LHHOTEL เคาะขายหน่วยทรัสต์เพิ่มทุนเริ่ม 16 ต.ค.นี้ ชูยีลด์สูงกว่า 10.5%

HoonSmart.com>> กองทรัสต์ LHHOTEL เตรียมเปิดให้ผู้ถือหน่วยทรัสต์เดิม จองซื้อหน่วยทรัสต์เพิ่มทุน 16 – 20 ต.ค.นี้ ส่วนประชาชนทั่วไปจองซื้อ 24 – 27 ต.ค.66 ผ่านธนาคารกสิกรไทย-ธนาคารไทยพาณิชย์ เตรียมลงทุนเพิ่มเติมในทรัพย์สินคุณภาพ “โรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์พอยต์ สเปซ พัทยา” และ “โรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ พัทยา” กระจายการลงทุนสู่พัทยา โชว์อัตราการเข้าพักเฉลี่ย 6 เดือนปีนี้กว่า 91% คาดผลตอบแทนหลังเข้าลงทุนปีแรกสูงกว่า 10.5%

โรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ สเปซ พัทยา

นายกิตติ วรบรรพต กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล เอช มอลล์ แอนด์ โฮเทล จำกัด (LHMH) ในเครือบริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ (LH) ในฐานะ Sponsor ของกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ แอล เอช โฮเทล (LHHOTEL) เปิดเผยว่า จากศักยภาพของพัทยาที่เป็นเมืองท่องเที่ยวชั้นนำระดับโลกและได้รับปัจจัยบวกจากโครงการลงทุนต่างๆ เช่น โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ในจังหวัดชลบุรี ระยอง และฉะเชิงเทรา เป็นเขตเศรษฐกิจชั้นนำของภูมิภาคอาเซียนและแหล่งท่องเที่ยวชั้นนำของประเทศ เป็นต้น

การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับ อาทิ โครงการยกระดับสนามบินอู่ตะเภาเป็นสนามบินนานาชาติเชิงพาณิชย์หลักแห่งที่ 3, พัฒนาท่าเรือแหลมฉบังระยะที่ 3 และโครงการรถไฟฟ้าเชื่อมต่อ 3 สนามบิน ฯลฯ ส่งผลให้ภาพรวมการท่องเที่ยวของพัทยาฟื้นตัวอย่างรวดเร็วและแข็งแกร่งหลังเปิดประเทศเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา ส่งผลเชิงบวกต่อภาคธุรกิจโรงแรมและการดำเนินงานของโรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ สเปซ พัทยา และโรงแรมแกรนด์เซนเตอร์ พอยต์ พัทยา ซึ่งเป็นโรงแรมระดับลักชัวรี่และโรงแรมระดับบนที่พัฒนาและบริหารงานโดยบริษัทฯ รวมถึงเป็นแลนด์มาร์คของย่านพัทยาเหนือในปัจจุบัน

ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานช่วง 6 เดือนแรกของปี 2566 ของโรงแรมทั้ง 2 แห่งในพัทยาดังกล่าว มีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยสูงกว่า 91% จากชาวต่างชาติ เช่น จีน ญี่ปุ่น เกาหลี ฮ่องกง และคนไทย เป็นต้น รวมถึงมีลูกค้าที่เข้าพักซ้ำ แม้ว่าปัจจุบันนักท่องเที่ยวชาวจีนยังไม่ได้เดินทางมาไทยเทียบเท่ากับช่วงก่อนเกิด COVID-19 โดยโรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ สเปซ พัทยา เปิดบริการเดือนส.ค.2565 มีจำนวน 490 ห้องพัก ออกแบบด้วยคอนเซ็ปต์อวกาศแห่งแรกในประเทศไทย มีสวนน้ำอวกาศ Space Water Park ขนาดใหญ่กว่า 12,000 ตารางเมตร สปาและออนเซ็นซีวิวแห่งแรกในไทย

ส่วนโรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ พัทยา เปิดบริการปลายปี 2561 มีจำนวน 396 ห้องพัก ตั้งอยู่บนศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 พัทยา แหล่งช้อปปิ้งใจกลางย่านพัทยาเหนือ เพียบพร้อมด้วยร้านค้า ร้านอาหาร โรงภาพยนตร์ ซูเปอร์มาร์เก็ต และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ห้องพักทุกห้องเห็นวิวทะเลและเดินทางสะดวกจาก 3 ถนนเส้นหลัก มีสวนน้ำลอยฟ้า 6,000 ตารางเมตร

โรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ พัทยา

นายมนรัฐ ผดุงสิทธิ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ LHHOTEL เปิดเผยว่า ภาพรวมการท่องเที่ยวของประเทศไทยฟื้นตัวได้ดีจากปีก่อน โดยช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยแล้ว 12.9 ล้านคน สูงกว่าทั้งปี 2565 ที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเพียง 11.2 ล้านคน ขณะที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์ว่าปีนี้ จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาไทย 25 – 30 ล้านคน และคาดว่าปี 2567 จะเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 35 ล้านคน โดยแนวโน้มการท่องเที่ยวของไทยในช่วงปลายปีนี้จะได้รับปัจจัยบวกจากการเข้าสู่ไฮซีซั่นและนโยบายกระตุ้นการท่องเที่ยวของรัฐบาลชุดใหม่ เช่น นโยบายฟรีวีซ่า เป็นต้น

ดังนั้นจึงเป็นช่วงเวลาที่ดีของการลงทุนภายใต้ในกองทรัสต์ประเภทโรงแรม ที่ได้รับผลเชิงบวกจากภาพรวมการท่องเที่ยวที่กำลังฟื้นตัว อีกทั้งทิศทางอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นเข้าใกล้จุดสูงสุด ส่งผลดีต่อการลงทุนในกองทรัสต์ซึ่งเป็นสินทรัพย์ให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันส่วนต่างระหว่างผลตอบแทนของกองทรัสต์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ และพันธบัตรรัฐบาลอยู่ที่ประมาณ 4.5% ถือว่าอยู่ในระดับสูงและน่าสนใจต่อการลงทุน โดยเฉพาะกองทรัสต์ LHHOTEL ที่มีผลการดำเนินงานฟื้นตัวอย่างรวดเร็วและแข็งแกร่ง ซึ่งปัจจุบันมีทรัพย์สินโรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ ที่เข้าลงทุนแล้ว 3 โครงการในกรุงเทพฯ และอยู่ระหว่างเดินหน้าลงทุนเพิ่มเติมในโรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ สเปซ พัทยา และโรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ พัทยา จาก บริษัท แอล เอช มอลล์ แอนด์ โฮเทล จำกัด ในเครืบริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์

ดร.ณัฐกวิน เจียมโชติพัฒนกุล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานและอสังหาริมทรัพย์ บลจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ LHHOTEL กล่าวว่า กองทรัสต์ LHHOTEL จัดตั้งขึ้นเมื่อปลายปี 2558 และขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่องทำให้ปัจจุบันมีทรัพย์สินที่ลงทุน 3 โครงการ ได้แก่ โรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ เทอร์มินอล 21 จำนวน 462 ห้องพัก, โรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ ราชดำริ จำนวน 497 ห้องพัก และโรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ สุขุมวิท 55 จำนวน 442 ห้องพัก โดยผลการดำเนินงานช่วง 6 เดือนแรกของปี 2566 ของโรงแรมทั้ง 3 แห่งดังกล่าว มีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยสูงถึงประมาณ 90% และค่าห้องพักเฉลี่ยสูงกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปี 2562 (ก่อน COVID-19) แล้วกว่า 20%

ขณะที่กองทรัสต์ LHHOTEL กลับมาจ่ายประโยชน์ตอบแทน (จ่ายปันผล) แก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์ ตั้งแต่งวดไตรมาส 3/2565 โดยในช่วง 8 เดือนครึ่งแรกของปี 2566 จ่ายปันผลแล้ว 0.88 บาทต่อหน่วย ถือเป็นสถิติสูงสุดนับจากจัดตั้งกองทรัสต์ ล่าสุดพร้อมกันนี้กองทรัสต์ฯ เปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจเข้าร่วมลงทุนเพื่อเติบโตไปด้วยกัน โดยจะลงทุนเพิ่มเติมในโรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ สเปซ พัทยา และโรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ พัทยา ซึ่งนับเป็นการกระจายการลงทุนสู่พัทยาเป็นครั้งแรก

ทั้งนี้ ภายหลังลงทุนเพิ่มเติม LHHOTEL จะมีมูลค่าสินทรัพย์เพิ่มขึ้นเท่าตัวเป็นกว่า 20,000 ล้านบาท และมีอายุสิทธิการเช่าคงเหลือเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 22 ปีเศษ จากเดิมประมาณ 18 ปีเศษ รวมถึงมีการกระจายการลงทุนที่ดีขึ้น โดยมีสัดส่วนทรัพย์สินในกรุงเทพฯ 55% และพัทยา 45%

นางสาวจิตติสา เจริญพานิช ผู้บริหารงานวาณิชธนกิจ ธนาคารกสิกรไทย ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินร่วมและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายร่วม กล่าวว่า จุดเด่นของ LHHOTEL เป็นกองทรัสต์โรงแรมที่มีมูลค่าทรัพย์สินใหญ่ที่สุดในไทย มีผลการดำเนินงานฟื้นตัวอย่างรวดเร็วสะท้อนถึงศักยภาพของทรัพย์สินหลักในปัจจุบัน ซึ่งอยู่ในย่านศูนย์กลางธุรกิจ แหล่งช้อปปิ้ง และไลฟ์สไตล์ ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว ล่าสุดเตรียมลงทุนเพิ่มเติมในสิทธิการเช่า โรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ สเปซ พัทยา และโรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ พัทยา โดยประมาณการอัตราการจ่ายประโยชน์ตอบแทนภายหลังการเข้าลงทุนในปีแรกอยู่ที่ประมาณ 10.5%

ปัจจุบันสำนักงาน ก.ล.ต. ได้อนุมัติแบบคำขออนุญาตเสนอขายหน่วยทรัสต์และร่างหนังสือชี้ชวน (แบบไฟลิ่ง) มีผลใช้บังคับแล้ว โดยล่าสุด กองทรัสต์ LHHOTEL พร้อมเปิดให้นักลงทุนจองซื้อหน่วยทรัสต์ โดยสำหรับผู้ถือหน่วยทรัสต์เดิม สามารถจองซื้อได้ในวันที่ 16 – 20 ต.ค.2566 ผ่านธนาคารกสิกรไทย และธนาคารไทยพาณิชย์

สำหรับประชาชนทั่วไปสามารถจองซื้อได้ในวันที่ 24 – 27 ต.ค.2566 ผ่านธนาคารกสิกรไทย , ธนาคารไทยพาณิชย์,และผู้ร่วมจัดจำหน่าย ได้แก่ ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย , ธนาคารกรุงไทย , บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ , บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย), บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ , บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย เอ็กซ์สปริง และบริษัทหลักทรัพย์ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ โดยผู้ถือหน่วยทรัสต์เดิมจองซื้อที่ราคาเสนอขายสูงสุดที่จะมีการประกาศราคาในวันที่ 9 ต.ค.2566 และประชาชนทั่วไปจองซื้อที่ราคาเสนอขายสุดท้ายที่จะมีการประกาศราคาในวันที่ 20 ต.ค.2566 ทั้งนี้ จะมีการคืนส่วนต่างหากราคาเสนอขายสุดท้ายต่ำกว่าราคาเสนอขายสูงสุด

นายยศวีร์ สุทธิกุลพานิช ผู้บริหารสายงาน Investment Banking and Capital Markets ธนาคารไทยพาณิชย์ ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินร่วมและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายร่วม กล่าวว่า LHHOTEL เป็นทางเลือกการลงทุนที่น่าสนใจเพื่อโอกาสรับผลตอบแทนจากเงินปันผล จากภาพรวมการท่องเที่ยวและธุรกิจโรงแรมที่ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง รวมถึงนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) เข้าใกล้จุดสูงสุดและอัตราเงินเฟ้อที่ชะลอตัว จึงเป็นโอกาสที่จะลงทุนในธุรกิจโรงแรมผ่านกองทรัสต์ LHHOTEL เพื่อรับผลตอบแทนจากเงินปันผลในระยะยาว

ทรัพย์สินปัจจุบันของ LHHOTEL ล้วนอยู่ในทำเลที่มีศักยภาพและการลงทุนเพิ่มเติมในโรงแรม 2 แห่งในเมืองพัทยา ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางระดับโลกของนักท่องเที่ยว จะส่งผลดีต่อรายได้กองทรัสต์ฯ ที่เพิ่มขึ้น โดยโรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ สเปซ พัทยา เป็นโรงแรมแห่งใหม่ที่เริ่มเปิดบริการปลายปีที่ผ่านมาและมีคอนเซ็ปต์การออกแบบที่แตกต่างจากโรงแรมอื่นๆ จึงมีนักท่องเที่ยวมาเช็กอินอย่างคึกคัก ส่วนโรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ พัทยา มีอัตราเข้าพักฟื้นตัวอย่างรวดเร็วหลังสถานการณ์ COVID-19 คลี่คลาย โดยมีทั้งลูกค้าต่างชาติและคนไทยที่เป็นนักท่องเที่ยวและสัมมนา