ทางออกเดียวของ JASIF เพื่อไปต่อ-3BB เสี่ยง ถูกเพิกถอนใบอนุญาต

HoonSmart.com>>สถานการณ์ของกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน (JASIF)  เดินมาถึงจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญอีกครั้ง เพราะ 3BB ในฐานะผู้เช่าสินทรัพย์กองทุน JASIF เพียงรายเดียว มีสถานะอยู่ในจุดเสี่ยงหลายอย่างที่น่ากังวล ขาดสภาพคล่องอย่างรุนแรง มีความสามารถชำระหนี้สินที่ลดลง มีแนวโน้มจะไม่สามารถชำระค่าเช่าหลัก และสัญญาประกันรายได้ได้ ทำให้ในระยะยาว 3BB อาจจะดำเนินธุรกิจไม่ได้

หาก 3BB ไม่สามารถขอหยุดพักชำระค่าเช่าได้ ก็จะไม่สามารถชำระค่าใบอนุญาตในการประกอบกิจการโทรคมนาคมกับ กสทช. อาจส่งผลให้ กสทช ไม่ต่ออายุใบอนุญาตในการดำเนินกิจการ แน่นอนว่าส่งผลโดยตรงต่อความสามารถในการทำธุรกิจ รวมถึงความสามารถในการชำระค่าเช่า ทั้งสัญญาหลัก และสัญญาประกันรายได้

จากรายงานการศึกษาและวิเคราะห์ต่อการยกเลิกและแก้ไขเพิ่มเติมสัญญาจัดหาผลประโยชน์จากทรัพย์สินกิจการโครงสร้างพื้นฐาน ของบริษัทจัดการกองทุนฯ ที่ได้วิเคราะห์ให้เห็นถึงผลกระทบภายใต้เงื่อนไขใหม่ที่ 3BB นำเสนอ เพื่อขออนุมัติจากผู้ถือหน่วยซึ่งกำลังจะเกิดขึ้นในวันที่ 23 ส.ค.2566นี้

ดูเหมือนครั้งนี้แทบจะไม่เหลือทางเลือกให้กับผู้ถือหน่วย นอกจากการอนุมัติ เพราะสถานการณ์ของ 3BB เข้าขั้นโคม่าที่ต้องได้รับการผ่าตัดอย่างเร่งด่วน ขาดสภาพคล่องอย่างรุนแรง ทั้งผลขาดทุนถึง 2,671.28 ล้านบาท ในปี 2565 ที่ผ่านมา มีกระแสเงินสดรับจากการดำเนินงานจำนวน 9,388.20 ล้านบาท ซึ่งต่ำกว่ากระแสเงินสดใช้ไปในกิจกรรมการลงทุนและกิจกรรมจัดหาเงินรวมกันจำนวน (10,160.50) ล้านบาท ทำให้มีเงินสดสุทธิลดลงอย่างมีนัยสำคัญ จาก 975.72 ล้านบาทเป็น 220.78 ล้านบาท

ที่น่าสนใจกว่านั้นคือ 3BB ต้องเตรียมเงินสดไม่ต่ำกว่า 600 ล้านบาท เพื่อชำระค่าธรรมเนียมสำหรับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคม และค่าธรรมเนียมเพื่อการจัดให้มีการบริการโทรคมนาคมพื้นฐานโดยทั่วถึงและบริการเพื่อสังคม หรือ USO ให้กับ กสทช. ซึ่งในขณะนี้ 3BB ก็ยังคงค้างชำระ ส่งผลให้มีความเสี่ยงอย่างมากในการโดนเพิกถอนในอนุญาติ จนไม่สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้

ซึ่งแน่นอนว่า JASIF ได้รับผลกระทบไปเต็มๆ จากการสูญเสียรายได้ที่คาดว่าจะเกิดขึ้น ส่งผลให้สุดผู้ถือหน่วยอาจไม่ได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนเลยอีกด้วย

กลับมาดูสิ่งที่ 3BB เสนอให้แก้ไขสัญญาเช่าหลัก และยกเลิกสัญญาประกันรายได้ รวมถึงจะขยายสัญญาเช่าหลักเพิ่มเติมไปอีก 6 ปี 11 เดือน เพื่อบรรเทาสถานการณ์ให้สามารถชำระค่าเช่าให้กองทุนรวมได้ บริษัทจัดการกองทุนฯ ได้วิเคราะห์ให้เห็นว่า เงื่อนไขใหม่จะทำให้กองทุนรวมมีกระแสรายได้รวมตลอดสัญญาสูงกว่าเดิม 38.71% หรือ 32,267.34 ล้านบาท จะมีมูลค่า ณ ปัจจุบันของกระแสรายได้รวมสูงกว่าเงื่อนไขเดิม 20.01% หรือ 12,961.30 ล้านบาท และผู้ถือหน่วยจะได้รับ IDP สูงกว่าเดิม 3.21 บาท:หน่วย หรือสูงกว่า 45.94% หรือมีมูลค่าปัจจุบันของ DPU สูงกว่า 1.25 บาท:หน่วย หรือ 23.19%

การปรับแก้สัญญาดังกล่าวนอกจากเป็นการสร้างผลตอบแทนและกระแสเงินสดในระยะยาวที่มั่นคงมากขึ้นของกองทุน JASIF ยังเป็นการลดความเสี่ยงของ 3BB ในฐานะผู้เช่า ทำให้ 3BB สามารถบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น  กระแสเงินสดรวมถึงสภาพคล่องที่ในวันนี้ 3BB ต้องเผชิญ  ทำให้กองทุน JASIF ในฐานะผู้ให้เช่าต้องประสบปัญหาการไม่ได้รับค่าเช่าตามกำหนดเวลา และการผิดนัดชำระค่าเช่า ซึ่งอาจทำให้กองทุนรวมและผู้ถือหน่วยลงทุนได้รับผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ

“อย่างที่รู้กันดีว่ารายได้หลักของ JASIF มาจาก 3BB ในฐานะผู้เช่าทรัพย์สินเพียงรายเดียว ทำให้ทุกการเปลี่ยนแปลงของ 3BB ย่อมสร้างผลกระทบโดยตรงกับกองและผู้ถือหน่วยเช่นกัน แน่นอนว่าในครั้งนี้ อาจจะเป็นแรงกระเพื่อมครั้งใหญ่ที่ผู้ถือหน่วยจะเป็นผู้ตัดสินใจในการต่อลมหายใจให้กับ 3BB จากทางรอดเดียวที่เหลืออยู่”