“คิงส์ฟอร์ด” แนะทยอยซื้อ 11 หุ้น กำไรฟื้น ได้ผลบวกบาทอ่อน ปันผลดี

HoonSmart.com>> “บล.คิงส์ฟอร์ด” คาดแนวโน้มหุ้นได้แรงหนุนหลังบอนด์ยีลด์เริ่มชะลอตัว แนวต้านดัชนี 1,460 จุด แนวรับ 1,440 – 1,445 จุด แนะทยอยซื้อ BBL, KTB, TTB คาดกำไร Q3/66 ฟื้นตัวดี YoY, กลุ่มได้ประโยชน์จากบาทอ่อน แนะ HANA, KCE, ICHI, SAPPE กลุ่ม Defensive “BDMS, BCH, CHG, ADVANC” พร้อมเสิร์ฟหุ้นวันนี้ KCE, RBF

บริษัทหลักทรัพย์คิงส์ฟอร์ด เผยดัชนี SET ฟื้นตัวหลังปรับลดลงทดสอบ F/PE ที่ 16.2 เท่า โดยวันนี้คาดได้แรงหนุนหลัง US Bond Yield เริ่มชะลอตัว วางแนวรับดัชนีที่ 1,440 – 1,445 แนวต้าน 1,460 จุด แนะนำทยอยซื้อ BBL, KTB, TTB คาดกำไร Q3/66 ฟื้นตัวดี YoY, กลุ่มได้ประโยชน์จากบาทอ่อน เช่น HANA, KCE, ICHI, SAPPE และกลุ่ม Defensive เช่น BDMS, BCH, CHG, ADVANC

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA +0.39%, S&P500 +0.81%, Nasdaq +1.35% ได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่ม Growth เช่น เทคโนโลยี, สินค้าฟุ่มเฟือย หลัง ADP เผยตัวเลขจ้างงานภาคเอกชน ก.ย. เพิ่มขึ้น 89,000 น้อยกว่าคาดที่ 160,000 และ ส.ค. 180,000 ราย ส่งผลให้ตลาดลดความกังวลต่อนโยบบายตึงดอกเบี้ยสูง โดย US Bond Yield 10 ปี ลดลงอยู่ที่ 4.716% , VIX Index ลดลงอยู่ที่ 18.58 และ CME Fed Watch ชี้มีโอกาส 23.1% เฟดจะขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุม 1 พ.ย.

ประเด็นตัวเลขเศรษฐกิจค่ำวันนี้ ติดตามผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์คาด 210,000 และ สัปดาห์ก่อน 204,000 ราย และวันศุกร์ ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐ ก.ย. คาด 163,000 และ ส.ค. 187,000 ราย , อัตราว่างงาน ก.ย. คาด 3.7% & ส.ค. 3.8%

หุ้นแนะนำวันนี้ ได้แก่ KCE (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 51.50 บาท) KCE มีปัจจัยหนุนจากยอดส่งออกไทยเดือน ส.ค.66 ที่พลิกกลับมาขยายตัวเป็นเดือนแรก (ในรอบ 10 เดือน) โดยกลุ่มอุปกรณ์อิเล็กฯ กึ่งตัวนำทยอยฟื้นตัวต่อเนื่อง รวมถึงได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทปัจจุบันที่มีทิศทางอ่อนค่า

ทางด้านผู้บริหารคาดยอดขายในช่วง 2H66 ดีขึ้น HoH (แต่ยังลดลง YoY) จากคำสั่งซื้อลูกค้ากลุ่มยานยนต์ในยุโรป-สหรัฐที่เริ่มกลับมาในเดือน ส.ค.หลังสต๊อกสินค้าเก่าเริ่มหมด
ส่วนในปี 67 คาดเห็นยอดขายในสกุลเงิน USD ขยายตัว 5%YoY ตามอุตสาหกรรม PCB และยานยนต์ที่ฟื้นตัว ช่วยเพิ่มอัตราการใช้กำลังการผลิตและหนุนให้อัตรากำไรขั้นต้นขยับขึ้นจากกรอบปีนี้ที่ 22-24% ได้ ทั้งนี้ตลาดคาดกำไรปี 66 อยู่ที่ 1.73 พันล้านบาท ลดลง -25%YoY ก่อนจะฟื้นตัวในปี 67 ที่ 2.33 พันล้านบาท +34%YoY

หุ้น RBF (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 12.70 บาท) กำไรสุทธิ 2Q66 อยู่ที่ 153 ล้านบาท (+33% YoY, +4% QoQ) เติบโตได้ดีจากยอดขายต่างประเทศโดยเฉพาะยอดขายในส่วนของลูกค้าอุตสาหกรรมกลุ่มวัตถุแต่งกลิ่นรสและสีผสมอาหาร

ส่วนการดำเนินงานช่วงถัดไปนอกจากการเจาะกลุ่มลูกค้าต่างชาติใหม่ๆ และการฟื้นตัวของกลุ่มHoReCaในประเทศแล้ว คาดปัจจัยขับเคลื่อนจะมาจาก การเพิ่มกำลังผลิตที่ 1.ประเทศอินโดนีเซีย โรงงานเฟส2 (คาดเดินเครื่องได้ภายใน 3Q66 และเริ่มรับรู้รายได้ในปลายไตรมาสนี้ หรือ 4Q66) และ 2.โรงงานในประเทศอินเดีย (คาดว่าจะเสร็จใน 1Q67) ทั้งนี้ตลาดคาดกำไรสุทธิปี66 และ ปี67 ของ RBF ที่ 653 ล้านบาท (+35%YoY) และ 768 ล้านบาท (+18%YoY)