HoonSmart.com>>ตลาดหุ้นต่างประเทศปรับตัวลง ลากไทยร่วง 14.43 จุด หลังจากธนาคารกลางจีนช็อคตลาดหั่นดอกเบี้ยลง 0.15%เหลือ 2.50% ห่วงเศรษฐกิจไม่ฟื้น ดอลลาร์สหรัฐแข็ง บอนด์ยีลด์เพิ่ม ต่างชาติขายหุ้นต่อ 3,815.61 ล้านบาท ส่วนนักลงทุนไทยช้อน 4,053.97 ล้านบาท วันพรุ่งนี้ลุ้นผลการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ
ตลาดหุ้นวันที่ 15 ส.ค.66 ดัชนีปรับตัวลงแรง ปิดที่ระดับ 1,520.73 จุด ลดลง 14.43 จุด หรือ -0.94% มูลค่าซื้อขาย 48,598.75 ล้านบาท หลังจากนักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 3,815.61 ล้านบาท สวนทางนักลงทุนไทยซื้อสุทธิ 4,053.97 ล้านบาท และนักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 885.78 ล้านบาท
ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงตามต่างประเทศ เช่น ยุโรปลดลง 1% ตลาดหุ้นฮ่องกง-1.03% และดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าลดลง หลังจากธนาคารกลางจีน ปรับลดดอกเบี้ยระยะกลาง 1 ปี ลง 0.15% เหลือ 2.5% ผิดจากความคาดหมายว่าจะคงดอกเบี้ย เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ขณะที่ธนาคารกลางรัสเซียปรับเพิ่มดอกเบี้ยถึง 3.5% แตะ 12% หลังจากเงินรูเบิลดิ่งลงแรงทะลุ 100 รูเบิลต่อดอลลาร์ โดยมีสาเหตุจากมาตรการคว่ำบาตรทางการค้าของชาติตะวันตก ตลอดจนค่าใช้จ่ายในการทำสงครามกับยูเครนที่พุ่งสูงขึ้น
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล, CISA ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นวันนี้ปรับตัวลงแย่กว่าที่คาดไว้ จากความกังวลตัวเลขเศรษฐกิจของจีนที่ออกมาไม่ดีต่อเนื่อง และอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond yield) ของสหรัฐก็ปรับตัวขึ้น ประกอบกับเงินดอลลาร์สหรัฐค่อนข้างแข็งค่า คาดว่านักลงทุนต่างชาติยังขายหุ้นออกมาอยู่
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียวันนี้เคลื่อนไหวทรงตัวหลังปรับตัวลงไปเมื่อวานนี้ แต่ตลาดหุ้นฮ่องกงลดลง 1.03% ส่วนตลาดในยุโรปเทรดบ่ายนี้ติดลบราว 1% และดาวโจนส์ฟิวเจอร์สติดลบ -0.5% ซึ่งเป็น Sentiment ที่ไม่ดี
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (16 เม.ย.) ให้เฝ้าจับตาแนวรับ 1,515 จุด ไม่ควรหลุด ถ้าหลุดจะเป็นสัญญาณที่ไม่ดีและมีโอกาสปรับตัวลงต่อได้ ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 1,535 จุด โดยพรุ่งนี้ทิศทางตลาดขึ้นอยู่กับผลการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่จะออกมาด้วย และให้ติดตามงานงานการประชุมธนาคารกลางสหรัฐในวันพรุ่งนี้ ว่าจะส่งสัญญาณเกี่ยวกับการปรับอัตราดอกเบี้ยอย่างไรบ้าง