‘OR’ โรดโชว์เปิดกลยุทธ์โต เพิ่มเชื่อมั่นกองทุน-นักวิเคราะห์

HoonSmart.com>>”ดิษทิต ปันยารชุน “ซีไอโอ ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก (OR)นำทีมคณะผู้บริหาร พบผู้จัดการกองทุนและนักวิเคราะห์ ชี้แจงถึงกลยุทธ์ และทิศทางธุรกิจ ตามพันธกิจของ OR ทั้ง 4 ด้าน  ให้ความสำคัญกับการบริหารจัดต้นทุนและความเสี่ยง ยืนยันผลการดำเนินงานยังคงเป็นไปตามแผน  ด้านราคาหุ้นฟื้นบวก 1.12% ปิดที่ 18.10 บาท นักวิเคราะห์ 10 ใน 17 ยังคงแนะนำซื้อ ชี้เป้าเฉลี่ย 24.36 บาท

นายดิษทิต ปันยารชุน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก (OR) พร้อมด้วย นายสุชาติ ระมาศ ผู้อำนวยการใหญ่ นางสาววิไลวรรณ กาญจนกันติ รองประธานเจ้าหน้าบริหารด้านบริหารการเงิน และคณะผู้บริหาร OR ร่วมพบปะพูดคุยกับ นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท หลักทรัพย์ทิสโก้ และนายกสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน พร้อมด้วยผู้จัดการกองทุนและนักวิเคราะห์ เมื่อวันที่ 4 ต.ค.2566 ที่ผ่านมา

การโรดโชว์ครั้งนี้มีการชี้แจงถึงกลยุทธและทิศทางธุรกิจของ OR ตามพันธกิจ ทั้ง 4 ด้าน โดยให้ความสำคัญกับการบริหารจัดต้นทุนและการบริหารจัดการความเสี่ยง และผลการดำเนินงานยังคงเป็นไปตามแผนงาน

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่า การดำเนินธุรกิจใน กลุ่มธุรกิจ Mobility มีความหลากหลาย ไม่ได้มีเพียงการขายปลีกน้ำมันผ่านสถานีบริการ พีทีที สเตชั่น เท่านั้น แต่ยังมีธุรกิจด้านพลังงานอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นการจำหน่ายน้ำมันอากาศยาน ซึ่งมีแนวโน้มเติบโตดีจากการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว การจำหน่ายน้ำมันเชิงพาณิชย์ ก๊าซหุงต้ม น้ำมันหล่อลื่น และผลิตภัณฑ์พิเศษ เช่น ยางมะตอย รวมถึงสถานีชาร์จไฟฟ้า EV Station PluZ ที่เป็นการลงทุนเพื่ออนาคต สามารถตอบสนองแนวโน้มการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด

สำหรับ กลุ่มธุรกิจ Lifestyle จะยังคงเดินหน้าสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม (Food & Beverage) รวมไปถึงแสวงหาธุรกิจใหม่ ๆ โดยมีธุรกิจสุขภาพและความงาม (Health & Beauty) เป็นอุตสาหกรรมเป้าหมายที่ OR อยู่ระหว่างการศึกษาและพัฒนาความร่วมมือกับพันธมิตร เพื่อเสริมความแข็งแกร่งของ Ecosystem และตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่มีแนวโน้มให้ความสำคัญกับเรื่องของสุขภาพและความงามมากขึ้น

ส่วนกลุ่มธุรกิจ Global จะยังคงมุ่งเสริมความแข็งแกร่งของการดำเนินธุรกิจในต่างประเทศที่ดำเนินการอยู่ ไม่ว่าจะเป็นกัมพูชา ลาว และฟิลิปปินส์ โดยเพิ่มความหลากหลายในการดำเนินธุรกิจและร่วมกับพันธมิตรในการขยายธุรกิจออกไปในต่างประเทศ อีกทั้งกำหนดประเทศยุทธศาสตร์ในการดำเนินธุรกิจที่สำคัญ คือประเทศกัมพูชาที่เปรียบเสมือนเป็นบ้านหลังที่ 2 รองจากประเทศไทย ส่วน กลุ่มธุรกิจ OR Innovation ยังคงมุ่งผสานการยกระดับคุณภาพชีวิตและการกระจายรายได้สู่ชุมชนเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินธุรกิจ รวมถึงการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการอำนวยความสะดวกผู้บริโภคและเป็นอีกช่องทางในการเชื่อมโยงผู้บริโภคที่เป็นลูกค้าของ OR ผ่านทาง Physical Platform มายัง Digital Platform สร้างการเป็น O2O เพื่อส่งเสริมต่อยอดโอกาสทางธุรกิจในอนาคต

“OR ยังให้ความสำคัญกับสร้างอนาคตที่ยั่งยืนผ่าน SDG ในแบบฉบับของ OR ซึ่งประกอบไปด้วย S – SMALL โอกาสเพื่อคนตัวเล็ก D – DIVERSIFIED โอกาสเพื่อการเติบโตทุกรูปแบบ และ G – GREEN โอกาสเพื่อสังคมสะอาด เพื่อตอบโจทย์เป้าหมาย OR 2030 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และผลักดันให้ OR ก้าวไปสู่การเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน”

ด้านราคาหุ้น OR  11 ก.พ. 2564 ราคาปิดที่ 18.10 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาทหรือ +1.12%  เทียบกับราคาในรอบ 52 สัปดาห์ ต่ำสุดปืดที่ 17.60 บาท และสูงสุด 26.25 บาท โดยนักวิเคราะห์  10 ใน 17 ราย ยังคงแนะนำให้ซื้อ  และแนะนำถือ 5 รายและขาย 2 ราย ให้ราคาเป้าหมายเฉลี่ย 24.36 บาท สูงสุด 29.50 บาท โดย.บล.ทรีนีตี้ และบล.ธนชาตให้ขายเป้าต่ำสุด 17.50 บาท บล. CGS-CIMB ก็ให้ขาย เป้าหมาย 21.50

ทั้งนี้  บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก เข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 11 ก.พ. 2564  ซึ่งประสบความสำเร็จในการเสนอขายหุ้น IPO สูงเป็นประวัติการณ์ โดยเปิดให้ประชาชนทั่วไปจองซื้อไม่จำกัดจำนวน ในราคา 18 บาท/ หุ้น เมื่อเข้าซื้อขายในตลาดวันแรก สร้างผลตอบแทนสูงมากให้แก่คนจองซื้อและนำมาสู่การเปิดบัญชีซื้อขายหุ้นจำนวนมาก