HoonSmart.com>>ดาวโจนส์ปิดลบ 123 จุด จ้างงานไม่ร้อนแรงเกิน คาดเฟดลดดอกเบี้ยลง 0.25%ในเดือนธ.ค.นี้ ขณะที่ดัชนี Nasdaq และ S&P 500 พุ่งขึ้นทำระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ส่วนตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average: DJIA) วันที่ 6 ธ.ค. 2567 ปิดที่ 44,642.52 จุด ลดลง 123.19 จุด หรือ -0.28% ขณะที่ดัชนี Nasdaq และ S&P 500 พุ่งขึ้นทำระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ จากการคาดการณ์ที่สดใสของ Lululemon Athletica และบริษัทอื่นๆ และจากข้อมูลการจ้างงานที่ทำให้คาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.นี้
ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 6,090.27 จุด เพิ่มขึ้น 15.16 จุด, +0.25%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 19,859.77 จุด เพิ่มขึ้น 159.05 จุด, +0.81%
ทั้งดัชนี S&P 500 และ ดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้นเป็นประวัติการณ์ใหม่ในวันศุกร์หลังจากข้อมูลการจ้างงานในเดือนพฤศจิกายนดีขึ้นเกินคาดเล็กน้อย แต่ก็ไม่ร้อนแรงจนขัดขวางไม่ให้เฟดลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในปลายเดือนนี้
รายงานแรงงานเดือนพฤศจิกายนซึ่งเผยแพร่เมื่อเช้าวันศุกร์ เผยให้เห็นว่าการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 227,000 ตำแหน่ง ซึ่งสูงกว่าประมาณการของ Dow Jones ที่ 214,000 ตำแหน่ง และเป็นการเพิ่มขึ้นอย่างมากจากที่เพิ่มขึ้น 36,000 ตำแหน่ง ในเดือนตุลาคมส่วน อัตราการว่างงานขยับขึ้นเป็น 4.2% ตามที่คาดไว้
จากข้อมูลการว่างงานที่ไม่ร้อนแรงเกินไปและไม่ชะลอจนเกินไป FedWatch ของกลุ่ม CME บ่งชี้ความเป็นไปได้ 85% ที่จะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในอีกสองสัปดาห์
ลุค โอนีล ผู้จัดการพอร์ตโฟลิโอของ Catalyst Funds กล่าวว่า ตลาดแรงงานที่ไม่ได้อ่อนแอ แต่กำลังอ่อนตัวลงอย่างแน่นอน และเป็นสิ่งที่ทำให้เทรดเดอร์มีความมั่นใจมากขึ้นว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25%ในการประชุมครั้งต่อไป
บิล นอร์ทนีย์ ผู้อำนวยการฝ่ายการลงทุนอาวุโสของ U.S. Bank Wealth Management กล่าวว่า ข้อมูลนี้สนับสนุนกรณีที่เฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยต่อในการประชุมเดือนธันวาคมและไปจนถึงไตรมาสแรก
มิเชล โบว์แมน ผู้ว่าการเฟดกล่าวว่าความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อยังมีอยู่ จึงต้องมีความระมัดระวังในการตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ย
ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากการเพิ่มขึ้น 15.9% ของหุ้น Lululemon Athletica ผู้ผลิตชุดกีฬาหลังจากที่ปรับเพิ่มการคาดการณ์ทั้งปี
หุ้นกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยในดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น 2.4% หุ้น Ulta Beauty ผู้ค้าปลีกเครื่องสำอาง พุ่งขึ้น 9% หลังจากที่บริษัทเพิ่มการคาดการณ์กำไรประจำปี
หุ้นของบริษัทประกันสุขภาพ รวมถึง UnitedHealth Group ร่วงลงต่อเนื่องเป็นวันที่สองหลังจากที่ไบรอัน ธอมป์สัน ซีอีโอของ UnitedHealthCare บริษัทในเครือ UnitedHealth ถูกยิงเสียชีวิตนอกโรงแรมในแมนฮัตตัน
หุ้น Meta Platforms เจ้าของ Facebook เพิ่มขึ้น 2.4% หลังศาลอุทธรณ์ของสหรัฐฯ ตัดสินยืนตามกฎหมายที่กำหนดให้ ByteDance บริษัทของจีนต้องขาย TikTok แอปวิดีโอสั้นยอดนิยมภายในต้นปีหน้า มิฉะนั้นจะเผชิญกับการถูกแบน
ตลาดยุโรปปิดบวก โดยตลาดหุ้นฝรั่งเศสปรับเพิ่มขึ้นภายในวันเดียวมากที่สุดในรอบสามสัปดาห์ เนื่องจากนักลงทุนมองว่ามีแนวโน้มว่าจะมีงบประมาณใหม่ แม้ความไม่แน่นอนทางการเมืองยังต่อเนื่อง ขณะเดียวกันก็ประเมินรายงานการจ้างงานในสหรัฐฯ ที่ดีกว่าคาด
ดัชนี STOXX 600 ปรับขึ้นเป็นวันที่เจ็ดติดต่อกันและปรับขึ้นรายสัปดาห์ที่แข็งแกร่งที่สุดในรอบสิบสัปดาห์
ตลาดหุ้นฝรั่งเศสฟื้นตัวขึ้นหลังจากประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง กล่าวว่า จะแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า โดยมีภารกิจสำคัญคือการผลักดันงบประมาณปี 2025 ให้รัฐสภาเห็นชอบ หลังจากที่รัฐบาลชุดเก่าถูกโค่นล้มโดยฝ่ายนิติบัญญัติ
ดัชนี CAC 40 เพิ่มขึ้น 1.3% แตะระดับสูงสุดใหม่ในรอบสามสัปดาห์ และยังเพิ่มขึ้นรายสัปดาห์ที่สูงที่สุดในรอบ 10 สัปดาห์ ช่วยให้การลดลงของปีเหลือ 1.5% จากที่มากกว่า 3% ในช่วงต้นสัปดาห์ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรฝรั่งเศสก็ลดลงเช่นกัน
หุ้นกลุ่มสินค้าหรูพุ่งขึ้น 3% และแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือน โดย Moncler ของอิตาลีเป็นหนึ่งในหุ้นที่เพิ่มขึ้นสูงสุดโดยเพิ่มขึ้น 5% หลังจากที่ Goldman Sachs เพิ่มคำแนะนำการลงทุนเป็น buy
ดัชนี DAX ของเยอรมนีปิดทำสถิติ all-time high และเพิ่มขึ้นสูงสุดภายในหนึ่งสัปดาห์ในรอบกว่าสองเดือน แม้ยังมีความไม่แน่นอนทางการเมืองก็ตาม
ข้อมูลในสหรัฐอเมริกาสะท้อนถึงตลาดการจ้างงานที่ฟื้นตัว และนักลงทุนมองว่าธนาคารเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนธันวาคม
หุ้น BMW บวก 2.7% หลัง Jefferies ปรับคำแนะนำการลงทุนเป็น buy จาก hold
ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 520.47 จุด เพิ่มขึ้น 0.94 จุด, +0.18%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,308.61 จุด ลดลง 40.77 จุด, -0.49%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,426.88 จุด เพิ่มขึ้น 96.34 จุด, +1.31%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 20,384.61 จุด เพิ่มขึ้น 25.81 จุด, +0.13%
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนมกราคม ลดลง 1.61% ปิดที่ 67.20 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ ลดลง 97 เซนต์ หรือ 1.35% ปิดที่ 71.12 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
———————————————————————————————————————————————————–
