BBLได้ประโยชน์ดอกเบี้ยไทยลงช้า คาดกำไรโต Q3/67 สำรองลดยาว 3 ปี 

HoonSmart.com>>บล.ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนลฯ เชียร์ซื้อหุ้นธนาคารกรุงเทพ (BBL) ได้ประโยชน์ดอกเบี้ยไทยลงช้า คาดไตรมาส 3/67 ทำกำไร  1.33 หมื่นล้านบาท ส่วนต่างดอกเบี้ย  3.08% เพิ่มขึ้น 0.07% qoq  รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยพุ่งขึ้น สำรองหนี้ลดลงอย่างต่อเนื่องยาวถึงปี 69 คาดอัตราผลตอบแทนเงินปันผล 4.6-4.9% ต่อปีในปี 67-72 

ฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล(ประเทศไทย) หรือ CGSI ระบุในบทวิเคราะห์ โดยคาดว่า ในไตรมาส 3/2567 BBL จะทำกำไรสุทธิ 1.33 หมื่นล้านบาท เติบโต 17.6% yoy และ 13% qoq ถึงแม้ประมาณการว่า BBL จะมีสินเชื่อขยายตัวเพียง 0.1% yoy และ 0.2% qoq  แต่ธนาคารน่าจะยังมีส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย (NIM) สูง หรือที่ 3.08% เพิ่มขึ้น 0.07% qoq เพราะอัตราผลตอบแทนจากสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้เพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ ฝ่ายวิเคราะห์ฯยังคาดว่า รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยจะเพิ่มขึ้น 31.4% yoy และ 6.6% qoq   เพราะรายได้ค่าธรรมเนียมเติบโตแข็งแกร่ง ทั้งจากค่านายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์และบริการกองทุนรวม, กำไรจากการลงทุนที่เพิ่มขึ้น yoy ขณะที่ BBL น่าจะมีอัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ทรงตัว qoq ที่ 44% ดังนั้นจึงคาดว่าธนาคารจะมีกำไรก่อนตั้งสำรองเติบโต 5.6% yoy และ 1.4% qoq ในไตรมาส 3 นี้

รวมทั้งคาดว่าอัตราการสำรองหนี้สูญจะลดลง qoq จาก 153bp ในไตรมาส 2/67 เป็น 115bp ในไตรมาส 3/67 ขณะที่อัตราส่วน NPL จะทรงตัว qoq

ฝ่ายวิเคราะห์ CGSI ปรับประมาณการกำไรต่อหุ้น ในปี 2567-2569 เพิ่มขึ้น 1.9-5.0% หลังปรับสมมติฐาน NIM ขึ้น 10-12bp และปรับอัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ลง อย่างไรก็ตามปรับลดประมาณการอัตราการเติบโตของสินเชื่อในช่วง 3 ปีนี้ จาก 4.0-4.5% เหลือ 2.5-3.7% สะท้อนยอดสินเชื่อที่ขยายตัวลดลงในครึ่งปีแรก และมีมุมมองที่ conservative มากขึ้นต่ออัตราการเติบโตของสินเชื่อใหม่

จึงปรับสมมติฐานอัตราการสำรองหนี้สูญขึ้น 5- 15bp ในปี 2567-2568 แต่ปรับลง 15bp ในปี 2569 ทั้งนี้ BBL ยังยึดหลักการตั้งสำรองอย่างรอบคอบ แม้ว่าจะมีอัตราส่วนการตั้งสำรองต่อหนี้ NPL สูงถึง 282.5% ในไตรมาส 2/2567 ซึ่งกดดัน ROE ของธนาคารตลอด 4 ปีที่ผ่านมา ดังนั้น ROE ตามประมาณการใหม่ของฝ่ายวิเคราะห์ฯ จึงอยู่ที่ 8.1% ต่อปีในปี 2567-2569

ฝ่ายวิเคราะห์ CGSI เลื่อนปีฐานการประเมินมูลค่า BBL เป็นปี 2568 ส่งผลให้ราคาเป้าหมายเพิ่มเป็น 195 บาท จากจาก 183 บาท ซึ่งยังเท่ากับ P/BV 0.62 เท่า ยังแนะนำ “ซื้อ” เพราะ BBL มีการประเมินมูลค่าน่าสนใจที่ P/BV เพียง 0.51 เท่าในปี 2568 เท่ากับค่าเฉลี่ย 5ปี รวมทั้งมีอัตราส่วนการตั้งสำรองต่อหนี้ NPL แข็งแกร่งที่ 282% ในไตรมาส 2/2567 และมีอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงสูงที่ 19.5% นอกจากนี้คาดว่าอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลของ BBL อยู่ที่ 4.6-4.9% ต่อปีในปี 2567-2572 ภายใต้ สมมติฐานอัตราการจ่ายเงินปันผลที่ 29-30%

ยังคงเลือก BBL เป็นหนึ่งใน Top pick ของกลุ่มธนาคารไทย เพราะมีสัดส่วนสินเชื่อรายย่อยน้อยที่สุดและมีสินเชื่อลูกค้ากิจการต่างประเทศสูงถึง 25% ของยอดสินเชื่อรวมใน อย่างไรก็ตาม BBL จะมี downside risk หากความเสี่ยงทางด้านภูมิรัฐศาสตร์สูงขึ้น, การลงทุนภาคเอกชนอ่อนตัวและสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่กลายเป็น NPL เพิ่มขึ้น ส่วนปัจจัยบวกจะมาจากการเติบโตที่แข็งแกร่งของธุรกิจสินเชื่อในต่างประเทศ, อัตราการสำรองหนี้สูญที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญในปี 2568-2569 และความล่าช้าในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย