บล.กสิกรฯชี้แนวรับ 1,440 แนวต้าน 1,500 สัปดาห์หน้า

HoonSmart.com>>บล.กสิกรไทยให้ติดตามตัวเลขเงินเฟ้อเดือนก.ย.และฟันด์โฟลว์ชี้นำทิศทางตลาดหุ้น  จากสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีทรุดลงแรงถึง 3.36% ปิดต่ำสุดในรอบ 3 เดือน  ด้านธนาคารกสิกรไทยคาดค่าเงินบาทเคลื่อนไหว 36.20-36.70 บาทต่อดอลลาร์  จากปิดที่ 36.50 บาทฟื้นจากที่อ่อนค่าสุดในรอบกว่า 10 เดือนครึ่งที่ 36.83 บาท 

บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทยคาดการณ์ตลาดหุ้นสัปดาห์ถัดไป (2-6 ต.ค.2566) ว่าดัชนีหุ้นมีแนวรับที่ 1,460 และ 1,440 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,485 และ 1,500 จุด ตามลำดับ

บริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ อัตราเงินเฟ้อเดือนก.ย. ของไทย และทิศทางเงินทุนต่างชาติ

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนี PMI การจ้างงานภาคเอกชนของ ADP ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร และอัตราการว่างงานเดือนก.ย. รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศอื่นๆ ได้แก่ ดัชนี PMI เดือนก.ย. ของญี่ปุ่น อังกฤษและยูโรโซน ตลอดจนยอดค้าปลีกและดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนส.ค. ของยูโรโซน

ดัชนีหุ้นปิดต่ำสุดในรอบ 3 เดือน ทั้งนี้หุ้นปรับตัวลงเกือบตลอดสัปดาห์ตามแรงขายหลักๆ จากกลุ่มนักลงทุนต่างชาติท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการปรับตัวขึ้นของบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ การตรึงดอกเบี้ยที่ระดับสูงเป็นเวลานานของเฟด ความเสี่ยงของการปิดหน่วยงานราชการสหรัฐฯ ตลอดจนปัญหาภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีน ทั้งนี้แรงขายบิ๊กล็อต (Big Lot) ในหุ้นผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่แห่งหนึ่งกดดันหุ้นให้ร่วงลงต่อในช่วงท้ายสัปดาห์สวนทางหุ้นภูมิภาค โดยหุ้นขยับขึ้นช่วงสั้นๆ กลางสัปดาห์ นำโดย กลุ่มแบงก์ที่รับอานิสงส์จากการที่กนง. ปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.25% ไปที่ระดับ 2.50%

ในวันศุกร์ที่ 29 ก.ย. ดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,471.43 จุด ลดลง 3.36% จากระดับปลายสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 55,326.11 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.33%   ส่วนดัชนี mai ลดลง 4.45% มาปิดที่ระดับ 450.53 จุด

สำหรับค่าเงินบาทสัปดาห์ถัดไป (2-6 ต.ค.) ธนาคารกสิกรไทยมองกรอบการเคลื่อนไหวที่ระดับ 36.20-36.70 บาทต่อดอลลาร์ฯ

เงินบาททำสถิติอ่อนค่าสุดในรอบกว่า 10 เดือนครึ่งที่ 36.83 บาทต่อดอลลาร์ฯ ก่อนฟื้นตัวได้บางส่วนปลายสัปดาห์

เงินบาททยอยอ่อนค่าลง ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ ปรับตัวแข็งค่าขึ้นตามการปรับตัวขึ้นของบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ ท่ามกลางสัญญาณคุมเข้มทางการเงินจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฟด ซึ่งสะท้อนโอกาสการปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 1 ครั้งในปีนี้ นอกจากนี้การปรับตัวลงของราคาทองคำและการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันในตลาดโลกก็เป็นปัจจัยลบต่อค่าเงินบาทด้วยเช่นกัน แนวโน้มเงินบาทยังคงเผชิญแรงกดดันด้านอ่อนค่า แม้ว่า กนง. จะมีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายไปที่ระดับ 2.50% ในการประชุมวันที่ 27 ก.ย. ที่ผ่านมา

อย่างไรก็ดี เงินบาทฟื้นตัวกลับมาได้บางส่วนช่วงปลายสัปดาห์ท่ามกลางแรงขายเงินดอลลาร์ฯ เพื่อปรับโพสิชันและทำกำไรก่อนปิดสิ้นไตรมาส ขณะที่ตลาดกลับมารอติดตามความเสี่ยงของการปิดหน่วยงานราชการของสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด

ในวันศุกร์ที่ 29 ก.ย. 2566 เงินบาทปิดตลาดที่ระดับ 36.50 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับ 36.01 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (22 ก.ย.)

สำหรับสถานะพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติระหว่างวันที่ 25-29 ก.ย. ที่ผ่านมานั้น ขายสุทธิหุ้นไทย 3,025 ล้านบาท และมีสถานะเป็น Net Outflows ออกจากตลาดพันธบัตรไทย 11,695 ล้านบาท (ขายสุทธิพันธบัตร 6,520 ล้านบาท และตราสารหนี้หมดอายุ 5,175 ล้านบาท)