“คิงส์ฟอร์ด” คาดหุ้นทดสอบแนวต้าน 1,370-1,380 จุด ทยอยเก็บ 15 หุ้น

HoonSmart.com>>บล.คิงส์ฟอร์ด คาดแนวโน้มดัชนีได้แรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลชุดใหม่ แนวต้าน 1,370 – 1,380 จุด ส่วนแนวรับ 1,350 – 1,355 จุด แนะทยอยซื้อ 15 หุ้นได้ปัจจัยหนุน มาตรการกระตุ้นกำลังซื้อ, บาทแข็ง บอนด์ยีลด์ลด, มาตรการปรับโครงสร้สงหนี้ภาคครัวเรือน, ประมูลงานภาครัฐจากงบประมาณปี 68 พร้อมเสิร์ฟ
หุ้นวันนี้แนะ DITTO , HMPRO

บริษัทหลักทรัพย์ คิงส์ฟอร์ด วางแนวรับดัชนี SET ที่ 1,350 – 1,355 จุด โดยมีแนวต้านที่ 1,370 – 1,380 จุด คาดดัชนีได้ปัจจัยหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลชุดใหม่ แนะนำทยอยซื้อกลุ่มอุปโภคบริโภค เช่น CPALL,CPAXT,BJC ได้ประโยชน์จากมาตรการระตุ้นกำลังซื้อ, กลุ่มโรงไฟฟ้า GULF,GPSC,BGRIM ได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทแข็งค่าและ US Bond Yield ลดลง, กลุ่มไฟแนนซ์ SAWAD,MTC,TIDLOR,JMT มาตรการปรับโครงสร้างหนี้ภาคครัวเรือน, กลุ่มประมูลงานภาครัฐ CK,STEC,TASCO,SCC,SPREME จากงบประมาณรายจ่ายปี 68

ทั้งนี้ ความชัดเจนการเมืองในประเทศ หลังในหลวงโปรดเกล้า ฯ รายชื่อ ครม. ใหม่ ซึ่งเตรียมเข้าถวายสัยต์ปฏิญาณวันที่ 6 ก.ย. และประชุม ครม.นัดพิเศษวันที่ 7 ก.ย. เพื่อหารือนโยบายรัฐบาลกับพรรคร่วม ฯ ซึ่งคาดจะมีการแถลงนโยบายต่อสภา ฯ ในวันที่ 11 – 12 ก.ย. และประชุม ครม.นัดแรกในวันที่ 17 ก.ย. เพื่อเตรียมอนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่าง ๆ เช่น มาตรการแจกเงินให้กับกลุ่มเปราะบางวงเงิน 1.4 แสนล้านบาท, มาตรการการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน, มาตรการปรับลดค่าครองชีพและแก้ไขหนีภาคประชาชน รวมถึงมาตรการกระตุ้นการลงทุนผ่านกองทุนวายุภักษ์วงเงิน 1.5 แสนล้านบาท

ส่วนข้อเศรษฐกิจวันนี้ ก.พาณิชย์จะรายงาน CPI ส.ค. คาด 0.40% & ก.ค. 0.83% YoY

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA +0.09%, S&P500 -0.16%, Nasdaq -0.30%

กลุ่มพลังงาน -1.41% ขณะที่กลุ่มสาธารณูปโภค +0.85%, อุปโภค +0.52% ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 -0.97% กลุ่มเทคโนโลยี -3% นำโดย ASML -6% หลัง UBS ปรับลดคำแนะนำการลงทุน และสินค้าแบรนด์เนมปรับลดลงตามเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัว

หลัง JOLTs รายงานตัวเลขเปิดรับสมัครงาน ก.ค. ลดลงอยู่ที่ 7.67 ล้านราย และคาด 8.09 ล้านรายและมิ.ย. 7.91 ล้านราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ ม.ค. 64 บ่งชี้ภาวะตลาดแรงงานคลายความตึงตัว กอปรกับ ประธานเฟดสาขาแอตแลนตาเผยเฟดไม่ควรตรึงดอกเบี้ยนานเกินไป และเสี่ยงเกินไปที่จะรอให้เงินเฟ้อลดลงสู่ระดับ 2% ก่อนจะลดดอกเบี้ย

ข้อมูลเศรษฐกิจค่ำวันนี้ติดตาม ADP เผยตัวเลขจ้างงานภาคเอกชน ส.ค.และวันศุกร์ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐ ส.ค.และอัตราว่างงาน ส.ค. ซึ่งจะมีผลต่อการตัดสินใจของเฟดว่าจะลดดอกเบี้นในอัตรา 0.25 หรือ 0.50% ซึ่ง CME Fed Watch ชี้โอกาส 49% ที่เฟดจะลดดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุม 17 – 18 ก.ย.

หุ้นแนะนำวันนี้ ได้แก่ DITTO (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้า IAA Consensus 20.50 บาท) บริษัทรายงานกำไรสุทธิงวด 2Q67 ที่ 125 ล้านบาท +20%QoQ, +35%YoY หนุนจากรายได้ธุรกิจจำหน่ายและให้บริการระบบบริหารจัดการเอกสาร (DMS/BPO) และระบบรักษาความปลอดภัยด้านไซเบอร์ที่มีการขยายตัว ประกอบกับรายได้จากธุรกิจรับเหมาวิศวกรรมด้านเทคโนโลยีสำหรับโครงการราชการต่างๆ ได้แก่ โครงการสวนสัตว์แห่งใหม่ ระยะที่ 1 คลอง 6 โครงการพัฒนาศูนย์ศึกษาวิจัยแร่และหิน จังหวัดระยอง โครงการก่อสร้างพัฒนาศูนย์เรียนรู้ป่าชายเลน จังหวัดระนอง

แนวโน้ม 2H67 คาดกำไรเติบโตต่อเนื่องจากการรับรู้รายได้โครงการภาครัฐที่มี backlog ราว 4.5 พันล้านบาท อีกทั้งยังมีอีกหลายโครงการที่ชนะการประมูลในไตรมาส 2 เป็นโครงการขนาดใหญ่อยู่ระหว่างรอเซ็นสัญญา ซึ่งจะรับรู้รายได้ใน 2H67

ทั้งนี้ ตลาดคาดกำไรปี 67-68 ที่ 511 ล้านบาท +44%YoY และ 660 ล้านบาท +29%YoY

หุ้น HMPRO (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 12.14 บาท) กำไรสุทธิ 1H67 อยู่ที่ 3,335 ลบ. +3.20%YoY ส่วนการดำเนินงานครี่งปีหลัง ภาพรวมคาดจะยังปรับตัวดีขึ้นได้แม้ 3Q67 อาจอ่อนตัว QoQ ตามฤดูกาลแต่จะกลับมาดีใน 4Q67 นอกจากนี้ หุ้นกลุ่มสินค้า Hardline ยังมี Sentiment บวกจากโอกาสซ่อมแซมสิ่งก่อสร้างหลังน้ำท่วม

ด้าน HMPRO* มีแผนจะเปิดสาขาเพิ่มในครึ่งปีหลังอีก 5 สาขา(จาก 1H67 เปิดเพิ่ม 2 สาขา) เป็น Home Pro 4 แห่ง และ Mega Home 1 แห่ง โดยจะเน้นไปที่ Format Hybrid (มี Home Pro และ Mega home ในที่เดียวกัน)มากขึ้น ทั้งนี้ ตลาดคาดกำไรสุทธิ HMPRO* ปี67 และ 68จะอยู่ที่ 6,800 ล้านบาท (+5.56%YoY) และ 7,307 ล้านบาท (+7.47%YoY)