‘กรุงไทย’ แนะเพิ่มน้ำหนักหุ้นไทย ตลาดขาขึ้นตามเศรษฐกิจ 

HoonSmart.com>>Krungthai CIO มองการลงทุนในเดือนก.ย. แนะเพิ่มน้ำหนักหุ้นไทย ผ่านจุดต่ำสุดแล้ว ราคาไม่แพง  สถานการณ์ในประเทศดีขึ้น หลังจัดตั้งรัฐบาลได้เร็ว เสริมความเชื่อมั่นผู้ลงทุน เศรษฐกิจมีแนวโน้มฟื้นตัว จากการเบิกจ่ายงบประมาณ การส่งออก และการท่องเที่ยวที่เข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น

ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุน ธนาคารกรุงไทย (Krungthai Chief Investment Office) เปิดมุมมองการลงทุนของเดือนก.ย.2567 ว่า ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวดีขึ้น หลังเหตุการณ์ Black Monday ที่ตลาดหุ้นถูกเทขายออกมาอย่างรุนแรงในช่วงต้นเดือนส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งมองไปข้างหน้า ยังคงมุมมองเดิมว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะชะลอลง และเดินหน้าไปสู่ภาวะ Soft Landing โดยตลาดมีแนวโน้มผันผวนมากขึ้นตามปัจจัยฤดูกาล ที่ส่วนใหญ่เดือนก.ย.เป็นเดือนที่ตลาดมีความผันผวนมากที่สุด ประกอบกับการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯเริ่มใกล้เข้ามาทุกที และยังมีความไม่แน่นอนว่าใครจะเป็นผู้ชัยชนะในการเลือกตั้งในรอบนี้

ทั้งนี้ ในเดือนก.ย.ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเริ่มวัฏจักรการลดดอกเบี้ย เป็นปัจจัยช่วยพยุงตลาดไม่ให้ปรับตัวลงแรงจนเกินไป อย่างไรก็ตาม แม้ว่าตลาดหุ้นฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว แต่ Valuation ค่อนข้างตึงตัว รวมทั้งปัจจัยฤดูกาล อาจทำให้ Upside ค่อนข้างจำกัด จึงแนะนำให้ผู้ลงทุนรอจังหวะในช่วงที่ตลาดมีการปรับฐาน ในการทยอยเข้าลงทุน

สำหรับสินทรัพย์ที่ Krungthai CIO ปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าสนใจลงทุน คือ ตลาดหุ้นไทย เนื่องจากมองว่าดัชนีได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว โดยได้รับแรงสนับสนุนทั้งจากปัจจัยภายในประเทศ และภายนอกประเทศ เช่น เสถียรภาพทางการเมืองเริ่มดีขึ้น การแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีเป็นไปอย่างรวดเร็ว ทำให้ตลาดมั่นใจว่านโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ เช่น นโยบายดิจิทัลวอตเล็ตของรัฐบาลดำเนินต่อไปได้ ขณะที่เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวจากการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณที่เริ่มปรับดีขึ้น การส่งออกฟื้นตัวดีขึ้นตามลำดับและน่าจะกลับมาขยายตัวได้จากปีก่อน รวมทั้ง การท่องเที่ยวกำลังเข้าสู่ช่วงไฮซีซัน ส่งผลดีต่อการบริโภคภาคเอกชน ด้านนโยบายการเงินก็อยู่ในวัฎจักรขาลง อีกทั้ง ตลาดหุ้นไทยยังมีเม็ดเงินจากกองทุนวายุภักษ์คอยหนุนตลาดอีกด้วย

ส่วนปัจจัยภายนอกประเทศ มองว่าการที่เฟดเริ่มวัฏจักรการลดดอกเบี้ย อาจทำให้ค่าเงินบาทไม่ได้อ่อนค่าแรง ช่วยลดแรงกดดันจากค่าเงิน ทำให้แรงขายของนักลงทุนต่างชาติชะลอตัว หรือพลิกกลับเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทยอีกรอบ ในด้านราคาตลาดหุ้นไทยถือว่าไม่แพง แนวโน้มผลประกอบการได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และจะทยอยฟื้นตัวในระยะข้างหน้า อย่างไรก็ตาม จากแนวโน้มความผันผวนที่อาจเพิ่มขึ้น การลงทุนในกองทุนผสม เป็นกลยุทธ์การลงทุนที่เหมาะสมกับสถานการณ์