MCA เคาะราคา 3.30 บาท ..ชูผู้นำ Marketing Agency ครบวงจร

HoonSmart.com >> MCA เคาะราคา IPO 3.30 บ. เปิดจองซื้อ 16-18 ต.ค. จ่อลงสนามเทรดเร็ว ๆ นี้ ชูจุดเด่น ผู้นำ Marketing Agency แบบครบวงจร รายแรกในตลาดหุ้น 

วันที่ 11 ตุลาคม 2566 บริษัท มาร์เก็ต คอนเน็กชั่นส์ เอเชีย  (MCA) ลงนามในสัญญาแต่งตั้ง บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด เป็นแกนนำจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย หุ้นสามัญเพิ่มทุนเสนอขายประชาชนทั่วไปครั้งแรก  (IPO) จำนวน 60 ล้านหุ้น หรือ 26.09% ของหุ้นชำระแล้วทั้งหมด มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท  ราคาเสนอขาย 3.30 บาท เปิดจองซื้อ 16-18 ตุลาคมนี้ เข้าจดทะเบียนในตลาด mai  หมวดบริการ (Service) โดยมีบล.อีก 4 แห่ง ร่วมจำหน่าย

นายกิตติพันธ์ ภูษณวรรณ กรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด กล่าวว่า ราคาเสนอขาย  MCA   3.30 บาท เป็นราคาที่เหมาะสม เนื่องจาก MCA มี Business Model ที่โดดเด่น เป็นผู้นำธุรกิจด้านแผนกลยุทธ์ทางการตลาด และการจัดกิจกรรมส่งเสริมทางการตลาดแบบ One-stop service marketing ที่ตอบโจทย์ทุกกิจกรรมการตลาดที่หลากหลายรูปแบบ ให้กลุ่มลูกค้าครบทุกมิติ รายแรกในตลาดหลักทรัพย์ฯ

ภายใต้การบริการจัดกิจกรรมทางการตลาดและดิจิทัล (Marketing activities and Digital), บริการบรรจุและจัดส่งสินค้า (Packing and Logistic), การให้บริการพนักงานแนะนำสินค้า (Product Consultant) และการให้บริการจัดเรียงสินค้า (Merchandiser) สะท้อนให้เห็นถึงความแตกต่างของศักยภาพรูปแบบการให้บริการการจัดกิจกรรมส่งเสริมทางการตลาดของ MCA ที่ครบวงจร เมื่อเทียบกับผู้ประกอบการในกลุ่มอุตสาหกรรมเดียวกัน

นายเอกจักร บัวหภักดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท แคปปิตอล วัน พาร์ทเนอร์ จำกัด ที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า MCA เป็นเชี่ยวชาญการวางแผนกลยุทธ์ทางการตลาด  บริการจัดกิจกรรมส่งเสริมทางการตลาดได้อย่างครบวงจร ตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ และด้วยจุดเด่นในการเป็นผู้ให้บริการในการจัดกิจกรรมทางการตลาดแบบ One-stop service marketing ที่สามารถตอบโจทย์ทางธุรกิจ ให้แก่ลูกค้า ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่การเพิ่มการรับรู้ของแบรนด์ (Brand Awareness) การสร้างความเชื่อมโยงกับกลุ่ม ผู้อุปโภคบริโภค (Customer Engagement) ไปจนถึงการผลักดันยอดขาย (Boost Sales) การให้บริการในส่วนของการจัดตั้งบูธสินค้า (Booth) การจัดโรดโชว์สินค้า (Roadshow) หรือการจัดกิจกรรมทางการตลาด (Marketing Event)

บริษัทฯมีประสบการณ์ในการให้บริการแก่ลูกค้าหลากหลายกลุ่มอุตสาหกรรม ทั้งแบรนด์สินค้าในประเทศและต่างประเทศมากกว่า10 ปี พร้อมทั้งมีฐานข้อมูลพนักงานผู้ให้บริการภายนอก (Outsource) มากกว่า 9,100 คน ที่สามารถให้บริการได้ครอบคลุมทั่วประเทศ และล่าสุด MCA ได้ขยายธุรกิจสู่การดำเนินธุรกิจใหม่ ในการเข้าไปเป็น ผู้จัดจำหน่ายสินค้า (Distributor) เพื่อต่อยอดจากประสบการณ์ผู้ให้บริการส่งเสริมการตลาดครบวงจร ซึ่งจะช่วยเสริมศักยภาพและสร้างโอกาสใหม่ๆ ให้แก่บริษัทฯ ได้เพิ่มขึ้นในอนาคต เนื่องจาก Distributor มีคู่แข่งน้อยราย และมี Upside ในตลาดอย่างมาก

“ ในฐานะ FA มองว่า MCA เป็นหุ้นเทิร์นอะราวด์น่าลงทุน เนื่องจากบริษัทฯ เป็นผู้ให้บริการทางกลยุทธ์ และการจัดกิจกรรมทางการตลาดเพื่อสนับสนุนการขายที่ครบวงจร ดังนั้นไม่ว่าเศรษฐกิจปรับตัวในทิศทางใด กลุ่มลูกค้าหรือผู้ประกอบการก็ยังคงจำเป็นต้องใช้กลยุทธ์กิจกรรมทางการตลาดเพื่อกระตุ้นยอดขาย สร้างรายได้ ให้ผลิตภัณฑ์นั้น ๆ ซึ่ง MCA สามารถตอบโจทย์ทุกการให้บริการด้าน Marketing Agency แบบครบวงจรให้กับลูกค้าได้เป็นอย่างดี”

นายภักดี เหล่างาม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  MCA  กล่าวว่า  บริษัทฯ มีวิสัยทัศน์ ที่มุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำและผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจบริการกิจกรรมทางการตลาดและการสร้างสรรค์อย่างครบวงจร โดยใช้นวัตกรรมดิจิทัลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน สู่ผลสำเร็จและการเติบโตอย่างยั่งยืน และมุ่งสู่การสร้างผลตอบแทนสูงสุดแก่ลูกค้าและผู้ถือหุ้นในอนาคต เพราะ MCA คือผู้นำด้านการจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดในรูปแบบ Marketing Agency ที่ครบวงจร โดยมีเทคโนโลยีในการเพิ่มประสิทธิภาพของการทำงาน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี และประสบความสำเร็จสู่การต่อยอดในอนาคต ทั้งนี้หัวใจหลักที่สำคัญในการดำเนินธุรกิจของ MCA คือ “ความเชื่อใจ วัดผลได้ อย่างมืออาชีพ” เนื่องจากบริษัทฯเชื่อว่า ระบบที่ดีจะสร้างผลงานที่มีคุณภาพ และทีมงานที่ดีจะสร้างประสบการณ์ที่น่าประทับใจ ซึ่งสิ่งเหล่านี้คือแรงผลักดัน เพื่อยกระดับองค์กร สู่มาตรฐานสากลและสร้างมูลค่าเพิ่มการเติบโตในอนาคต

เม็ดเงินที่ได้จากการระดมทุน 198 ล้านบาท (สุทธิ 184 ล้านบาท) บริษัทฯ จะนำไปเป็นเงินทุนหมุนเวียน และรองรับการลงทุนในสินทรัพย์ พร้อมทั้งนำไปขยายธุรกิจสู่การดำเนินธุรกิจใหม่ในการเข้าไปเป็นผู้จัดจำหน่ายสินค้า (Distributor) เนื่องจาก บริษัทฯ เล็งเห็นโอกาสขยายเข้าสู่การดำเนินธุรกิจ Distributor เพราะปัจจุบัน มีผู้ประกอบการในธุรกิจดังกล่าวน้อยราย เป็นโอกาสในการสร้างมูลค่าเพิ่มในอนาคต

สำหรับแผนกลยุทธ์ที่มุ่งสู่ธุรกิจ Distributor ส่งผลให้ในไตรมาส 3/2566 บริษัทฯ ได้รับโอกาสจากลูกค้ากลุ่มธุรกิจของใช้ส่วนตัวและเวชภัณฑ์จำนวน 2 ราย ซึ่งทั้งคู่เป็นลูกค้าปัจจุบันของบริษัทฯ ในการเริ่มดำเนินธุรกิจการบริการเป็นผู้จัดจำหน่าย (Distributor) รูปแบบ Principal ในโครงการนำร่อง (Pilot Project) จำนวน 2 โครงการได้แก่ โครงการที่ 1 มีระยะเวลาโครงการ 6 เดือน (เดือนกรกฎาคม-เดือนธันวาคม ปี 2566) สำหรับดูแลสินค้าจำนวน 7 แบรนด์ โดยมีขอบเขตการรับผิดชอบในการจัดจำหน่ายผ่านร้านค้าประเภทร้านค้าปลีกแบบดั้งเดิม (Traditional Trade) 13 จังหวัดที่กระจายอยู่หลากหลายพื้นที่ในประเทศไทย

และโครงการที่ 2 มีระยะเวลาโครงการ 6 เดือน (เดือนกันยายน ปี 2566 ถึงเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2567) เป็นการดูแลสินค้าจำนวน 7 แบรนด์ โดยมีช่องทางการจัดจำหน่ายเป็นร้านค้าประเภทร้านค้าปลีกแบบดั้งเดิม (Traditional Trade) ทั่วประเทศไทย โดยคาดหวังอัตรากำไรขั้นต้นจากธุรกิจผู้จัดหน่ายสินค้า (Distributor) อยู่ที่ 5-15% ซึ่งทุกโครงการที่บริษัทฯ เป็นผู้จัดจำหน่ายสินค้า จะช่วยผลักดันความสามารถในการดำเนินงานบริการเป็นผู้จัดจำหน่ายของบริษัทฯ ให้เพิ่มขึ้น ซึ่งสามารถตอบโจทย์การให้บริการทางการตลาดที่หลากหลายรูปแบบครบทุกมิติ สู่การสร้าง New S-Curve ให้บริษัทฯ เติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต

“มองว่า MCA เป็นหุ้น Post-Covid มี Upside อีกมาก ตามการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ประกอบกับบริษัทฯได้ผ่านจุดต่ำสุดมาแล้วในช่วง Covid-19 ถึงแม้ในช่วง Covid จะมีข้อจำกัดในด้านงานกิจกรรมทางการตลาด แต่ MCA ก็สามารถคว้าโอกาสทางธุรกิจปรับกลยุทธ์ ผลักดันบริการจัดเรียงสินค้าให้เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ทำให้บริษัทฯยังคงมีกำไรสุทธิในช่วง Covid และยังเป็นบันไดสำคัญที่สนับสนุนการเติบโตของบริษัทฯในอนาคต โดยเฉพาะบริการ Shared Merchandiser ซึ่งบริษัทฯคาดหวังประโยชน์จากการเติบโตของฐานลูกค้า และ Economies of Scale ได้อย่างมาก”

ทั้งนี้ สำหรับผลการดำเนินงานของ MCA ในงวด 6 เดือนแรกของปี 2566 มีการเติบโตอย่างโดดเด่น โดยมีรายได้จากการบริการรวม 210.29 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.91 ล้านบาท หรือ 16.72% (YoY) จากการเติบโตของทั้ง 4 กลุ่มบริการ และกำไรสุทธิอยู่ที่ 12.26 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 69.57% (YoY) เป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการบริการจัดกิจกรรมทางการตลาดและดิจิทัลจากการจัดกิจกรรมทางการตลาดช่วงเทศกาลสำคัญช่วงต้นปี ที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