หุ้นโตเกียวเช้านี้พุ่ง เยนทะลุ 150 ต่อดอลลาร์-“เอเชีย” ส่วนใหญ่บวก

HoonSmart.com>> “ตลาดหุ้นโตเกียว” เช้านี้ปรับตัวขึ้นแรง โดยในช่วงแรก ดัชนี Nikkei บวกกว่า 2% เงินเยนที่อ่อนค่าลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบหนึ่งปีที่ระดับ 151 เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ หนุนแรงซื้อหุ้นส่งออก ด้าน “ตลาดหุ้นเอเชีย” ส่วนใหญ่บวกตามตลาดหุ้นสหรัฐฯ จับตาประชุมเฟด

ตลาดหุ้นโตเกียวเช้านี้ปรับตัวขึ้นแรง โดยในช่วงแรก ดัชนี Nikkei บวกกว่า 2% จากค่าเงินเยนที่อ่อนค่าลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบหนึ่งปีที่ระดับ 151 เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ทำให้เกิดแรงซื้อในหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการส่งออก ขณะที่เทรดเดอร์คลายกังวลหลังจากธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ปรับนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายเป็นพิเศษเล็กน้อยเท่านั้น

หุ้นที่นำการปรับขึ้นได้แก่ กลุ่มอุปกรณ์ขนส่ง กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า และกลุ่มธุรกิจหลักทรัพย์

เงินดอลลาร์แตะระดับสูงสุดในรอบ 1 ปีที่ 151.74 เยนในนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ เป็นผลจาก BOJ ประกาศปรับนโยบายควบคุมเส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Yield Curve Control:YCC) ซึ่งถูกมองว่าเป็นการปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายเป็นพิเศษเล็กน้อย

ในการประชุมนโยบายที่ใช้เวลา 2 วันและเสร็จสิ้นในวันอังคาร BOJ ได้ปรับเพดานขึ้นลงอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีจาก 0.50% เป็น 1% แต่คงระดับเป้าหมายของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีเป็น 0%

เช้านี้เวลา 9.00 น. ตามเวลาในญี่ปุ่น เงินดอลลาร์อยู่ที่ 151.32-33 เยน จาก 151.69-79
เยนในตลาดนิวยอร์ก และจาก 150.28-30 เยนในตลาดโตเกียวเวลา 17.00 น. ในวันจันทร์

นายมาซาโตะ คันดะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังด้านกิจการระหว่างประเทศ กล่าวว่า ญี่ปุ่นอยู่ในสถานะ “เตรียมพร้อม” เพื่อดำเนินการทุกขั้นตอนที่เป็นไปได้เพื่อรับมือกับความผันผวนที่มากเกินไปในตลาดสกุลเงิน และแสดงความกังวลเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของเงินเยนอย่างรวดเร็ว หลังจากร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบหนึ่งปีเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ

การออกมาพูดเตือนขงนายคันดะ มีขึ้นในขณะที่การขายเงินเยนเร่งตัวขึ้น หลังจากBOJ ผ่อนคลายการควบคุมอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลระยะยาว แต่ยังคงนโยบายการเงินแบบการผ่อนคลายทางการเงินในการประชุมเมื่อวานนี้

ณ เวลา 9.26 น. ในประเทศไทย

ดัชนี Nikkei 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นอยู่ที่ 31,387.00 จุด เพิ่มขึ้น 528.15 จุด, +1.71%

ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้น ตามตลาดหุ้นนสหรัฐฯที่ปิดบวกเมื่อคืนนี้ นักลงทุนจับตาการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ซึ่งคาดการณ์ว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ย

เทรดเดอร์ยังจับตาแผนการกู้ยืมใหม่ของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ครบกำหนดชำระก่อนการประกาศของเฟด เพราะอาจจะมีผลต่ออัตราผลตอบแทนพันธบัตร

อย่างไรก็ตามการประชุมของเฟด และการกู้ยืมใหม่ของรัฐบาลสหรัฐฯ จะมีผลต่อตลาดเอเชียอย่างแท้จริงในวันพฤหัสบดี

นักลงทุนยังเกาะติดการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของหลายประเทศในภูมิภาค

Caixin/S&P Global รายงานดัชนี PMI ภาคการผลิต ของจีนลดลงมาที่ 49.5 ในเดือนตุลาคม จาก 50.6 ในเดือนกันยายน ถือเป็นการหดตัวครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม และต่ำกว่า 50.8 ที่นักวิเคราะห์คาดค่อนข้างมาก ตัวเลขนี้มีทิศทางสอดคล้องกับตัวเลขทางการที่สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีนเปิดเผยเมื่อวันอังคาร

รายงาน PMI ที่ไม่สดใส อาจจะมีแรงกดดันต่อหุ้นและสกุลเงินแรงขึ้น เงินหยวนอ่อนค่าลงใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 16 ปีของเดือนกันยายน และแรงกดดันในการขายที่มีผลต่อเงินหยวน offshore ฝั่งก็มีมาก

เกาหลีใต้รายงานการส่งออกเดือนตุลาคมเพิ่มขึ้น 5.1% เมื่อเทียบรายปี เป็นการขยายตัวครั้งแรกในรอบ 13 เดือน แต่กิจกรรมภาคโรงงานยังหดตัวอีก โดยดัชนี PMI เดือนตุลาคม ลดลงมาที่ 49.8 จาก 49.9 ในเดือนกันยายน

ดัชนี SSE ตลาดหุ้นจีนอยู่ที่ 3,017.6 จุด ลดลง 1.17 จุด, -0.04%
ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงอยู่ที่ 17,018.6 จุด ลดลง 93.88 จุด, -0.55%
ดัชนี Kospi ตลาดหุ้นเกาหลีอยู่ที่ 2,292.02 จุด เพิ่มขึ้น 14.03 จุด, +0.62%
ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันอยู่ที่ 16,037.66 จุด เพิ่มขึ้น 36.39 จุด, +0.23%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนธันวาคมเพิ่มขึ้น 0.09 ดอลลาร์ หรือ 0.11% ซื้อขายที่ 81.11 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนธันวาคมเพิ่มขึ้น 0.19 ดอลลาร์หรือ 0.22% ซื้อขายที่ 85.21 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล