คลังยืนยันไม่เก็บภาษีขายหุ้น กระทุ้งตลาดหลักทรัพย์ดึงนลท.-บจ.

HoonSmart.com>>คลังลั่นไม่มีนโยบายจัดเก็บภาษีขายหุ้น – กำไรจากการขายหุ้น ยืนยันไม่กระทบแผนงบประมาณปี 2567 เหตุมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจแจกเงินดิจิทัล 5.6 แสนล้านบาท จะเพิ่มรายได้จากภาษีนิติบุคคลและภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นไปตามกรอบที่วางไว้ กระทุ้งตลาดหลักทรัพย์เร่งหาทางดึงดูดนักลงทุน-บริษัทเข้าจดทะเบียนขึ้นเป็นผู้นำตลาดทุนในภูมิภาค 

นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล เลขานุการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แถลงข่าวเรื่อง”ความชัดเจนประเด็นภาษี FTT(ภาษีหุ้น) ” ว่า เพื่อสร้างความมั่นใจต่อตลาดทุน ต่อประชาชน และต่อบริษัทจดทะเบียน ว่า

1.ทางกระทรวงการคลังยังไม่มีนโยบายในพิจารณาภาษีที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับการขายหุ้น หรือ Financial Transaction Tax (FTT)

2.กระทรวงการคลังยังไม่มีนโยบายที่จะพิจารณาภาษีกำไรที่เกิดจากการขายหุ้น หรือ capital gains taxes

“ผมคิดว่าคำตอบทั้ง 2 ข้อนี้ เป็นคำตอบที่ชัดเจนที่ทำให้ตลาดหุ้นไทยสบายใจ มีเสถียรภาพ และสามารถวางแผนระยะยาวในการลงทุน”นายเผ่าภูมิ กล่าว

นายเผ่าภูมิ กล่าวว่า กระทรวงการคลัง มีนโยบายเหล่านี้ เพราะต้องการให้ตลาดหลักทรัพย์ไทย สามารถเติบโตและเป็นตัวแทนในภูมิภาค และต้องการเห็นตลาดหลักทรัพย์ไทยเป็นอิฐก้อนแรก ของระบบเศรษฐกิจไทย ในการสร้างภาคเอกชน  สร้างระบบเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนโดยภาคเอกชนให้เติบโตต่อไปได้

ทั้งนี้ กระทรวงการคลังต้องการเห็นตลาดทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสูง มีเสถียรภาพมีปริมาณการซื้อขายที่มีทั้งปริมาณและคุณภาพ มีความน่าดึงดูด 2 มิติ คือ ดึงดูดนักลงทุน และดึงดูดบริษัทที่จะมาจดทะเบียน

ในมุมของการดึงดูดนักลงทุน ตลาดหลักทรัพย์ต้องน่าสนใจ น่าดึงดูด มีกฎระเบียบที่เอื้อต่อการลงทุน และมุมดึงดูดบริษัท คือ ดึงดูดบริษัทระดับโลกมาจดทะเบียน สามารถแข่งขันกับตลาดทุนในภูมิภาคนี้ได้ โดยเฉพาะตลาดสิงคโปร์

กระทรวงการคลัง ต้องการเห็นต้นทุนในการระดมทุนของบริษัทที่ต่ำและอยู่ในระดับที่แข่งขันได้ ประเด็นนี้คืออิฐก้อนแรก ถ้าต้นทุนการระดมทุนต่ำ นั่นหมายถึงบริษัทมีต้นทุนทางการเงินต่ำ นั่นหมายถึงการจ้างงาน ขนาดเศรษฐกิจใหญ่ขึ้น

“กระทรวงการคลัง อยากเห็นตลาดหลัทรัพย์มุ่งไปสู่สิ่งเหล่านี้ จึงมีความจำเป็นที่ต้องมีนโยบายที่จะเอื้อต่อตลาดหลักทรัพย์ และหนึ่งในนั่นคือนโยบายด้านภาษี”นายเผ่าภูมิ กล่าว

นายเผ่าภูมิ กล่าวว่า กรณีที่เกิดคำถามว่าถ้าไม่มีภาษีจากธุรกรรมที่เกิดจากขายหุ้นจะทำให้รายได้ภาครัฐหายไปหรือไม่ และต้องมีการขาดดุลงบประมาณเพิ่มเติมเพื่อมาชดเชยสิ่งเหล่านี้ หรือไม่นั่น ในแผนการคลังระยะปานกลาง ยังไม่ได้พิจารณา รวมถึงผลกระทบของนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่ชื่อดิจิทัลวอลเล็ต 56,000 ล้านบาทของรัฐบาล ด้วยกลไกที่ออกแบบมานั้น เงินก้อนนี้จะต้องเกิดเป็นรายได้ของรัฐในรูปแบบภาษีนิติบุคคล ภาษีมูลค่าเพิ่ม นี่น่าจะตอบประเด็นรายได้ภาษีที่หายไปจากการที่จะไม่มีภาษีหุ้น และนโยบายภาษีที่เกี่ยวข้องกับตลาดหุ้น

นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กล่าวว่า ขอยืนยันว่าตัวเลขประมาณการรายได้รัฐบาลสุทธิ งบประมาณรายจ่าย และขาดดุลการคลังของปี ภายใต้แผนการคลังระยะปานกลางฉบับที่ 2566-2567 ฉบับที่ทบทวน ซึ่งผ่านมติครม.เมื่อวันที่ 13 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยงบประมาณรายได้ สุทธิอยู่ที่ 2.787 ล้านล้านบาท งบประมาณรายจ่าย 3.488 ขาดดุลการคลัง 693,000 ล้านบาท ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลง

สำหรับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สำนักงบประมาณ และกระทรวงการคลัง จะเน้นการดูความสามารถด้านการจัดเก็บภาษี ซึ่งมีการนำเอไอมาดูแลและกำกับฐานข้อมูลให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น นำมาตรการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บภาษีมาเก็บรายได้ ให้ได้ตามเป้าหมาย

ทั้งนี้กระทรวงการคลังออกมาชี้แจงกรณีที่น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้ออกมาโพสต์ถึงประมาณการรายได้ปีงบประมาณ 2567 ที่เพิ่ม 30,000 ล้านบาท มาจากการที่รัฐบาลจะเก็บภาษีขายหุ้น 14,000 ล้านบาท