บลจ.กสิกรไทย ส่งกองทุน K-GVC23A-UI ลุย Private Equity หุ้นเทคทั่วโลก

HoonSmart.com>> “บลจ.กสิกรไทย” เปิดตัวกองทุน K-GVC23A-UI ลงทุน Private Equity เน้นกระจายลงทุนหุ้นที่เกี่ยวข้องเทคโนโลยีทั่วโลกในกลุ่มธุรกิจ Venture Capital และ Growth Capital ที่มีแนวโน้มการเติบโตทางธุรกิจสูง เพิ่มโอกาสทำกำไรในจังหวะเศรษฐกิจโลกฟื้นตัว ระยะเวลาลงทุน 9 ปี เปิดขายนักลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่พิเศษ IPO ครั้งเดียวถึง 11 ส.ค.นี้ ลงทุนเริ่มต้น 1 ล้านบาท

นายวจนะ วงศ์ศุภสวัสดิ์ รองกรรมการผู้จัดการ สายงานจัดการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมเศรษฐกิจโลกยังชะลอตัวจากภาวะเงินเฟ้อที่ยังสูงอยู่แต่สามารถควบคุมได้ โดยเห็นได้จากการที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าอาจมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอีก 1-2 ครั้งภายในปีนี้ ซึ่งเข้าใกล้จุดสูงสุด และคาดว่าจะปรับลงในระยะถัดไป ทั้งนี้ บลจ.กสิกรไทย มองว่าหุ้นที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีทั่วโลกจะกลับมามีความน่าสนใจในจังหวะที่เศรษฐกิจโลกฟื้นตัว จึงได้จัดตั้ง กองทุนเปิดเค GLOBAL VC PE 23A ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย (K-GVC23A-UI) เพื่อเพิ่มโอกาสทำกำไรในธุรกิจที่มีความเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีทั่วโลก พร้อมเสริมความมั่งคั่งอย่างมั่นใจไปกับ Lombard Odier ผู้นำด้านการลงทุนใน Private Equity โดยมีกำหนดเปิดเสนอขายครั้งเดียวในช่วง IPO ระหว่างวันที่ 24 ก.ค. – 11 ส.ค. 66 เงินลงทุนเริ่มต้นที่ 1,000,000 บาท

นายวจนะ กล่าวต่อไปว่า กองทุน K-GVC23A-UI มีนโยบายลงทุนผ่านกองทุน LOIM PE K Investments – K GLOBAL VC เน้นกระจายลงทุนทั่วโลกทั้งในสหรัฐฯ ยุโรป และเอเชีย ในธุรกิจที่เพิ่งเริ่มก่อตั้งกิจการ (Venture Capital) และธุรกิจที่อยู่ในช่วงเติบโตและต้องการเงินทุน เพื่อขยายกิจการ (Growth Capital) ซึ่งส่วนใหญ่เป็นธุรกิจที่มีความเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี และมีแนวโน้มการเติบโตสูง เช่น “Airbnb” ผู้ให้บริการจองห้องพักออนไลน์ที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายทั่วโลก “ByteDance” ผู้ผลิตแอปพลิเคชันทำคอนเทนต์ออนไลน์อย่าง TikTok และ “OpenAI” ผู้พัฒนา ChatGPT แชทบอตปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ที่เป็นที่รู้จักและใช้งานในวงกว้าง เป็นต้น โดยแบ่งสัดส่วนการลงทุนออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ ส่วนที่ 1 ร่วมลงทุนโดยตรงในธุรกิจนั้นๆ (Direct Co-Investments) ประมาณ 20% ส่วนที่ 2 ลงทุนผ่านกอง Private Equity ที่ซื้อขายในตลาดแรก (Primaries) ประมาณ 60% และส่วนที่ 3 ลงทุนในทรัพย์สิน Private Equity อื่นๆ ในตลาดรอง (Secondaries) ประมาณ 20% (ที่มา : Lombard Odier ณ มี.ค. 66)

“ความน่าสนใจของกองทุน K-GVC23A-UI จะอยู่ที่ 1) การเข้าถึงการลงทุนในธุรกิจนอกตลาดหลักทรัพย์ โดยธุรกิจ Venture Capital เหล่านี้เป็นธุรกิจที่มีอัตราการเติบโตสูง ที่ปัจจุบันยังไม่ได้จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ ผู้ลงทุนจึงไม่สามารถลงทุนผ่านกองทุนรวมทั่วไปได้ อีกทั้ง ความผันผวนของราคาสินทรัพย์ใน Private Market มักจะต่ำกว่าราคาหุ้นที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ 2) ลดข้อจำกัดการลงทุนใน Private Equity (PE) ไม่ว่าจะเป็นการเรียกลงทุนครั้งเดียว (Single Call) การใช้เงินลงทุนเริ่มต้นน้อยกว่าการลงทุนโดยตรงเอง และระยะเวลาการถือครองที่สั้นกว่ากองทุน PE ทั่วไป และ 3) ทีมบริหารกองทุนหลักที่เชี่ยวชาญ โดย Lombard Odier เป็นหนึ่งในผู้นำด้านการลงทุนใน Private Equity ด้วยประสบการณ์กว่า 16 ปี และบริหารกองทุน Venture Capital นานกว่า 11 ปี อีกทั้งมีเครือข่ายผู้จัดการกองทุน Private Assets ที่สามารถเข้าถึงได้มากกว่า 130 แห่ง ครอบคลุมกลยุทธ์การลงทุนกว่า 200 กองทุน และกว่า 4,000 ธุรกิจ ทำให้เข้าถึงแหล่งข้อมูลและโอกาสการลงทุนทั่วโลก” นายวจนะ กล่าว

นายวจนะ กล่าวเพิ่มเติมว่า กองทุน K-GVC23A-UI เป็นกองทุนที่มีความเสี่ยงสูงหรือซับซ้อน โดยลงทุนในหน่วยของกิจการเงินร่วมลงทุน (Private Equity) เหมาะสำหรับผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่พิเศษที่สามารถถือครองได้เป็นเวลาประมาณ 9 ปี ทั้งนี้ ผู้ลงทุนที่สนใจสามารถลงทุนขั้นต่ำ 1,000,000 บาท ผ่าน Private Banking Group ธนาคารกสิกรไทย และ บลจ.กสิกรไทย เท่านั้น โดยติดต่อขอรับหนังสือชี้ชวนได้ตามช่องทางดังกล่าว หรือ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ KAsset Contact Center 0 2673 3888