขณะที่ไตรมาสสุดท้ายของปี 66 คาดธุรกิจยังเติบโตต่อเนื่อง หลังผลงานไตรมาส 3 ทำได้ตามเป้า รายได้ 2,725 ล้านบาท กำไรสุทธิ 356 ล้านบาท

​นายแพทย์ธนาธิป ศุภประดิษฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป (THG) เปิดเผยว่า บริษัทเล็งเห็นโอกาสการเติบโตของธุรกิจร้านขายยา เนื่องจากความต้องการบริโภคยาและเวชภัณฑ์ของคนไทยขยายตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง สอดรับพฤติกรรมที่มีความสนใจศึกษาการดูแลสุขภาพทั้งเชิงป้องกันและรักษาด้วยตนเองเพิ่มขึ้น จึงเปิดร้านขายยา “ทีเอช เฮลท์ ฟาร์มา” (THHealth Pharma) เพื่อจัดจำหน่ายยา วิตามิน ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม เวชภัณฑ์ เวชสำอาง และอุปกรณ์ทางการแพทย์ พร้อมให้คำปรึกษาโดยเภสัชกร นำร่องสาขาแรกที่โรงพยาบาลสิริเวช จันทบุรี โดยเปิดเมื่อช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา และวางแผนเปิดสาขาต่อไป ภายในปี 2567 ที่อาคารซีดับเบิลยู ทาวเวอร์ ย่านรัชดา

​“ร้านขายยาทีเอช เฮลท์ ฟาร์มา ดำเนินการภายใต้ บริษัท ที เอช เฮลท์ ในเครือ THG ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของโรงพยาบาลในเครือฯ ทั้งด้านการจัดซื้อยาและเวชภัณฑ์สำหรับใช้ในโรงพยาบาล รวมถึงวางแผนในการขยายฐานลูกค้าเข้าสู่กลุ่มโรงพยาบาลเอกชนอีกหลายแห่งในอนาคต” นายแพทย์ธนาธิป กล่าว

ทั้งนี้สำหรับ ผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3/66 ของ THG มีรายได้รวมอยู่ที่ 2,725 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิทำได้ 356 ล้านบาท ซึ่งหากไม่นับรวมรายได้ที่เกี่ยวข้องกับโควิด-19 พบว่ารายได้เฉพาะในส่วนธุรกิจให้บริการทางการแพทย์เติบโตเพิ่มขึ้น ประกอบกับการบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพก็ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นสูงขึ้นกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 2% ด้านภาพรวมผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนปี 2566 ของ THG มีรายได้รวม 7,748 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 757 ล้านบาท โดยยังคงอยู่ภายใต้กรอบเป้าหมายที่วางไว้

​นายแพทย์ธนาธิป กล่าวว่า “แนวโน้มไตรมาสสุดท้ายของปี 2566 คาดว่าธุรกิจโรงพยาบาลจะยังเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะโรงพยาบาลในระดับทุติยภูมิทั้งในกรุงเทพฯและในส่วนภูมิภาค ซึ่ง THG ได้นำเทคโนโลยีมายกระดับคุณภาพด้านบริการและความสะดวกในการเข้าถึงการรักษาของผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้น อาทิ ในไตรมาส 3 ที่ผ่านมา บริษัท เทเลเฮลท์ แคร์ จำกัด ในเครือ THGได้เปิดตัว “แอปพลิเคชัน Prompt Care” ที่สามารถให้คำปรึกษาออนไลน์ด้านสุขภาพ ทั้งเรื่อง 1.Tele-Medicine สำหรับตรวจรักษาโรคทั่วไป โดยมีทีมแพทย์เฉพาะทางของ THG 16 สาขา อาทิ อายุรกรรม ศัลยกรรม ระบบช่องท้อง สูตินรีเวช กุมารเวช ทางเดินอาหาร มะเร็ง ฯลฯ คอยให้บริการ 2.Tele-wellness ที่ปรึกษาด้านการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม เช่น ออกแบบและให้แนะนำเกี่ยวกับวิตามินที่เหมาะสมสำหรับแต่ละบุคคล จัดส่งถึงบ้านโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ 3.การปรึกษาเภสัชกรออนไลน์ ก็พบว่ามีผลตอบรับที่ดี

​ขณะที่ บริษัท ธนบุรี เสริมรัฐ จำกัด (ชื่อเดิม ศูนย์หัวใจโรงพยาบาลธนบุรี) ที่ให้บริการศูนย์การแพทย์เฉพาะทางด้านหัวใจร่วมกับโรงพยาบาลรัฐ ได้ขยายจำนวนเตียงผู้ป่วยโรคหัวใจมากขึ้นกว่าเท่าตัวในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา และล่าสุดได้ร่วมมือกับ บริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด เปิดให้บริการคลินิกธนบุรี เสริมรัฐแห่งแรกในภูเก็ต ภายใต้ชื่อ “คลินิกหัวเช้า” เพื่อดูแลผู้ป่วย พรบ.อุบัติเหตุในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต เพิ่มการเข้าถึงการรักษาของประชาชนทุกสิทธิ”

​ในส่วนความคืบหน้าการลงทุนของ THG ในต่างประเทศ พบว่า ผลการดำเนินงานของโรงพยาบาล Ar Yu International ในเมียนมา ไตรมาสล่าสุดได้สร้างผลการดำเนินงานสูงสุดตั้งแต่เปิดทำการมาและเชื่อว่าจะยังดีต่อเนื่องไปเรื่อยๆ เพราะปัจจุบันได้รับการยอมรับว่าเป็นโรงพยาบาลที่ให้บริการในมาตรฐานสากล ขณะที่ เวียดนาม หลังจากลงทุนเรื่องศูนย์บริการตรวจสุขภาพเชิงลึก BeWell Wellness Clinic ในนครโฮจิมินห์ คาดสามารถเปิดให้บริการได้ภายในไตรมาส 2 ปี 2567

​ทั้งนี้ เพื่อเป็นการยกระดับคุณภาพมาตรฐานการบริการของโรงพยาบาลในเครือ THG ให้เทียบเท่าระดับสากลจึงเดินหน้าเข้ารับการรับรองมาตรฐานสากล AACI (American Accreditation Commission International) อย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันมีโรงพยาบาลที่ได้รับรองมาตรฐานดังกล่าวแล้ว 4 แห่ง ประกอบด้วย โรงพยาบาลธนบุรี โรงพยาบาลธนบุรี ทวีวัฒนา โรงพยาบาลธนบุรีบูรณา และโรงพยาบาลธนบุรีทุ่งสง