กองรีท LHSC เคาะราคาขายสูงสุด “หน่วยทรัสต์เพิ่มทุน” 10.80 บาท

HoonSmart.com>>กองรีท LHSC ประกาศราคาเสนอขายสูงสุดของหน่วยทรัสต์เพิ่มเติมที่ 10.80 บาทต่อหน่วย ผู้ถือหน่วยทรัสต์เดิมและประชาชนทั่วไป จองซื้อพร้อมกัน 4-8 พ.ย.นี้ ระดมทุนเพื่อเข้าลงทุนเพิ่ม ‘ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 พัทยา’ มูลค่ารวมไม่เกิน 5,700 ล้านบาท ชูประมาณการยีลด์จากเงินปันผลปีแรกสูงถึง 9.7%

นางสาวจิตติสา เจริญพานิช ผู้บริหารงานวาณิชธนกิจ ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายร่วม เปิดเผยว่า หลังจาก LHSC ได้ประกาศขยายการลงทุนครั้งใหม่สู่เมืองพัทยา โดยเตรียมเข้าลงทุนเพิ่มเติมในสิทธิการเช่า “โครงการศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 พัทยา” ท่าอากาศยานแห่งการช้อปปิ้งในย่านใจกลางพัทยาเหนือ จากกลุ่มแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ซึ่งจะได้รับประโยชน์จากภาพรวมการท่องเที่ยวของไทยที่ฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง และทิศทางดอกเบี้ยขาลง โดยคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% จาก 2.50% เหลือ 2.25% ต่อปี ล่าสุดได้ประกาศราคาเสนอขายสูงสุดของหน่วยทรัสต์เพิ่มเติมที่ 10.80 บาทต่อหน่วย

พร้อมเปิดให้ผู้ถือหน่วยทรัสต์เดิมของ LHSC ที่ได้รับสิทธิ และประชาชนทั่วไป จองซื้อพร้อมกันในวันที่ 4 – 8 พฤศจิกายน 2567 ที่ราคาเสนอขายสูงสุด ซึ่งผู้ถือหน่วยทรัสต์เดิมสามารถจองซื้อผ่านผู้จัดการการจัดจำหน่ายหน่วยทรัสต์ ได้แก่ ธนาคารกสิกรไทย และธนาคารไทยพาณิชย์ ส่วนประชาชนทั่วไปจองซื้อได้ที่ ธนาคารกสิกรไทย , ธนาคารไทยพาณิชย์ ,บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์, บริษัทหลักทรัพย์ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ และธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย

ทั้งนี้ ผู้จองซื้อที่เป็นผู้ถือหน่วยทรัสต์เดิมที่ได้รับสิทธิ กำหนดอัตราส่วนใช้สิทธิจองซื้อที่ 1 หน่วยทรัสต์เดิม ต่อ 0.5941 หน่วยทรัสต์เพิ่มเติม และกรณีที่ราคาเสนอขายสุดท้าย ต่ำกว่าราคาเสนอขายสูงสุด ผู้จองซื้อจะได้รับเงินส่วนต่างคืนภายใน 7 วันทำการ (กรณีโอนเงิน) และ 10 วันทำการ (กรณีจ่ายเช็ค) นับจากวันสิ้นสุดระยะเวลาการจองซื้อ

นายยศวีร์ สุทธิกุลพานิช ผู้บริหารสายงาน Investment Banking and Capital Markets ธนาคารไทยพาณิชย์ ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายร่วม กล่าวว่า LHSC เป็นกองรีทรีเทล ที่มีกลุ่มแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำเป็น Sponsor โดยปัจจุบันมีทรัพย์สินโครงการศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 อโศก และจะขยายการลงทุนเพิ่มเติมในโครงการศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 พัทยา ซึ่งตั้งอยู่ในทำเลศักยภาพของเมืองท่องเที่ยวชั้นนำ เป็นจุดหมายของนักท่องเที่ยวต่างชาติและคนไทย การลงทุนเพิ่มเติมครั้งนี้จะช่วยกระจายความเสี่ยง และเพิ่มศักยภาพแก่ LHSC ในการเสริมความแข็งแกร่งของรายได้ และเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีแก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์

นอกจากนี้ ทั้ง 2 โครงการถือเป็น Tourist Mall ที่จะได้รับประโยชน์โดยตรงจากภาพรวมการท่องเที่ยวที่กำลังฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง และการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% ต่อปีของ กนง. ซึ่งถ้าสถาบันการเงินทยอยปรับลดอัตราดอกเบี้ยตามหลังจากนี้ จะยิ่งส่งผลบวกต่อกลุ่ม PF & REIT ที่เป็นสินทรัพย์ทางเลือกในกลุ่ม Yield Play ที่ให้ผลตอบแทนอย่างสม่ำเสมอจากเงินปันผล

นายมนรัฐ ผดุงสิทธิ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุน แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (LH Fund) ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ LHSC กล่าวว่า จากทิศทางอัตราดอกเบี้ยของไทยและทั่วโลกที่เข้าสู่วัฏจักรขาลงแล้ว จะส่งผลให้การลงทุนใน Property Fund และ REIT มีความน่าสนใจยิ่งขึ้น โดยส่วนต่างเงินปันผลระหว่างรีทไทยและพันธบัตรรัฐบาลไทยอายุ 10 ปี ปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 5% และมีโอกาสปรับเพิ่มขึ้นได้อีก เป็นจังหวะที่ดีในการลงทุนในรีทไทย โดยเฉพาะกองรีทกลุ่มรีเทลที่ลงทุนในศูนย์การค้า Tourist Mall มีแนวโน้มการเติบโตของรายได้ที่ดีตามจำนวนนักท่องเที่ยวและการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น

LHSC กองรีทภายใต้การจัดการของ LH Fund เตรียมลงทุนเพิ่มเติมในสิทธิการเช่าโครงการศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 พัทยา มูลค่ารวมไม่เกิน 5,700 ล้านบาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่มและค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้อง) โดยจะมีแหล่งเงินทุนมาจากการออกและเสนอขายหน่วยทรัสต์เพิ่มทุนมูลค่ารวมไม่เกิน 3,190 ล้านบาท และส่วนที่เหลือจะมาจากเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน ซึ่งจะขยายพอร์ตสินทรัพย์ให้เติบโตเกือบเท่าตัวและมีสัดส่วนการลงทุนในกรุงเทพฯ และพัทยาใกล้เคียงกัน ช่วยกระจายความเสี่ยงและสร้างความมั่นคงของแหล่งรายได้ รวมถึงเป็นโอกาสเพิ่มผลตอบแทนที่ดียิ่งขึ้นแก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์ โดยมีประมาณการอัตราจ่ายประโยชน์ตอบแทนปี 2568 หลังลงทุนเพิ่มเติมอยู่ที่ 9.7%

ดร.ณัฐกวิน เจียมโชติพัฒนกุล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานและอสังหาริมทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ กล่าวว่า ผลการดำเนินงานของ LHSC ในครึ่งปีแรกของปี 2567 มีรายได้จากการลงทุนรวม 696.3 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิจากการลงทุนรวม 321.4 ล้านบาท เติบโตถึงกว่า 35% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สะท้อนถึงการฟื้นตัวอย่างโดดเด่นและได้รับปัจจัยบวกจากภาพรวมการท่องเที่ยวของไทยที่เติบโตได้ดี โดย LHSC มีประวัติการจ่ายเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอ โดยที่ผ่านมามีการจ่ายเงินปันผลจากผลการดำเนินงานทุก 2 เดือน (ปีละ 6 ครั้ง)

ล่าสุดประกาศจ่ายเงินปันผลจากผลการดำเนินงาน 8 เดือนแรกของปีนี้ไปแล้วรวม 0.697 บาทต่อหน่วย

นอกจากนี้ LHSC ตอกย้ำกองรีทคุณภาพ โดยได้รับรางวัล Best REIT Performance Awards ในกลุ่มรางวัล Business Excellence จากงาน SET Awards 2023 และได้รับการเสนอชื่อต่อเนื่องเพื่อพิจารณาเข้าชิงรางวัลดังกล่าวนี้ในปี 2567 ด้วยเช่นเดียวกัน โดยทรัพย์สินใหม่โครงการศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 พัทยา ที่จะลงทุนเพิ่มเติมในครั้งนี้มีผลการดำเนินงานที่โดดเด่น ซึ่งไตรมาส 2/2567 มีจำนวนผู้ใช้บริการเฉลี่ย (Foot Traffic) สูงถึงกว่า 37,000 คนต่อวัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2566 กว่า 10% และสูงกว่าช่วงก่อนโควิด-19 รวมถึงมีอัตราการเช่าพื้นที่เฉลี่ยสูงถึง 99%