เอเซียพลัส หั่นเป้ากำไร PTT-PTTEP ปี 62-63 ลดราคาน้ำมันดิบ

นักวิเคราะห์มองต่างมุม เอเซียพลัสมองราคาน้ำมันดิบลงยาว ลดประมาณการกำไร PTT-PTTEP ลง 2 ปี แนะนำให้โยกเงินออกจากหุ้น 2 ตัวนี้ ส่วนบล.หยวนต้าแนะนำให้ซื้อ ปตท. ดักน้ำมันดีดกลับ และเงินต่างชาติไหลกลับมาหุ้นใหญ่

ฝ่ายวิจัยบริษัทหลักทรัพย์(บล.)เอเซียพลัส ปรับลดสมมติฐานราคาน้ำมันดิบอ้างอิงดูไบ ปี 2562 ลง 5 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เป็น 65 ดอลลาร์ และตั้งแต่ปี 2563 อยู่ที่ 70 ดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้ประมาณการกำไรปี 2562 และ 2563 ของ PTTEP ลดลง 13.3% และ 15.6% ตามลำดับ ส่วน PTT ลดลง 9.7% และ 7.0% โดยคงน้ำหนักการลงทุนกลุ่มปิโตรเลียม “เท่าตลาด” แนะนำให้โยกการลงทุนออกจาก PTTEP ให้ราคาเป้าหมายปีหน้า 148 บาท, PTT 56 บาท จาก upside ที่ยังจำกัด

ในช่วงกว่า 1 เดือนที่ผ่านมา ราคาน้ำมันดิบอ้างอิงดูไบลดลงจากระดับสูงสุดที่ 83.9 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เมื่อวันที่ 3 ต.ค.2561 มาอยู่ที่ 70.5 ดอลลาร์ในปัจจุบัน ลดลงมากถึง 16% เริ่มส่งสัญญาณลบต่อแนวโน้มราคาน้ำมันดิบ จากนี้ไปมีโอกาสจะปรับตัวลงต่อ หลังสถานการณ์ปริมาณการผลิตผ่อนคลาย ขณะที่การเติบของความต้องการใช้ชะลอตัวลง ตามเศรษฐกิจโลก และยังมีปัจจัยอื่นๆอีกที่จะมีผลต่อราคา เช่น Dollar Index ที่แข็งค่าขึ้น หรือการรายงานตัวเลขปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ของ EIA ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นต้น

ในปี 2562 ฝ่ายวิจัยฯคาดว่า ความต้องการใช้น้ำมันจะลดลง หรือทรงตัวจากปี 2561 ที่ราว 1.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน ส่วนปริมาณน้ำมันดิบผ่อนคลายมากขึ้น ทั้งกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นจากสหรัฐฯ ขึ้นมายืนเหนือ 11 ล้านบาร์เรลต่อวัน ทำระดับสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ รวมถึงกลุ่มโอเปกที่มีการผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้น หลังความร่วมมือปรับลดกำลังการผลิตต่อเนื่องจนถึงสิ้นปี 2561 ที่ 1.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน จะสิ้นสุดลง และไม่มีการต่ออายุ

เดือนต.ค. กลุ่มโอเปก มีกำลังผลิตรวม 3.3 หมื่นล้านบาร์เรลต่อวัน สูงสุดรอบเกือบ 2 ปี นับจากเดือนธ.ค.2559 เพื่อชดเชยน้ำมันที่หายไปจากอิหร่าน หลังถูกสหรัฐฯคว่ำบาตร นอกจากนี้ ล่าสุดสหรัฐฯ ยังผ่อนผันให้ 8 ประเทศผู้นำเข้าน้ำมันจากอิหร่าน ได้แก่ จีน อินเดีย กรีซ อิตาลี ไต้หวัน ญี่ปุ่น ตุรกี และเกาหลีใต้ สามารถนำเข้าน้ำมันจากอิหร่านได้ ภายใน 180 วันแรก หลังการคว่ำบาตร

บล.หยวนต้า(ประเทศไทย) คาดเม็ดเงินต่างชาติที่ไหลกลับเข้าสู่ตลาดหุ้นเกิดใหม่ จะเป็นบวกต่อหุ้นขนาดใหญ่ ประเมินว่า PTT จะเป็นหุ้นหลักที่รองรับกระแสเงินทุนต่างชาติได้ดี

ขณะที่ราคาน้ำมันดิบที่ลงมามากใน 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา จึงมีโอกาสฟื้นตัวกลับและเป็นผลเชิงบวกต่อหุ้นกลุ่มพลังงาน แนะนำ “ซื้อ”