“JMT” ขายหุ้นกู้ 2 ชุด ดบ. 4.10-4.90% ต่อปี

HoonSmart.com>>เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส(JMT) เตรียมออกขายหุ้นกู้ครั้งที่ 3/2566 จำนวน 2 ชุด อายุ 1 ปี จ่ายดอกเบี้ย 4.10-4.25% ต่อปี อายุ 3 ปี ดอกเบี้ย 4.75-4.90% ต่อปี วันที่ 14 – 16 พ.ย. 2566 นี้ ระดมเงินซื้อหนี้ด้อยคุณภาพ มั่นใจครึ่งปีหลังผลงานยังมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี คาดกำไรสุทธิเติบโต 30% จากปีก่อนตามเป้าที่วางไว้

นายสุทธิรักษ์ ตรัยชิรอาภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส (JMT) เปิดเผยว่า บริษัทได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อออกและเสนอขายหุ้นกู้ระยะยาว ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ โดยหุ้นกู้ชุดที่ 1 อายุ 1 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2567 อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.10-4.25% ต่อปี และชุดที่ 2 อายุ 3 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2569 อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.75-4.90% ต่อปี เสนอขายต่อผู้ลงทุนทั่วไป และ ผู้ลงทุนสถาบัน (PO) ผ่านสถาบันการเงินชั้นนำทั้ง 10 แห่ง คาดว่าจะเป็นช่วง 14 – 16 พ.ย. 2566 นี้ เพื่อนำไปใช้เป็นเงินลงทุนในการเข้าซื้อหนี้ด้อยคุณภาพมาบริหาร และ/หรือ เป็นเงินทุนหมุนเวียนภายในกลุ่มกิจการ และ/หรือ เพื่อนำไปชำระคืนหุ้นกู้หรือเงินกู้ยืมสถาบันการเงินภายในปี 2567

สำหรับ ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2566 มีกำไรสุทธิ 551 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27.2% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 433.3 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นกำไรสุทธิรายไตรมาสที่สูงสุด คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 44.1% ขณะที่รายได้รวมอยู่ที่ 1,249.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน 14.8% จากการเดินหน้าขยายพอร์ตบริหารหนี้ โดยรายได้ที่ทำสัญญากับลูกค้ารายได้ดอกเบี้ยและกำไรจากเงินให้สินเชื่อการซื้อลูกหนี้ และรายได้รายรับประกันภัยที่เพิ่มขึ้นพร้อมกับการบริหารการจัดเก็บพอร์ตหนี้ด้อยคุณภาพที่ดีเยี่ยม

ส่วนงวด 6 เดือนแรกปี 2566 มีกำไรสุทธิ 1,004.06 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.4% คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 41.8% โดยมียอดจัดเก็บกระแสเงินสดอยู่ที่ 2,930 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน รวมถึงส่วนแบ่งกำไรจากกิจการร่วมค้า JK AMC ที่เติบโตสูงขึ้น โดยครึ่งปีแรก 2566 ที่ผ่านมาบริษัทมีการซื้อหนี้ด้อยคุณภาพรวม 4,126 ล้านบาท สนับสนุนให้ JMT มีพอร์ตบริหารหนี้ด้อยคุณภาพรวมอยู่ที่ 468,536 ล้านบาท (รวม JK AMC) เพิ่มขึ้นกว่า 1 แสนล้านบาท หรือกว่า 30% จากพอร์ตบริหารหนี้สิ้นปี 2565 อยู่ที่ 331,410 ล้านบาท

ขณะที่การบริหารการจัดเก็บพอร์ตหนี้ด้อยคุณภาพครึ่งปีแรกมีกระแสเงินสดเข้ามาแล้ว 4,243 ล้านบาท ดังนั้นสิ้นปีนี้ที่วางไว้ว่าจะมีกระแสเงินสดขึ้นไปแตะที่ระดับ 9,000 ล้านบาท จากทั้งปี 2565 อยู่ที่ 6,345 ล้านบาท มองว่าจะสามารถทำได้ตามนั้น เป็นอีกปัจจัยสะท้อนภาพรวมธุรกิจของ JMT มีเสถียรภาพ และมั่นใจครึ่งปีหลังผลงานยังมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี มีโอกาสในการลงทุนซื้อหนี้ด้อยคุณภาพเข้ามาบริหารต่อเนื่อง ย้ำเป้ากำไรสุทธิเติบโต 30% จากปีก่อนตามที่วางไว้

“ไฮไลท์ครึ่งปีแรก JMT ซื้อหนี้ก้อนใหญ่เข้ามาบริหารมูลค่าราว 60,000 ล้านบาท ซึ่งหนี้ดังกล่าวเริ่มทำงานแล้ว เป็นฐานในการสร้างรายได้ในครึ่งปีหลังและในอนาคต ขณะที่ประเมินสภาพตลาดหนี้ที่ JMT ซื้อเข้ามาโดยปกติประมาณ 20,000 ล้านบาทต่อปี แต่ปีนี้มองว่าจะเยอะกว่าปกติ และนับตั้งแต่จัดตั้งบริษัทร่วมทุน JK AMC ทำให้พอร์ตเรามีขนาดไซส์ใหญ่ขึ้น เสมือนเราได้ Backlog ตุนล่วงหน้ามา 3 – 5 ปี เพิ่มความแข็งแกร่งของผลการดำเนินงานในอนาคต” นายสุทธิรักษ์ กล่าว