“หุ้นเอเชีย” เช้านี้ส่วนใหญ่ลดลงหลังรายงานจ้างงานสหรัฐ

HoonSmart.com>> “ตลาดหุ้นโตเกียว-เอเชีย” เช้านี้ปรับตัวลดลง ตามตลาดหุ้นสหรัฐที่ปิดลบติดต่อกัน 3 วันในปลายสัปดาห์ หลังข้อมูลจ้างงานของสหรัฐยังหลากหลาย จ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ค.ต่ำกว่าคาด นักลงทุนจับตารายงานข้อมูลเงินเฟ้อกับข้อมูลการค้าของจีน เพื่อประเมินทิศทางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ

ตลาดหุ้นโตเกียวเช้านี้ปรับตัวลดลง ตามตลาดหุ้นสหรัฐที่ปิดลบติดต่อกัน 3 วันในปลายสัปดาห์

หุ้นที่ปรับลดลงได้แก่ กลุ่มขนส่งทางทะเล กลุ่มค่าส่ง และกลุ่มบริการคลังสินค้าและขนส่งท่าเรือ

เช้านี้เวลา 9.00 น. ตามเวลาในญี่ปุ่น เงินดอลลาร์อยู่ที่ 14186-89 เยน จาก 141.71-81 เยนในตลาดนิวยอร์ก และจาก 142.63-65 เยน ในตลาดโตเกียว เวลา 17.00 น.วันศุกร์

ณ เวลา 9.47 น. ในประเทศไทย

ดัชนี Nikkei 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นอยู่ที่ 32,181.79 จุด ลดลง 10.96 จุด, -0.03%

ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวลดลง ตามตลาดหุ้นสหรัฐที่ปิดลบในปลายสัปดาห์หลังจากข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐยังหลากหลาย ขณะที่นักลงทุนจับตาการรายงานข้อมูลเงินเฟ้อกับข้อมูลการค้าของจีนเพื่อประเมินทิศทางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ รวมทั้งข้อมูลของสหรัฐในสัปดาห์นี้ และรอการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อของประเทศในภูมิภาค

เมื่อวันศุกร์กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนกรกฎาคมเพิ่มขึ้น 187,000 ตำแหน่ง ต่ำกว่า 200,000 ตำแหน่ง ที่นักวิเคราะห์ ส่วนอัตราการว่างงานอ่อนตัวลงมาที่ 3.5% จาก 3.6% ซึ่งต่ำกว่า 3.6% ที่นักวิเคราะห์คาด แต่ค่าจ้างรายชั่วโมงบ่งชี้ว่ายังจะมีเงินเฟ้อและสูงกว่าที่คาดโดยเพิ่มขึ้น 0.4% จากเดือนก่อนหน้าและเพิ่มขึ้น 4.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งสูงกว่า 0.3% เมื่อเทียบรายเดือนและ 4.2% เมื่อเทียบรายปีที่นักวิเคราะห์คาด

จีนกำหนดรายงานเงินเฟ้อเดือนกรกฎาคมในวันพุธ(9ส.ค.) ซึ่ง นักวิเคราะห์จาก MUFG คาดว่าจะยังคงหดตัว หลังจากการเพิ่มขึ้นของราคาผู้บริโภคชะงักในเดือนมิถุนายน

ด้านเงินเฟ้อสหรัฐมีกำหนดเผยแพร่วันพฤหัสบดี ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าเงินเฟ้อพื้นฐานเดือนกรกฎาคมจะเพิ่มขึ้น 4.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

เทรดเดอรในตลาดสวอปให้น้ำหนัก 40% ที่ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)จะปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นอีก 0.25% ในปลายปีนี้ และภายในสิ้นปี 2024 จะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยทั้งหมดกว่า 1.25%

ราฟาเอล บอสติก และออสแทน กูลสบี ประธานสาขาเฟดมองว่า การจ้างงานที่ชะลอตัวลงหมายความว่า เฟดอาจจะเริ่มพิจารณาว่าจะคงดอกเบี้ยไว้ที่ระดับสูงอีกนานแค่ไหน ขณะที่ประธานเฟดอีกราย ไมเคิล โบว์แมน กล่าวว่า เฟดยังต้องปรับขึ้นดอกเบี้ยเพื่อฟื้นฟูเสถียรภาพราคาอย่างเต็มกำลัง

อย่างไรก็ตามอัตราผลตอบแทนพันธบัตรยังบ่งชี้ว่ายังมีโอกาสที่เศรษฐกิจสหรัฐจะถดถอยรุนแรงแม้ข้อมูลเศรษฐกิจในช่วงหลังจะแสดงให้เห็นในทางอื่น โดยตัวชี้วัดของเฟดสาขานิวยอร์ก (New York Federal Reserve.) ที่ใช้การเปรียบเทียบส่วนต่างของอัตราผลตอบแทนระหว่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 3 เดือนกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี

โดยปกติเมื่ออัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้นสูงกว่าระยะยาว(inverted yield curve) นับเป็นสัญญาณบ่งบอกว่ากำลังจะเข้าสู่ภาวะถดถอย ตามข้อมูลย้อนหลังไปถึงปี 1969

ข้อมูลล่าสุดในวันศุกร์โดยใช้ส่วนต่างอัตราผลตอบแทน ณ สิ้นเดือนกรกฎาคมพบว่า ความน่าจะเป็นของภาวะเศรษฐกิจถดถอยในอีก 12 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ 66% แม้จะลดลงจากจุดสูงสุดที่ 70.8% ในเดือนพฤษภาคม แต่ก็ยังคงเป็นตัวบ่งชี้ตลาดที่แข็งแกร่งว่าการหดตัวกำลังจะเริ่มขึ้น

ดัชนี SSE ตลาดหุ้นจีนอยู่ที่ 3,265.72 จุด ลดลง 22.37 จุด, -0.68%
ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงอยู่ที่ 19,486.73 จุด ลดลง 52.73 จุด, -0.27%
ดัชนี Kospi ตลาดหุ้นเกาหลีอยู่ที่ 2,600.43 จุด ลดลง 2.37 จุด, -0.09%
ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันอยู่ที่ 16,951.95 จุด เพิ่มขึ้น 108.27 จุด, +0.64 %

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนกันยายนลดลง 0.03 ดอลลาร์หรือ 0.024 ซื้อขายที่ 82.79 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนตุลาคมลดลง 0.02ดอลลาร์ หรือ 0.02% ซื้อขายที่ 86.22 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล