HoonSmart.com>>ตลาดหลักทรัพย์ฯ รับหุ้นน้องใหม่ “สเปเชี่ยลตี้ เนเชอรัล โปรดักส์” (SNPS) ผู้ผลิตและจำหน่ายสมุนไพรครบวงจร เริ่มซื้อขายในกลุ่มอุตสาหกรรมสินค้าอุปโภคและบริโภค 29 พ.ย.นี้ เตรียมนำเงินลงทุนเพื่อพัฒนาเทคโนโลยี วิจัย พัฒนาผลิตภัณฑ์ ขาย IPO ราคาหุ้นละ 4.2 บาท โชว์ผลงานไตรมาส 3/67 กำไรสุทธิ 23.58 ล้านบาท เติบโต 1,560% จากงวดปีก่อน กวาดรายได้จากการขาย 128.89 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 63.32%
นางสาวรุ่งทิพย์ เจริญวิสุทธิวงศ์ ผู้ช่วยผู้จัดการ กลุ่มงานผู้ออกหลักทรัพย์ 2 ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยินดีต้อนรับ บริษัท สเปเชี่ยลตี้ เนเชอรัล โปรดักส์ เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในกลุ่มอุตสาหกรรมสินค้าอุปโภคและบริโภค หมวดของใช้ส่วนตัวและเวชภัณฑ์ โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า “SNPS” ในวันที่ 29 พฤศจิกายน 2567
SNPS และกลุ่มบริษัทฯ ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายสารสกัดสมุนไพรมาตรฐาน เพื่อใช้เป็นสารสกัดและวัตถุดิบในการผลิตครื่องสำอางและเวชสำอาง อาหารและผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และยา รวมถึงการให้บริการที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ รับจ้างสกัด วิจัยและพัฒนาสารสกัด และตรวจวิเคราะห์ต่างๆ นอกจากนี้ บริษัทได้ต่อยอดธุรกิจไปสู่การผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ความงาม และสุขอนามัย โดยแบ่งเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่รับจ้างพัฒนาและผลิตภายใต้ตราสินค้าของลูกค้า (Original Design Manufacturer : ODM) ซึ่ง SNPS บริการให้คำปรึกษา ศึกษาวิจัย คิดค้นและพัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์ ออกแบบบรรจุภัณฑ์ และให้บริการขึ้นทะเบียนสินค้ากับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (“อย.”) กระทรวงสาธารณสุข และกลุ่มผลิตและจำหน่ายภายใต้ตราสินค้าของกลุ่มบริษัทฯ (Original Brand Manufacturer : OBM) ที่นำงานวิจัยและนวัตกรรมที่มีการพิสูจน์มาต่อยอดสู่การผลิตเชิงพาณิชย์ เช่น Nine Herbs Green Balm for relieve itching (ยาแก้คัน) ยาสารสกัดฟ้าทะลายโจร มาดามไทเฮิร์บ ผลิตภัณฑ์โปรตีนจากพืชชนิดชงดื่มตรา Phytae และผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสูตรครบถ้วน Colosure
SNPS มีทุนจดทะเบียนชำระแล้วหลัง IPO 405 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก จำนวนรวม 105 ล้านหุ้น โดยเสนอขายต่อบุคคลตามดุลยพินิจของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ ผู้มีอุปการคุณของบริษัทฯและบริษัทย่อย บุคคลที่มีความสัมพันธ์กับบริษัท และกรรมการ ผู้บริหาร พนักงานของบริษัทฯและบริษัทย่อย ในระหว่างวันที่ 21 – 22 และ 25 พฤศจิกายน 2567 ในราคาหุ้นละ 4.2 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 441 ล้านบาท และมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 1,701 ล้านบาท โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญ
ดร. ธีรญา กฤษฎาพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สเปเชี่ยลตี้ เนเชอรัล โปรดักส์ เปิดเผยว่า SNPS คือผู้ดำเนินธุรกิจนวัตกรรมสมุนไพรที่บูรณาการสารออกฤทธิ์จากพืชเพื่อความยั่งยืน ตอบโจทย์ ให้ความสำคัญกับการวิจัยและพัฒนาเพื่อสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่มีเอกลักษณ์และความแตกต่าง โดยมีแผนพัฒนาสารออกฤทธิ์จากพืชและผลิตภัณฑ์
ภายใต้ลิขสิทธิ์ของกลุ่มบริษัทฯ อย่างต่อเนื่อง เพื่อขยายฐานลูกค้าไปตลาดที่มีช่องว่างในการเติบโต และลูกค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมใหม่ที่ต้องการผลิตสินค้าที่ใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติ โดย SNPS มีแผนที่จะนำเงินระดมทุนไปลงทุนเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีในการสกัดให้ได้สารสกัดสมุนไพรที่มีความบริสุทธิ์มากขึ้น รวมทั้งลงทุนในการวิจัย พัฒนา และผลิตวัตถุดิบสมุนไพร สำหรับผลิตภัณฑ์ยาพัฒนาจากสมุนไพร และอาหารทางการแพทย์หรืออาหารที่มีวัตถุประสงค์พิเศษ
SNPS มีผู้ถือหุ้นใหญ่หลัง IPO คือ กลุ่มครอบครัวกฤษฎาพงษ์ ถือหุ้นรวม 74.07% โดยบริษัทมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 30 ของกำไรสุทธิตามงบการเงินเฉพาะกิจการหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและหลังหักเงินสำรองต่างๆ ทุกประเภทที่กฎหมายและข้อบังคับของบริษัทกำหนดไว้ โดยคำนึงถึงปัจจัยต่างๆ เพื่อประโยชน์ต่อผู้ถือหุ้นเป็นหลัก
ด้านบริษัท สเปเชี่ยลตี้ เนเชอรัล โปรดักส์ (SNPS) เปิดเผยผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปี 2567 มีกำไรสุทธิ 23.58 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.08 บาท เพิ่มขึ้น 1,560% จากงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 1.42 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.00 บาท
ส่วนงวด 9 เดือน ปี 2567 กำไรสุทธิ 56.29 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.19 บาท เพิ่มขึ้น 82.35% จากงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 30.87 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.10 บาท
กลุ่มบริษัทฯ มีรายได้จากการขายในไตรมาส 3/2567 จำนวน 128.89 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 50.97 ล้านบาท หรือ 63.32% จากงวดเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักมาจากรายได้ของผลิตภัณฑ์ประเภท ODM เพิ่มขึ้น 35.05 ล้านบาทและรายได้ผลิตภัณฑ์สกัดสมุนไพรมาตรฐานเพิ่มขึ้น 17.32 ล้านบาทและมีอัตรากำไรขั้นต้นรวมสูงขึ้น 9.34% สาเหตุหลักจากการใช้กำลังการผลิตอยางมีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงวัตถุดิบที่ต่อรองราคาได้ดีมากขึ้น
บริษัทฯ มีรายได้จากการขายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากไตรมาส 2/2567 สาเหตุหลักจากผลิตภัณฑ์สกัดสมุนไพรมาตรฐานและผลิตภัณฑ์ประเภท ODM มีรายได้สูงขึ้น 15.91% จากไตรมาส 2/2567 จากคำสั่งซื้อของลูกคาในกลุ่มอาหารเสริมและเครื่องสำอาง
ขณะที่งวด 9 เดือน ปี 2567 กลุ่มบริษัทมีอัตรา EBIT รวมและอัตรากำไรสุทธิรวม 22.41% และ 1.06% ตามลำดับ อย่างไรก็ตามมีค่าใช้จ่ายบริหารเพิ่มขึ้น 6.26 ล้านบาท จากการตั้งค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิต 2.91 ล้านบาท จากยอดลูกหนี้การค้าเพิ่มขึ้น เป็นผลมาจากการเพิ่ขึ้นของยอดขาย
กลุ่มบริษัทฯ มีรายได้จากการขายเพิ่มขึ้น 22.31% และมีอัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 5.58% สาเหตุหลักจากยอดขายเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มอาหารเสริมและเครื่องสำอาง
———————————————————————————————————————————————————–
