“นพ.ประมุข วงศ์ธนะเกียรติ” หมอสูติ+นักการเงิน ร่วมตั้ง GFC

HoonSmart.com>> “นพ.ประมุข วงศ์ธนะเกียรติ” หมอสูติ+นักการเงิน ผู้ร่วมก่อตั้งคลินิกรักษาผู้มีลูกยาก กับความสำเร็จในวันนี้ของ “เจเนซีส ฯ (GFC) ที่กำลังนับถอยหลังเข้าตลาดหุ้นไทย นำหุ้นเข้าซื้อขายในตลาดหุ้น mai เป็นรายแรกในเดือนก.ย.นี้ จุดเด่นหุ้นปันผล+เติบโตสูง 

นพ.ประมุข วงศ์ธนะเกียรติ

บริษัท เจเนซีส เฟอร์ทิลีตี เซ็นเตอร์ หรือ GFC คลินิกรักษาภาวะผู้มีบุตรยาก จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย หากไม่มี 2 นายแพทย์  “ รศ.นพ.พิทักษ์ เลาห์เกริกเกียรติ – นพ.ประมุข วงศ์ธนะเกียรติ” ผู้มากประสบการณ์เฉพาะทางด้านสูตินารีเวช และการรักษาผู้มีบุตรยาก ผู้ริเริ่มก่อตั้งคลินิกแห่งนี้ กระทั่งนำบริษัทเข้าตลาดหุ้น ด้วยความร่วมมือ-ร่วมหุ้น กับนักวิทยาศาสตร์ ด้าน Lab  นักธุรกิจ และหุ้นส่วนอื่น ๆ อีก 3-4 คน  ถือเป็นคลินิกรักษาผู้มีบุตรยากครบวงจร ที่เข้าตลาดหุ้นรายแรก

นายแพทย์ประมุข หาใช่เพียง “หมอสูตินารีเวช” หรือที่รู้จักกันทั่วไปคือ หมอฝากท้อง ทำคลอด แต่ คุณหมอประมุข ยังเป็นหมอนักบริหาร มากประสบการณ์เรื่องการลงทุนในตลาดหุ้นไทย เป็นอดีตอุปนายกนักลงทุนหุ้นคุณค่า หรือสมาคมนักลงทุนวีไอ  , กรรมการอิสระและกรรมการบริหารความเสี่ยง โลดแล่นอยู่ในวงการตลาดทุน และสร้างชื่อด้านการลงทุน ด้วยหนังสือ “ มั่งคั่งด้วยหุ้น ลงทุนอย่างมีคุณภาพ” ในปี 2557 ที่คุณหมอประมุขเขียนขึ้นมา เป็นหนังสือ Best Seller เข้ากับยุคร้อนแรงของนักลงทุนวีไอ ในยุคนั้น

คุณหมอประมุข เล่าว่า คุณหมอประมุข-คุณหมอพิทักษ์  ได้เล็งเห็นจุดเด่นของกันและกัน ในความเชี่ยวชาญการรักษาผู้มีบุตรยาก ของคุณหมอพิทักษ์ และการเป็นนักบริหาร-นักลงทุน ของคุณหมอประมุข จากนั้นกลางปี 2559 เปิดคลินิกรักษาผู้มีบุตรยากแห่งแรกบนถนนพระราม 3 โดยผู้ที่มารักษา จะเป็นเคสยาก และประสบความสำเร็จในการตั้งครรภ์ หรือเป็นอัตราความสำเร็จ 60-70% ของผู้มารักษา ซึ่งสูงกว่าทั่วไปอยู่ที่ 45-50% เท่านั้น

“ ด้วยความเอาใจใส่ในความสำเร็จ ตั้งแต่ชื่อเสียงการรักษาจากปากต่อปาก , การตรวจตัวอ่อน  การฝากไข่ และราคาการตรวจรักษากระทั่งตั้งครรภ์  เป็นราคาเหมาะสม เข้าถึงได้ ทำให้คนไข้เลือกการรักษาที่ GFC “

หากถามถึงจุดเด่นที่ต้องลงทุน GFC นั้น คุณหมอ ย้ำว่า ธุรกิจรักษาภาวะผู้มีบุตรยาก เป็นธุรกิจเฉพาะ ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญ-ความชำนาญของหมอ+นักแล็ป+เทคโนโลยีและนวัตกรรม ซึ่งทั้งหมดมีอยู่ที่ GFC ส่งผลให้ธุรกิจของ GFC เติบโตต่อเนื่องแม้ในภาวะวิกฤตโควิด และเป็นธุรกิจที่มีการเติบโตสูง ตามภาวะที่คู่แต่งงานมุ่งสร้างครอบครัว , แต่งงานช้า ดังนั้นการเป็นธุรกิจเฉพาะ ส่งผลให้มาร์จิ้นมีความโดดเด่น อัตรากำไรขั้นต้น 50% และอัตรากำไรสุทธิ 20%

นอกจากนี้ GFC ยังมีจุดเด่น เรื่องสภาพคล่องที่สูง กระแสเงินสดสูง ผู้ที่มารักษาจ่ายค่ารักษาทันที จะเห็นว่า งบการเงินของ GFC ไม่มีความซับซ้อน รายได้-ค่าใช้จ่ายชัดเจน

คุณหมอประมุข บอกอีกว่า จุดเด่นสำคัญอีกประการคือ หุ้น GFC เป็นหุ้นปันผล ที่ผ่านมาปันผลสม่ำเสมอ ไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิ+ หุ้นเติบโตสูง  เข้าตลาดหุ้นด้วยสาขาพระราม 3 สาขาเดียว รายได้รวม 270 ล้านบาท และมีแนวโน้มเติบโตจากสาขาที่เพิ่มขึ้น ทั้งรายได้-กำไร จากสาขาพระราม 9-สุวรรณภูมิ ภายในไตรมาส 1/2567 , สาขาอุบลราชธานี และโอกาสการขยายสาขาไปยังจังหวัดอื่น ๆ รวมทั้งประเทศเพื่อนบ้าน ดังนั้นการขยายสาขาใหม่ที่เพิ่มขึ้นมา 2-3 แห่ง เป็นโอกาสและเป็นจุดเริ่มต้น New S Curve อีกครั้งของ GFC

” นักลงทุนที่ซื้อหุ้น GFC วันนี้ ด้วยการเข้าตลาดสาขาพระราม 3 สาขาเดียว ทั้งสาขาพระราม 9-สาขาอุบล ฯ ซึ่งร่วมทุนกับหมอมีชื่อเสียง มีลูกค้าจำนวนมาก แต่ในโซนนี้ ไม่มีศูนย์หรือโรงพยาบาลเฉพาะทางรักษาผู้มีบุตรยาก  ทั้ง 2 สาขาที่เพิ่มขึ้นนี้ เป็นการบุกครั้งแรก ที่จะทำรายได้อย่างดีทีเดียวให้กับ GFC รวมทั้งเงินเพิ่มทุน ส่วนหนึ่งนำไปลดภาระหนี้ที่ซื้อสำนักงานพระราม 9  ประหยัดดอกเบี้ยไม่ต่ำกว่า 7-8 ล้านบาท ส่งผลอย่างมีนัยสำคัญกับงบการเงิน ดังนั้น หุ้น GFC จึงเป็นหุ้นที่น่าลงทุน เติบโตสูง ปันผลสม่ำเสมอ ทั้ง ROE เกือบ 40% , ROA กว่า 20% สูงทั้งคู่ ” คุณหมอกล่าวทิ้งท้าย