ADVANC หวังกำไรโตสองหลักคุ้มการลงทุน ‘เพิ่มบริการ-พันธมิตร’เปิดโลกดิจิทัลครั้งใหม่

HoonSmart.com>>แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส(ADVANC) หรือ AIS เดินหน้าก้าวสู่วิวัฒน์ครั้งใหม่ของโลกดิจิทัล ยกระดับขีดความสามารถโครงสร้างพื้นฐานอัจฉริยะและ AI ส่งมอบประสบการณ์ดิจิทัลสุดล้ำให้คนไทย-องค์กรธุรกิจ มุ่งสร้างการเติบโตยั่งยืนของประเทศไทย แบบแบ่งปัน ทั้ง ผู้คน สังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อมในโลกดิจิทัล ใช้จุดแข็ง’กัลฟ์ฯและสิงเทล’ต่อยอดข้ามธุรกิจ จับมือไมโครซอฟท์ ใช้ AI ช่วยทำงาน ให้โทรคมนาคมแห่งชาติเช่าโครงข่าย 5G ปีละ 1 หมื่นล้าน หวังกำไร-รายได้โตสองหลัก คุ้มเงินลงทุนไปแล้ว 1 ล้านล้านบาท จะเพิ่มอีกปีละ 2-3 หมื่นล้านบาท

นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส(ADVANC) เปิดเผยว่า บริษัทฯดำเนินงานมาครบรอบ 34 ปี มีการทุ่มงบลงทุนสูงถึง 1 ล้านล้านบาท เดินหน้าสร้างก้าวสู่การวิวัฒน์ครั้งใหม่ของโลกดิจิทัล THE NEXT EVOLUTION ยกระดับขีดความสามารถของโครงสร้างพื้นฐานอัจฉริยะและ AI สู่การส่งมอบประสบการณ์ดิจิทัลสุดล้ำให้กับคนไทยและองค์กรธุรกิจในทุกภาคส่วน สอดรับการเป็นองค์กรเทคโนโลยีโทรคมนาคมอัจฉริยะ หรือ Cognitive Tech-Co ภายใต้แนวคิด Sustainable Nation ที่มุ่งสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนของประเทศไทยบน ECOSYSTEM ECONOMY ทั้ง ผู้คน สังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม ในโลกดิจิทัล

การวิวัฒน์ของ Intelligence Infrastructure สู่โครงข่ายเน็ตเวิร์คและนวัตกรรม 5G Living Network ล้ำหน้าขั้นสุด ด้วยความร่วมมือกับบริษัทโทรคมนาคมแห่งชาติหรือ NT ที่จะทำให้ลูกค้าของ NT และ AIS รวมถึงคนไทยได้รับประสบการณ์ดิจิทัลที่เหนือกว่า โครงข่าย Fibre ที่จะร่วมกับ 3BB ยกระดับการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงให้ครอบคลุมกว่า 13 ล้านครัวเรือน Enterprise Platform – CPaaS (Communication Platform as a Service) และ AIS Paragon ที่เชื่อมต่อเครือข่าย 5G, Fibre, Edge Computing, Cloud, และ Software Application เพิ่มศักยภาพให้อุตสาหกรรมหลักของประเทศ การวิวัฒน์ของ Cross Industry Collaboration อีกก้าวสำคัญของการร่วมมือระหว่างภาคอุตสาหกรรม ยกระดับ Software และ Hardware ด้วยการนำ Generative AI และ Cloud PC มาเป็นส่วนหนึ่งในการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานธนาคาร และ ร้านค้าปลีก ผ่าน Point Platform เชื่อมผู้ประกอบการรายย่อยร้านค้าถุงเงิน 1.8 ล้านร้านค้า และห้างสรรพสินค้าชั้นนำ รวมถึงร้านค้าพาร์ทเนอร์ทั่วประเทศกว่า 30,000 แห่ง การวิวัฒน์ของความยั่งยืนหรรือ Sustainable เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนของสังคมและสิ่งแวดล้อม ผ่านการขยายความร่วมมือสร้าง Green Partnership และทรัพยากรมนุษย์ของประเทศไทยให้เข้าถึงความรู้ สร้างภูมิคุ้มกันดิจิทัล และทักษะเพื่ออนาคต ผ่าน Academy for Thais

“เราเดินหน้าทำงานอย่างมุ่งมั่นตั้งใจด้วยแนวคิด ECOSYSTEM ECONOMY หรือ เศรษฐกิจแบบแบ่งปัน จากภารกิจทั้ง 3 ส่วน คือ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลอัจฉริยะ การเชื่อมต่อธุรกิจข้ามอุตสาหกรรม และการดำเนินงานอย่างยั่งยืนพร้อมกับการพัฒนาความสามารถของบุคลากร เพื่อก้าวสู่การเป็นองค์กรเทคโนโลยีโทรคมนาคมอัจฉริยะ เพื่อนำไปเสริมการเติบโตอย่างยั่งยืนของประเทศไทย หรือ Sustainable Nation”

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร AIS  กล่าวว่า สถานการณ์โลกอยู่ท่ามกลางความท้าทายที่ส่งผลกระทบในวงกว้าง ไม่ว่าจะเป็นความเสี่ยงจากสงครามที่เกิดจากภูมิรัฐศาสตร์, การปิดกั้นทางการค้าระหว่างประเทศ, ปัญหาพลังงาน, ภาวะเงินเฟ้อ, ปัญหาสภาพแวดล้อม เป็นต้น ดังนั้น AIS จึงพร้อมที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความแข็งแกร่งและยั่งยืนของประเทศไทย ผ่านการวิวัฒน์ครั้งสำคัญของโลกดิจิทัลและอุตสาหกรรมโทรคมนาคมไทย THE NEXT EVOLUTION ที่จะก้าวสู่การพลิกโฉมประสบการณ์การใช้งานของลูกค้าในทุกมิติ

จากโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลอัจฉริยะทั้งโทรศัพท์เคลื่อนที่ เน็ตบ้าน บริการลูกค้าองค์กร และ Digital Service โดยวันนี้ AIS ได้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลให้มีความล้ำหน้าไปอีกขั้น ตั้งแต่โครงข่าย 5G ที่ ยังคงความเป็นอันดับ 1 ในทุกด้านทั้งคุณภาพ และความเร็วของเครือข่ายสัญญาณ ที่ได้รับการรับรองจาก Ookla® รวมถึงการร่วมเป็นพาร์ทเนอร์กับ NTบนคลื่น 700 MHz แทนที่ ที่บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติจะลงทุนเองทั้งหมดร่วม 1 แสนล้านบาท มาเช่าโครงข่าย 5G ของ AIS ปีละ 1 หมื่นล้านบาท นอกจากลูกค้าได้รับคุณภาพการใช้งานที่เป็นเลิศแล้ว ยังเสริมความแข็งแกร่งและยั่งยืนให้แก่องค์กรโทรคมนาคมแห่งชาติอีกด้วย

นายสมชัย เสริมต่อไปอีกว่า สิ่งที่ AIS เชื่อมั่นเสมอมาก็คือ โครงข่ายโทรคมนาคมไม่ได้ทำหน้าที่เป็นเพียง Dumb Pipe หรือท่อส่งเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่สามารถยกระดับเพิ่มความอัจฉริยะและสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผู้ใช้งานได้อย่างไม่มีขีดจำกัด โดยเตรียมทำการวิวัฒน์ครั้งใหม่ให้กับอุตสาหกรรมโทรคมนาคม ด้วย Living Network หรือ เครือข่ายที่มีชีวิตซึ่งทำได้มากกว่าการสื่อสาร เพราะลูกค้าสามารถเป็นผู้ควบคุม สามารถเลือกและออกแบบการใช้งานบน Data ได้เองตามไลฟ์สไตล์ ซึ่งจะพร้อมให้บริการในเดือนธ.ค.2566 ส่วนค่าบริการยังไม่ได้กำหนด

สำหรับโครงข่ายเน็ตบ้านนั้น ความร่วมมือกับ 3BB จะทำให้เกิดประโยชน์กับการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตของคนไทยในวงกว้างมากยิ่งขึ้น ถึงกว่า 13 ล้านครัวเรือน และธุรกิจเน็ตบ้านของ AIS จะก้าวสู่การเป็นผู้เล่นหลักของตลาด ที่พร้อมมอบนวัตกรรม และ ความเป็นเลิศด้านบริการอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดกับความพร้อมในการเปิดตัวเทคโนโลยีล่าสุด WiFi 7 เป็นรายแรกในไทย ร่วมกับ TP-Link ที่มาพร้อมเราน์เตอร์มาตรฐาน WiFi 7 ในการรองรับดีไวซ์ Device ให้เชื่อมต่อได้ ลดปัญหาเกี่ยวกับช่องสัญญาณที่แออัด ทำให้ใช้งานได้ไหลลื่น รองรับการสตรีมแบบวีดีโอแบบ 8K การใช้งาน VR ที่ตอบโจทย์ทุกคนในบ้านได้อย่างครบถ้วน

นอกจากนี้ AIS ยังยกระดับ Enterprise Infrastructure และแพลตฟอร์ม ที่จะมาพลิกโฉมการทำงานขององค์กรภาคธุรกิจและภาคอุตสาหกรรมให้สามารถนำดิจิทัลเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งหรือทั้งหมดของการทำงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันในอนาคต ผ่านการทำงานร่วมกับเครือข่ายพาร์ทเนอร์ชั้นนำระดับโลกที่ครบและใหญ่ที่สุดในไทย ไม่ว่าจะเป็น Data Center, Bridge Alliance ,AIS PARAGON รวมถึง Communications Platform-as-a-Service หรือ CPaaS ที่เชื่อมตอบโจทย์ทุกการสื่อสารขององค์กรในรูปแบบของ Cloud-based

นอกจากนี้บริษัทฯยังเชื่อมต่อพลังของพาร์ทเนอร์ อาทิ ความร่วมมือกับธนาคารกรุงไทย (KTB) นำแพลตฟอร์มเชื่อมโยงร้านค้าถุงเงิน ร้านธงฟ้า ร้านค้ารายย่อย โชว์ห่วย ร้านสตรีทฟู้ด รวมกว่า 1.8 ล้านร้านค้า และจับมือห้างสรรพสินค้าชั้นนำ รวมถึงร้านค้าพาร์ทเนอร์ทั่วประเทศกว่า 30,000 แห่ง ทั่วประเทศ ผ่านความแข็งแกร่งของ ECOSYSTEM ที่มุ่งสร้างทั้งประโยชน์ แบ่งเบาภาระ และมอบความพิเศษให้แก่ลูกค้า พร้อมส่งเสริมเศรษฐกิจฐานรากและภาพรวมให้เติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน

ส่วนของประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นแก่องค์กรจากความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์นั้น บริษัทได้ทำงานร่วมกับ ZTE เพื่อเตรียมเปิดตัวบริการ Cloud PC for Enterprise ให้องค์กรสามารถบริหารจัดการทรัพยากรในรูปแบบ Desktop as a Service (DaaS) บนระบบคลาวด์ที่จัดสรรได้ตามความเหมาะสมบนความปลอดภัยสูงสุดในการเก็บข้อมูล

นอกจากนี้ AIS ยังมีความร่วมมือกับไมโครซอฟต์ ครั้งแรกใน South East Asia ที่พร้อมให้บริการ Microsoft Teams Phone ที่ช่วยให้องค์กรสามารถบริหารจัดการระบบสื่อสารได้อย่างสะดวก ปลอดภัย ประหยัดต้นทุน เพราะพนักงานสามารถโทรออกไปยังเบอร์ภายนอกและรับสายได้ผ่าน Microsoft Teams ที่คุ้นเคย รวมไปถึงการนำสุดยอดนวัตกรรม genAI ที่จะมาช่วยยกระดับการทำงานของโลกยุคใหม่อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นกับ Microsoft 365 Copilot for Enterprise

ขณะเดียวกัน บริษัทฯจะใช้ความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งกับภาครัฐ ของบริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) มาเพิ่มงานโครงสร้างพื้นฐานและธุรกิจใหม่ๆ รวมถึงสิงเทลในการเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ

