HoonSmart.com>>”เจนก้องไกล” (JPARK) กำหนดราคาเสนอขาย IPO จำนวน 110 ล้านหุ้น ที่ราคา 3.80 บาท/หุ้น P/E 23.74 เท่า ผลงาน 6 เดือนแรกปีนี้กำไรสุทธิ 27.82 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 47.57% อัตรากำไรสุทธิ 10.97% ด้าน CEO “สันติพล เจนวัฒนไพศาล” ฝากหุ้นเก็บเข้าลิ้นชัก 70%
บริษัท เจนก้องไกล (JPARK) กำหนดราคาเสนอขายหุ้นให้ประชาชนครั้งแรก (IPO) จำนวน 110 ล้านหุ้น ที่ราคา 3.80 บาท/หุ้น โดยจะเสนอขายต่อบุคคลตามดุลยพินิจของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ไม่น้อยกว่า 82.5 ล้านหุ้น เสนอขายต่อผู้มีอุปการคุณของบริษัท ไม่เกิน 16.5 ล้านหุ้น และเสนอขายบต่อกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานของบริษัทไม่เกิน 11 ล้านหุ้น ระยะเวลาจองซื้อ วันที่ 25-27 ก.ย.66 ผ่านผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย คือ บล.ฟินันเซีย ไซรัส โดยมีผู้ร่วมจัดจำหน่าย ได้แก่ บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย), บล.กรุงศรีฯ, บล. ฟิลลิป, บล.โกลเบล็ก และบล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) มีบริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ (APM) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน คาดว่า JPARK คาดว่าจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ (mai) ในหมวดธุรกิจบริการ ช่วงต้นเดือน ต.ค.2566
“ราคาหุ้นที่เสนอขายหุ้นละ 3.80 บาท คิดเป็นอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิ (P/E) เท่ากับ 23.74 เท่า บริษัทมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิ”
ทั้งนี้ นายสันติพล เจนวัฒนไพศาล ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ยินยอมให้หุ้นที่ถืออยู่ 220 ล้านหุ้น คิดเป็น 55 % ถูกจำกัดการขายภายใน 1 ปี (Silent Period) นับแต่วันที่หุ้นเริ่มซื้อขาย และยินยอมให้หุ้นส่วนที่เหลือทั้งหมด 63,555,220 หุ้น คิดเป็น 15.89% ถูกจำกัดการขายภายใน 6 เดือน (Lock-up Period) และ นางสาวจุฑามาศ ตกลงและยินยอมให้หุ้นที่ถืออยู่ 6,444,380 หุ้น คิดเป็น 1.61% ถูก Lock-up Period 6 เดือนด้วยความสมัครใจ
ส่วนวัตถุประสงค์ของการนำเงินที่ได้จากขาย IPO ราว 418 ล้านบาท บริษัทใช้ลงทุนขยายโครงการอาคารจอดรถโรงพยาบาลพระนั่งเกล้าจำนวน 6 ชั้น รองรับรถยนต์ได้ 532 คัน และรองรับรถจักรยานยนต์ได้ 72 คัน โดยมีพื้นที่ใช้สอย 18,242 ตารางเมตร พื้นที่พาณิชย์ 2,049 ตารางเมตร คาดว่าจะเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์กลางปี 2567 สร้างการเติบโตในระยะยาว โดยสัดส่วนรายได้หลักของบริษัทมาจากธุรกิจการให้บริการที่จอดรถ ซึ่งพื้นที่จอดรถของโรงพยาบาลสร้างรายได้ให้กับบริษัทสูงสุด และบริษัทมีแผนจะขยายพื้นที่จอดรถยนต์ในพื้นที่สำนักงาน ซึ่งจะเริ่มต้นเปิดให้บริการในปี 2567เป็นต้นไป รวมถึงใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ
สำหรับผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกปี 2566 บริษัทมีรายได้รวม 254.46 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31.82% หรือ 61.42 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า รายได้เพิ่มขึ้นในทุกประเภทธุรกิจหลัก โดยเฉพาะธุรกิจให้บริการที่จอดรถ (PS) เพิ่มขึ้น 42.98 ล้านบาท เนื่องจากในช่วง 6 เดือนแรกปี 2565 บริษัทยังคงได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด บริษัทมีกำไรขั้นต้น 54.69 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้น 21.57% ต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าเล็กน้อยมีสาเหตุมาจากรายการที่ไม่เกิดขึ้นประจำ (Non-recurring Income & One-time Expense) หากไม่รวมผลกระทบของรายการดังกล่าว อัตรากำไรขั้นต้นจะสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า เนื่องจากการฟื้นตัวของธุรกิจให้บริการที่จอดรถ (PS) เป็นหลัก สำหรับค่าใช้จ่ายในการบริหาร ต้นทุนทางการเงิน และภาษีเงินได้นิติบุคคล มีจำนวน 20.10 ล้านบาท 2.84 ล้านบาท และ 4.50 ล้านบาท ตามลำดับ ส่งผลให้บริษัทมีกำไรสุทธิ 27.82 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า 8.97 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 47.57% และคิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 10.97%