HoonSmart.com>>บล.คิงส์ฟอร์ด คาดแนวโน้มดัชนีวันนี้โอกาสขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,410 – 1,420 จุด แรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ระวังแรงขายหลังขึ้นแรง แนวรับ 1,390 จุด ค่ำนี้จับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนส.ค.สหรัฐ แนะ AAV, TNP
บริษัทหลักทรัพย์ คิงส์ฟอร์ด วางแนวรับดัชนี SET ที่ 1,390 จุด แนวต้าน 1,410 – 1,420 จุด ประเมินดัชนีมีโอกาสปรับขึ้นทดสอบแนวต้าน จากปัจจัยหนุนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ระยะสั้น RSI เริ่มเข้าสู่ภาวะซื้อมากเกินไป กอปรยังรอประเมินตัวเลขจ้างงานสหรัฐในช่วงค่ำวันนี้ จึงแนะนำขายทำกำไรบางส่วนบริเวณแนวต้าน และทยอยซื้อกลับเมือดัชนีอ่อนตัว เช่น SCGP ,CPN CRC, HMPRO, BCP ,BDMS,CPF,BBL,PTT เป็นหุ้นที่กองทุนวายุภักษ์ถืออยู่และราคาหุ้นปัจจุบันยังต่ำกว่ามูลค่าปัจจัยพื้นฐาน Bloomberg Consensus ราว 10 – 20%
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐปิดวานนี้ DJIA -0.54%, S&P500 -0.30%, Nasdaq +0.25% ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนสหรัฐ ส.ค. ชะลอตัวกว่าคาด ค่ำวันนี้ติดตามตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐ ส.ค. จะมีผลต่อการตัดสินใจลดดอกเบี้ยของเฟด โดย CME Fed Watch ชี้โอกาส 45% ที่เฟดจะลดดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุม 18 ก.ย.
หุ้นแนะนำวันนี้ ได้แก่ AAV (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย 2.84 บาท) แม้แนวโน้ม 3Q67 ผลการดำเนินงานปกติจะอ่อนตัวลง QoQ เนื่องจาก Low season การท่องเที่ยว
อย่างไรก็ตามจะยังดีขึ้น YoY ได้ตามจำนวนผู้โดยสารทั้งในประเทศและระหว่างประเทศที่เพิ่มขึ้น รวมถึงราคาตั๋วโดยสารเฉลี่ยที่ยังคงสูงกว่าปีก่อน
นอกจากนี้คาดว่า Bottom line จะดีกว่าที่คาดไว้เนื่องจากได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลง ประกอบกับค่าเงินบาทที่แข็งค่ามากเทียบกับสิ้นไตรมาสก่อน ทำให้มีการบันทึกกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งทุกๆ 1 บาทที่แข็งค่าจะมีกำไรจาก FX ราว 1 พันล้านบาท
หุ้น TNP* (ซื้อ/ ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 4.41 บาท) มี Sentiment บวกจากความคาดหวังมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อของภาครัฐฯ ขณะที่ในส่วนของกำไรสุทธิ 2Q67 อยู่ที่ 42.25 ล้านบาท (+11.65%YoY, -5.90%QoQ) YoY มีแรงหนุนรายได้ที่สูงขึ้นจากทั้ง SSSG +1.4%YoY และจำนวนสาขาที่เพิ่มขึ้น ด้านการดำเนินงาน Q3 ช่วงถัดไป เบื้องต้น แม้คาดว่าจะอ่อนตัว QoQ ตามฤดูกาล แต่จะกลับมาดีต่อใน Q4
ด้าน TNP* เองวางเป้ารายได้ปี67 นี้ +10-15%YoY /ปี68 +10%YoY และวางแผนขยายสาขาอีกราว 4 สาขาใน 2H67 ทั้งนี้ ตลาดคาดกำไรสุทธิ TNP* ปี67 และ 68 จะอยู่ที่ 165.87 ล้านบาท (+6.65%YoY) และ 177.04 ล้านบาท (+6.73%YoY)