หุ้นเช้านี้ลบ 1.34 จุด แกว่งแคบ รอผลประชุม FOMC

HoonSmart.com>>ตลาดหุ้นเช้านี้ลบ 1.34 จุด แกว่งแคบ รอผลประชุม FOMC คืนนี้ ด้านกลยุทธ์มองตัวแปรสำคัญ ๆ อาทิ ทิศทางดอกเบี้ยสหรัฐฯ ราคาน้ำมัน สถานการณ์ตะวันออกกลาง และเศรษฐกิจจีน ผันผวนมาก จนมีผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทยในช่วงนี้

ดัชนีตลาดหลักทรัพย์วันที่ 1 พ.ย.2566 ณ เวลา 10.08 น.อยู่ที่ระดับ 1,380.49 จุด ลดลง 1.34 จุด หรือ -0.10% มูลค่าซื้อขาย 3,672 ล้านบาท

บล.ดาโอ (ประเทศไทย) ประเมินดัชนีฯ แกว่งกรอบแคบ ตลาดมีความกังวลจากปัจจัยลบรอบด้าน และรอผลประชุม FOMC คืนนี้ โดยตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดัชนีดาวโจนส์บวก 123 จุด ยังบวกต่อได้แต่ชะลอตัวลง การรายงานกำไรบริษัทในตลาดยังมีผลอยู่บ้าง แต่นักลงทุนส่วนใหญ่รอดูผลประชุม FOMC คืนนี้

การประชุม FOMC ตลาดคาดว่าจะคงดอกเบี้ยไว้ที่ 5.50% แต่ถ้าเป็นตามคาดจริง ต้องไปดูว่า Fed จะเดินนโยบายดอกเบี้ยอย่างไร จะขึ้นต่อ หรือจะหยุดไว้เท่านี้ ถ้าชะลอการขึ้นไปเลย แบบนี้จะเป็นบวกต่อตลาด

สถานการณ์ตะวันออกกลาง อิสราเอล ยังบุกต่อเนื่อง ความกังวลต่อเรื่องนี้ยังอยู่ในระดับสูง แต่ในมุมของราคาน้ำมัน ค่า War Premium น่าจะน้อยกว่าความกังวลเรื่องเศรษฐกิจ(demand) โดยเฉพาะตัวเลข PMI จีนที่ต่ำกว่าระดับ 50 จุด จึงทำให้ราคาน้ำมันอ่อนตัว น้ำมันดิบ Brent เช้านี้ 85.36 เหรียญสหรัฐ

ผลประชุม BOJ ที่ออกมา surprise ตลาด ทำให้ค่าเงินเยนอ่อน แต่ดีต่อตลาดหุ้นญี่ปุ่น ผลตรงต่อตลาดหุ้นไทยมีน้อย หุ้นที่อาจเสียประโยชน์จากเงินเยนอ่อนค่า คือ ผู้ส่งออกสินค้าไปญี่ปุ่น เช่น ผู้ส่งออกข้าวโพด ไก่

ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ วันนี้ PMI จีน (Caixin) ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนและตัวเลข ISM ของสหรัฐฯ และนายกฯ นั่งประชุมบอร์ด EV

ด้านกลยุทธ์มองว่า ตัวแปรสำคัญ ๆ ของตลาด อาทิ ทิศทางดอกเบี้ยสหรัฐฯ ราคาน้ำมัน สถานการณ์ตะวันออกกลาง และเศรษฐกิจจีน ผันผวนมาก จนมีผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทยในช่วงนี้ และทำให้ดัชนีฯไม่สามารถประคองตัวเองได้ เป็นเหตุให้ยังแนะนำให้ถือเงินสดในระดับที่สูง แต่ขณะเดียวกัน ก็เข้ามาเก็บหุ้นที่น่าลงทุนเข้าพอร์ตไว้ด้วย

5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
ADVANC อยู่ที่ 215.00 บาท ลดลง 5.00 บาท หรือ -2.27% มูลค่าซื้อขาย 284.46 ล้านบาท
BBL อยู่ที่ 157.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าซื้อขาย 202.53 ล้านบาท
PTTEP อยู่ที่ 163.00 บาท ลดลง 1.00 บาท หรือ -0.61% มูลค่าซื้อขาย 190.87 ล้านบาท
DELTA อยู่ที่ 79.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท หรือ +0.95% มูลค่าซื้อขาย 172.62 ล้านบาท
SCB อยู่ที่ 98.00 บาท ลดลง 0.50 บาท หรือ -0.51% มูลค่าซื้อขาย 115.58 ล้านบาท