ดาวโจนส์ปิดบวก 52 จุด หวังเฟดคงดอกเบี้ยหลังเงินเฟ้อต่ำกว่าคาด

HoonSmart.com>> ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวก ดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 52 จุด หวังธนาคารกลางสหรัฐฯ คงดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย. หลังเงินเฟ้อเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 3.2% YoY ต่ำกว่าคาด ด้านเงินเฟ้อพื้นฐานลงไม่มาก เพิ่มขึ้น 4.7% YoY ราคาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 1.58 ดอลลาร์ ฟาก “ตลาดหุ้นยุโรป” ปิดบวก
      
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) ปิดวันที่ 10 สิงหาคม 2566 ที่ 35,176.15 จุด เพิ่มขึ้น 52.79 จุด หรือ 0.15% ด้วยความคาดหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะคงดอกเบี้ยในการประชุมเดือนกันยายน หลังเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นต่ำกว่าคาด แต่ก็ยังไม่คาดว่าเฟดจะเริ่มลดดอกเบี้ยและนโยบายการเงินยังคงเข้มงวดเพื่อป้องกันการปะทุของเงินเฟ้อ

ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,468.83 จุด เพิ่มขึ้น 1.12 จุด, +0.03%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,737.99 จุด เพิ่มขึ้น 15.97 จุด, +0.12%

ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากการปรับขึ้น 4.9% ของหุ้นวอลต์ ดิสนีย์ จากผลการดำเนินงานที่ดีกว่าคาด

กระทรวงแรงงานรายงานดัชนี CPI ทั่วไป ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงานเดือนกรกฎาคมเพิ่มขึ้น 3.2% เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่า 3.3% ที่นักวิเคราะห์คาด และเพิ่มขึ้น 0.2% จากเดือนก่อนหน้า

แต่เงินเฟ้อยังคงไม่ลดลงมากเพราะดัชนี CPI พื้นฐาน ไม่รวมหมวดอาหารและพลังงานเพิ่มขึ้น 4.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 0.2% ซึ่งเมื่อเทียบรายปีและรายเดือนเงินเฟ้อสอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์คาด ส่วนค่าที่แท้จริงรายสัปดาห์ทรงตัวจากเดือนก่อน

การซื้อขายแกว่งตัว โดยตลาดปรับเพิ่มขึ้นในช่วงเช้าหลังการรายงานตัวเลขเงินเฟ้อ แต่อ่อนตัวลงจากนั้น เพราะนักลงทุนส่วนใหญ่รับรู้กันอยู่แล้ว และยังกังวลต่อความเสี่ยงระยะปานกลาง ทั้งโอกาสที่เศรษฐกิจจะชะลอตัว การไม่ปล่อยเงินกู้ของธนาคาร และผลของการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟดต่อเศรษฐกิจ

ซีมา ชาห์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายกลยุทธ์ระดับโลกของ Principal Asset Management กล่าวว่า ข้อมูลล่าสุดจะทำให้เฟดคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในเดือนกันยายน อัตราเงินเฟ้อกำลังเคลื่อนไหวไปในทิศทางที่ถูกต้อง แต่ระดับที่ยังคงสูงอยู่บ่งชี้ว่าเฟดยังห่างไกลจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ย

ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ปรับตัวสูงขึ้น ประกอบกับนางแมรี ดาลี ประธานเฟดสาขาซานฟรานซิสโกให้ความเห็นว่า เฟดยังมีงานต้องทำอีกมาก แม้ข้อมูลเงินเฟ้อพื้นฐานเพิ่มขึ้นแบบติดๆกันน้อยที่สุดในรอบกว่าสองปี

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 30 ปีเพิ่มขึ้นหลังจากการประมูลพันธบัตรล็อตใหม่ 23 พันล้านดอลลาร์ได้ดอกเบี้ยสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2011 อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 2 ปีซึ่งอ่อนไหวต่อการดำเนินนโยบายของเฟดก็ปรับขึ้น และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีเพิ่มขึ้นมาที่ 4.1%

สำหรับข้อมูลอื่นที่รายงานเมื่อวานนี้ ได้แก่การยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเพิ่มขึ้น 248,000 รายสูงกว่า 230,000 รายที่นักวิเคราะห์คาด

หุ้นอาลีบาบาที่จดทะเบียนในสหรัฐบวก 3.9% หลังรายงานยอดขายไตรมาสสองดีกว่าคาด ขณะที่นักลงทุนจับตาความขัดแย้งด้านเทคโนโลยีระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากเมื่อวันพุธประธานาธิบดีโจ ไบเดน ลงนามในคำสั่งบริหารห้ามการลงทุนใหม่ในจีน ซึ่งรวมถึงการลงทุนในชิปและกำหนดให้รายงานต่อรัฐบาลหากมีการลงทุนในเทคโนโลยีประเภทอื่น

นักลงทุนยังรอการรายงานเงินเฟ้อที่วัดจากดัชนี PPI ในวันศุกร์

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน และแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 สัปดาห์ หลังสหรัฐรายงานข้อมูลเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ทำให้คาดหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ใกล้จะยุติการปรับขึ้นดอกเบี้ย รวมทั้งยังได้รับปรงหนุนจากการปรับขึ้นของกลุ่มสินค้าหรูหลังจีนผ่อนคลายการเดินทางท่องเที่ยวแบบกรุ๊ปทัวร์ไปสหรัฐ ยุโรป และญี่ปุ่น

กลุ่มเดินทางและสันทนาการ เพิ่มขึ้น 1.5% กลุ่มอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้น 1.6% กลุ่มสินค้าของใช้ส่วนบุคคลและครัวเรือนบวก 2.2%

หุ้น LVMH เพิ่มขึ้น 3.4%

หุ้น Siemens ธุรกิจวิศวกรรมรายใหญ่ในเยอรมนีลดลง 4.8% หลังกำไรไตรมาสสามพลาดเป้า

ในเดนมาร์ก หุ้น Novo Nordisk ผู้ผลิตยารายใหญ่ลดลง 1.2% หลังประกาศจะยังคงเข้มงวดในการส่งยาลดความอ้วนให้สหรัฐ

ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 464.23 จุด เพิ่มขึ้น 3.65 จุด, +0.79%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,618.60 จุด เพิ่มขึ้น 31.30 จุด, +0.41%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,433.62 จุด เพิ่มขึ้น 111.58 จุด, +1.52%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,996.52 จุด เพิ่มขึ้น 143.94 จุด, +0.91%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนกันยายนลดลง 1.58 ดอลลาร์ หรือ 1.9% ปิดที่ 82.82 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนตุลาคมลดลง 1.15 ดอลลาร์ หรือ 1.3% ปิดที่ 86.40 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล