โบรกฯชวนเก็บ MTC-SAWAD-TIDLOR จบรอบดบ.ขึ้น หุ้นถูก กำไรโต

HoonSmart.com>>บล.ทิสโก้แนะนำซื้อ MTC- TIDLOR กนง.ขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ต้นทุนการเงินเล็กน้อย  กรณีเลวร้ายสุดเพิ่มขึ้น 0.20-0.30% กระทบกำไร 3-4%คาดปี 67 ฟื้นตัว บล.เอเซียพลัสเพิ่มน้ำหนัก TIDLOR ราคาหุ้นลงมามาก เป้าหมาย 26 บาท  หยวนต้าชวนสะสม SAWAD 

บล.ทิสโก้ ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ”หุ้นบริษัท เมืองไทยแคปปิตอล (MTC) โดยมูลค่าที่เหมาะสม  40 บาท และบริษัทเงินติดล้อ TIDLOR มูลค่า 28 บาท หลังจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% เป็น 2.50% สร้างความประหลาดใจให้กับตลาด (consensus หวังคงอัตราดอกเบี้ยไว้) ส่งผลให้วันที่ 27 ก.ย. ดัชนีกลุ่มไฟแนนซ์ (SETFIN) เพิ่มขึ้น 0.74%เทียบกับ SET 0.21% ขณะที่ผู้นำกลุ่มอย่างบัตรกรุงไทย (KTC) และ MTC เพิ่มขึ้น 1.15 % และ +2.80% หวังว่าดอกเบี้ยจะเป็นการเพิ่มขึ้นครั้งสุดท้าย การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ครั้งต่อไปจะมีขึ้นในวันที่ 29 พ.ย.2566

ในการวิเคราะห์สถานการณ์กรณีที่เลวร้ายที่สุด คาดการณ์ว่าต้นทุนเงินทุนสูงกว่าการคาดการณ์เดิม  0.20-0.30% สำหรับ MTC และ TIDLOR มีผลกระทบต่อกำไรสุทธิ
ประมาณ 3-4% หลังจากนั้นจะเห็นการฟื้นตัวของกำไรในระดับกลางในปี 2567 สังเกตว่า Credit Cost ยังคงอยู่ในระดับที่สูงขึ้นในปี 2567  จับตาดูการออกตราสารหนี้รอบใหม่ที่จะชดเชยรุ่นที่กำลังจะหมดอายุใน 12 เดือนข้างหน้าด้วยอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นตามอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่เพิ่มขึ้นล่าสุด นอกจากนี้ผู้ประกอบการรายใหญ่ยังมีทางเลือกในการจัดหาในอัตราที่น่าดึงดูดจากธนาคารมากกว่า

บล.เอเซียพลัสวิเคราะห์นอนแบงก์ เฉพาะ MTC, SAWAD, TIDLOR กรณีที่ธนาคารมีการปรับขึ้นดอกเบี้ย และ Bond Yield ยืนในระดับสูง ในทางพื้นฐานส่งผลให้แนวโน้มต้นทุนทางการเงินของกลุ่มสูงขึ้นในระยะถัดไป ซึ่งโครงสร้างหนี้สินที่มีดอกเบี้ยอายุ 1 ปี ณ สิ้นงวดไตรมาส 2/2566 เฉลี่ยอยู่ที่ 38% ของภาระหนี้ที่มีดอกเบี้ย (หนี้กับสถาบันการเงินประมาณ 21% ของภาระหนี้ที่มีดอกเบี้ย) นับตั้งแต่เริ่มต้นวัฎจักรดอกเบี้ยขาขึ้นของไทยช่วงครึ่งหลังของปี 2565พบว่าต้นทุนทางการเงินของกลุ่มฯ งวดไตรมาสที่ 2/2566 อยู่ที่ประมาณ 3.3%เทียบกับ 3.0% งวดไตรมาส 2/2565 ตรงข้ามกับฝั่งดอกเบี้ยเงินให้สินเชื่อคงที่ (กรณีปรับดอกเบี้ยขึ้นจะส่งผลเฉพาะสัญญาฉบับใหม่) ด้านคุณภาพสินทรัพย์กลุ่มฯมองว่ายังอยู่ในวัฎจักรขาขึ้นของ NPL

อย่างไรก็ดีราคาหุ้นกลุ่มจำนำทะเบียน ตั้งแต่ Bond yield ไทยปรับตัวขึ้นช่วงเดือน ก.ย. 2566 ส่งผลให้ราคาปรับฐานลงพอสมควร และ YTD ให้ผลตอบแทนติดลบทุกตัว น่าจะสะท้อนปัจจัยข้างต้นบางส่วนแล้ว ให้คำแนะนำ Outperform ต่อ TIDLOR มูลค่าพื้นฐาน ปี 2566 อยู่ที่ 26 บาท  เพราะราคาหุ้น YTD ลดลง 20.3% มากกว่า MTC และ SAWAD ลบ 3.3% และ 10.8% YTD ตามลำดับ  ประกอบกับคุณภาพสินทรัพย์ของ TIDLOR ในเชิง Coverage ratio สูงสุดในกลุ่มฯที่ 266% ขณะที่ MTC (Neutral) ราคาหุ้นที่ลดลงในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ราคาเทียบมูลค่าพื้นฐานปี2567 ที่ 40 บาท (มูลค่าพื้นฐานปี 2565 ที่ 35 บาท ) มี Upside เปิดกว้างขึ้น

ด้านบล.หยวนต้า(ประเทศไทย ) แนะนำสะสม SAWAD แนวต้าน 45.50 บาท การขึ้นดอกเบี้ยของกนง.วันที่ 27 ก.ย.2566 ที่ผ่านมา  จาก 2.25% เป็น 2.50% แม้จะ  เซอร์ไพร์สเทียบกับคาดการณ์ของตลาดที่คาดว่าจะคงดอกเบี้ย แต่ส่งผลแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้สิ้นสุดลงเนื่องจากเหลือการประชุมเพียงอีก 1 ครังในเดือน ธ.ค. จึงคาดว่าปัจจัย  Overhang ของกลุ่มไฟแนนซ์จะถูกปลดล็อก  ราคาหุ้นปรับตัวลง -15% MTD ในเดือน ก.ย. คาดว่าจะเห็นการฟื้นตัวจาก Bond Yield ไทยที่น่าจะเริ่มทรงตัวได้ ขณะที่แนวโน้มกำไรไตรมาส 3/2566 คาดเติบโต YoY และได้ประโยชน์จากมาตรการพักหนี้เกษตรกร รวมทั้งค่าครองชีพที่ลดลงทั้งค่าน้ำมันและค่าไฟฟ้า