นายสมชัย อธิบายต่อถึงความตั้งใจในการสร้างการวิวัฒน์เพื่อนำไปสู่ความยั่งยืนของประเทศว่า  โลกในยุคปัจจุบันธุรกิจไม่สามารถใช้ตัวชี้วัดด้านผลกำไรบอกถึงความสำเร็จได้แต่เพียงด้านเดียว แต่องค์กรต้องมีส่วนร่วมในการดูแล เศรษฐกิจ ผู้คน สังคม และสิ่งแวดล้อม ควบคู่กัน ตามหลักของ SDGs ดังนั้นนอกเหนือจากการนำดิจิทัลเข้ามาสร้างการเข้าถึงอย่างเท่าเทียมแล้ว ยังส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีอย่างสร้างสรรค์และปลอดภัยให้มีทักษะและเป็นพลเมืองดิจิทัลที่มีคุณภาพผ่านภารกิจ AIS อุ่นใจ CYBER นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2562 อย่างต่อเนื่อง เพื่อลดผลกระทบจากภัยไซเบอร์ที่เกิดขึ้นหลากหลายรูปแบบในปัจจุบัน ผ่านหลักสูตรการเรียนรู้อุ่นใจไซเบอร์ 4P ที่มีผู้เรียนแล้วกว่า 300,000 ราย

ทางด้านสิ่งแวดล้อม มุ่งสร้าง Green Network ผ่านการบริหารจัดการด้วยนวัตกรรม อย่างการนำเทคโนโลยี AI เข้ามาใช้ในสถานีฐานเพื่อบริหารจัดการพลังงานให้เหมาะสมกับปริมาณการใช้งานของลูกค้า หรือแม้แต่การเพิ่มสัดส่วนของการใช้พลังงานหมุนเวียนจากทั้งพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลม และในอีกด้านที่ดำเนินการควบคู่กันอย่างเข้มข้นคือ ชวนให้คนไทยมีส่วนร่วมในภารกิจนี้ด้วยการปลูกจิตสำนึกและการตระหนักถึงความสำคัญของการแยกขยะอิเล็กทรอนิกส์ หรือ E-Waste ตามเป้าหมายในการจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์อย่างถูกวิธีแบบปราศจากการฝังกลบหรือ Zero e-waste to landfill โดยเราพร้อมเป็น HUB of e-waste ที่จะเป็นแกนกลางรวมทุกภาคส่วนมาร่วมกัน ขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาขยะอิเล็กทรอนิกส์อย่างยั่งยืน”

นายสมชัย กล่าวย้ำในช่วงท้ายว่า “เราตระหนักดีว่า บทบาทหลักของ AIS นอกจากสร้างมาตรฐานทั้งมิติของสินค้า บริการ นวัตกรรม และการดูแลลูกค้าอย่างเป็นเลิศแล้ว เรายังมีภารกิจในการสนับสนุนการเดินหน้าของประเทศ สู่การเป็น Sustainable Nation ซึ่งพนักงาน AIS ทุกคน พร้อมอย่างยิ่งที่จะทุ่มเทและทำให้ภารกิจนี้ประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืน แต่ขณะเดียวกัน ก็มีความฝันว่าจะมีรายได้และกำไรเติบโตขึ้นสองหลัก  จากที่ผ่านมาเติบโตในหลักเดียวหรือ single digit ใกล้เคียงกับ GDP ประเทศ แต่อุตสาหกรรมต้นทุนปรับตัวขึ้น บริษัทได้ทุ่มงบลงทุนเพิ่มขึ้นตลอด ซึ่งการให้บริษัทโทรนาคมแห่งชาติมาเช่าโครงข่าย 5G ปีละ 10,000 ล้านบาท ก็ช่วยเพิ่มกำไรของบริษัท  ท่ามกลางตลาดโทรคมนาคมยังมีการแข่งขันราคาดุเดือดอยู่เป็นปกติและมองว่าราคาสมเหตุสมผลกับต้นทุน พร้อมเสนอแพกเก็จให้ลูกค้าเลือกใช้บริการ