HoonSmart.com>>”แอ๊บโซลูท คลีน เอ็นเนอร์จี้”(ACE)โชว์ไตรมาส 2/66 กำไรสุทธิ 315.8 ล้านบาท โต 14.8% จากไตรมาสก่อน รายได้รวม 1,613 ล้านบาท ครึ่งปีแรกกำไรสุทธิ 590.8 ล้านบาท รายได้กว่า 3,353.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.9% มั่นใจครึ่งปีหลังยังโตตามเป้า เตรียมลงนาม PPA โรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์ม 18 โครงการ 112.73 MW ปลายปีนี้ อนาคตสดใส อยู่ระหว่างพัฒนารวม 392.22 MW คาดเริ่ม COD ทยอยรับรู้รายได้ปี 67 เป็นต้นไป เตรียมยื่นประมูล มองหาการลงทุนใหม่ๆ ยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก
บริษัท แอ๊บโซลูท คลีน เอ็นเนอร์จี้ (ACE) เปิดเผยผลงานงวดไตรมาสที่ 2/2566 มีกำไรสุทธิ 315.8 ล้านบาท ลดลง 17.70%จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 383.7 ล้านบาท แต่เพิ่มขึ้น 14.84%จากไตรมาสแรกปีนี้ที่มีกำไรสุทธิ 275 ล้านบาท โดยรวม 6 เดือนแรกปีนี้มมีกำไรสุทธิ 590.8 ล้านบาท ลดลง 16.38% จากจำนวน 706.5 ล้านบาท
นายธนะชัย บัณฑิตวรภูมิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอ๊บโซลูท คลีน เอ็นเนอร์จี้ (ACE) ผู้นำด้านธุรกิจพลังงานสะอาดของไทย เปิดเผยว่า ACE มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจากไตรมาสแรก 14.8% ขณะที่มีรายได้จากการขายและบริการรวมอยู่ที่ 1,613.3 ล้านบาท ลดลง 7.3% จากที่ทำได้ 1,740.6 ล้านบาท เนื่องจากรายได้โรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติในส่วนของค่าพลังงานไฟฟ้าที่ลดลงตามต้นทุนก๊าซธรรมชาติที่มีราคาปรับลดลง ส่วน 6 เดือนแรกปีนี้ มีรายได้จากการขายและบริการรวมอยู่ที่ 3,353.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.9% จากงวดเดียวกันปีก่อนที่ทำได้ 3,258.7 ล้านบาท
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ACE กล่าวว่า ช่วงครึ่งปีแรกยังมีความคืบหน้าเชิงบวกต่อเนื่องหลังได้รับการลงนาม PPA โครงการโรงไฟฟ้าที่ชนะการประมูลซึ่งมีกำลังการผลิตติดตั้งเพิ่มเติมรวม 78 เมกะวัตต์ จาก 18 โรงไฟฟ้าชุมชน กำลังการผลิตติดตั้งรวม 59 เมกะวัตต์ โครงการโรงไฟฟ้าขยะชุมชนเชียงหวาง จ.อุดรธานี กำลังการผลิตติดตั้ง 9.0 เมกะวัตต์ และ โครงการโรงไฟฟ้าขยะชุมชนโชคชัย จ.นครราชสีมา กำลังการผลิตติดตั้ง 9.9 เมกะวัตต์ และยังมีโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน Feed-in Tariff (FiT) ปี 2565 – 2573 ประเภทพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน รวม 18 โครงการ คิดเป็นกำลังการผลิตเสนอขาย (PPA) รวม 112.73 เมกะวัตต์ ที่ยังรอการลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) คาดว่าจะเป็นช่วงเดือนต.ค.นี้
แนวโน้มการดำเนินงานยังคงเติบโตต่อเนื่อง บริษัทมีทั้งโครงการที่ PPA ได้รับการลงนามแล้วและคาดว่าจะลงนามเพิ่มเติมภายในปีนี้ รวมทั้งสิ้น 53 โครงการ กำลังการผลิตติดตั้งรวม 392.22 เมกะวัตต์ หากก่อสร้างแล้วเสร็จและทยอยเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) คาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงปี 2567 เป็นต้นไป เช่น โครงการโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์ม 18 โครงการ รวมกำลังการผลิตเสนอขาย 112.73 เมกะวัตต์ ที่สามารถก่อสร้างได้เร็วและอยู่ในกลุ่มที่มีกำหนดเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ (SCOD) ที่ค่อนข้างเร็ว มีกำหนด SCOD จำนวน 35.4 เมกะวัตต์ 57.33 เมกะวัตต์ และ 20 เมกะวัตต์ ในปี 2567 ปี 2568 และปี 2570 ตามลำดับ ซึ่งจะส่งผลให้ ACE มีการเติบโตของรายได้และกำไรแบบก้าวกระโดด
ทั้งนี้ยังไม่รวมถึงการมองหาโอกาสการลงทุนใหม่ๆ ในประเทศและต่างประเทศเพิ่มเติมที่ยังคงพิจารณาอย่างต่อเนื่อง อาทิ การประมูลโครงการพลังงานหมุนเวียน สำหรับกลุ่มไม่มีต้นทุนเชื้อเพลิงระยะที่ 2 จำนวน 3,668.5 เมกะวัตต์ การดำเนินโครงการการติดตั้งโซลาร์เซลล์ ในรูปแบบ Private PPA ร่วมกับภาคเอกชน รวมถึงลงทุนในเรื่องของ Peer-to-Peer Energy Trading ที่อยู่ระหว่างศึกษาและรอความชัดเจนจากภาครัฐ ตลอดจนการขายพลังงานหมุนเวียน (REC) ยังมีอนาคตเติบโตอีกมากและเป็นโอกาสดีที่ ACE จะเข้าไปลงทุน
“ACE เชื่อมั่นว่าการดำเนินธุรกิจที่สอดรับตามเมกะเทรนด์ของโลกจะช่วยให้ผลประกอบการเกิดการเติบโตอย่างยั่งยืนได้ในระยะยาว สอดรับตามกลยุทธ์ธุรกิจที่มุ่งสู่การเป็น “ต้นแบบผู้นำด้านธุรกิจพลังงานสะอาดของโลก” และเป้าหมาย “การเป็นองค์กรที่มีการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี ค.ศ. 2050”นายธนะชัยกล่าว