ธุรกิจครอบครัวครึ่งปีแรกแผ่ว มาร์เก็ตแค็ปดิ่งกว่า 11%

HoonSmart.com>>ตลท.เผยครึ่งปีแรกมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวม(มาร์เก็ตแค็ป)ของบริษัทจดทะเบียนที่เป็นธุรกิจครอบครัวลดลง 11.1% จากสิ้นปี 2565 หลังเติบโต 6.7% ต่อเนื่อง 6 ปีซ้อน

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)รายงานผลการศึกษาบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (ตลาดหุ้นไทย) จำนวน 791 บริษัท ในช่วง 6 ปีที่ผ่านมาพบว่ามี 451 หรือคิดเป็น 57% ของบริษัทจดทะเบียนเป็นธุรกิจครอบครัว มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด หรือ มาร์เก็ตแชร์ 9.07 ล้านล้านบาท คิดเป็น 43% ของมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวมทั้งตลาด

“สิ้นเดือนมิถุนายน 2566 บริษัทจดทะเบียนที่เป็นธุรกิจครอบครัวมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวมลดลงมาอยู่ที่ 8.06 ล้านล้านบาท ลดลง 11.11%”
จากก่อนหน้านี้ที่มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดของธุรกิจครอบครัวมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยปีละ 6.7% ติดต่อกัน 6 ปีซ้อนนับตั้งแต่ปี 2560-2565

ทั้งนี้ บริษัทจดทะเบียนที่เป็นธุรกิจครอบครัวมีการกระจายตัวในเกือบทุกหมวดธุรกิจ ส่วนใหญ่อยู่ในหมวดอาหารและเครื่องดื่มหมวดพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ หมวดพลังงานและสาธารณูปโภค หมวดพาณิชย์ หมวดการแพทย์ และกลุ่มบริการในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ

ในช่วง 7 ปีที่ผ่านมา มีธุรกิจครอบครัว 149 บริษัท ระดมทุนครั้งแรกรวมกว่า 308,306 ล้านบาท คิดเป็น 58% ของมูลค่าระดมทุนทั้งหมด โดย 86 บริษัท ผ่านการคัดเลือกและอยู่ในรายชื่อหุ้นยั่งยืน ประจำปี 2565 (จากรายชื่อทั้งหมด 170 บริษัท) โดยมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวม 6.42 ล้านล้านบาท คิดเป็น 35% ของมูลค่าหลักทรัพย์รวมทั้งตลาด

นอกจากนี้ ยังมีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างการเติบโตของเศรษฐกิจไทย ทั้งทางตรงและทางอ้อม โดยปี 2565 บริษัทจดทะเบียนที่เป็นธุรกิจครอบครัวมีรายได้รวมสูงถึง 39.3% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ และ จ่ายภาษีเงินได้นิติบุคคลรวมสูงกว่า 101,589 ล้านบาท คิดเป็น 13.6% ของภาษีเงินได้นิติบุคคลทั้งระบบที่กรมสรรพากรจัดเก็บ

ขณะที่ การจ้างงานยังสูงด้วยโดยสิ้นปี 2564 มีการจ้างพนักงานรวมสูง 925,256 คน โดยเฉพาะการจ้างงานในกลุ่มเกษตรและอาหาร กลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง และกลุ่มบริการ มีอัตราการจ้างงานสูงกว่า 60% ของจำนวนพนักงานทั้งหมดที่มีการจ้างงานในกลุ่มอุตสาหกรรมนั้นๆ