HoonSmart.com>>หุ้นธนาคารพาณิชย์วิ่งขึ้น-ลงคนละทิศทาง นักวิเคราะห์เชียร์ซื้อแบงก์กรุงเทพ (BBL) กำไรไตรมาส2/66 ดีเกินคาด เพิ่มประมาณการกำไรและราคาเป้าหมาย เก็บเกี่ยวปันผลเกิน 3% บล.อินโนเวสท์ เอกซ์ให้มูลค่า 210 บาท ทางด้านบล.หยวนต้าลดเป้าหมายราคาหุ้น KBANK เหลือ 167 บาท SCB ที่ 140 บาทและ KKP ที่ 77.50 บาท ด้านดัชนีหุ้นร่วง 5.44 จุด ต่างชาติทิ้งหนักขึ้น 4,344.49 ล้านบาท เจอข่าวเลื่อนโหวตนายกฯ
วันที่ 24 ก.ค. 2566 ดัชนีหุ้นปิดที่ 1,523.81 จุด ลดลง 5.44 จุด หรือ -0.36% หุ้นธนาคารพาณิชย์นำตลาด ธนาคารกรุงเทพ(BBL) ปรับตัวขึ้นแรง +2.13% เพิ่มขึ้น 3.50 บาท ปิดที่ 168 บาท มูลค่าซื้อขายมากเป็นอันดับสองที่ 2,532.72 ล้านบาท
สวนทางกับธนาคารกสิกรไทย (KBANK) ที่มีมูลค่าซื้อขายสูงมากถึง 9,639.45 ล้านบาท แต่ราคาร่วงลง 3.49% ลดลง 4.50 บาทปิดที่ 124.50 บาท เช่นเดียวกันธนาคารเกียรตินาคินภัทร(KKP) ทรุดลงหนัก 7.85% เท่ากับ -4.75 บาท ปิดที่ 55.75บาท และบริษัท เอสซีบี เอกซ์(SCB) ติดลบ 2.71% หรือ -3 บาทปิดที่ 107.50 บาท หลังจากนักวิเคราะห์ปรับลดราคาเป้าหมายลง เพราะผิดหวังกับกำไรไตรมาสที่ 2/2566 ออกมาต่ำกว่าคาด ผลจากการตั้งสำรองหนี้สูงเกินคาด
บล.หยวนต้า(ประเทศไทย) ให้ราคาเป้าหมายใหม่ KBANK ที่ 167 บาทต่อหุ้น SCB เหลือ 140 บาทและ KKP ที่ 77.50 บาท ลดลงจากเป้าหมายเดิม -7.50 บาทหรือ-8.82%
“เราปรับลดประมาณการกำไรสุทธิ KBANK ตั้งแต่ปี2566 ลงเฉลี่ยปีละ 5.6% เพื่อสะท้อน Credit Cost ที่ลดลงได้ช้ากว่าคาด ช่วงสั้นราคาอาจมีแรงขายจากความกังวลต่อแนวโน้มการตั้งสารองที่นานกว่าคาด ผู้บริหารระบุว่าการตั้งสำรองในปี 2567 แม้มีทิศทางลดลงแต่ยังอยู่ในระดับสูง แต่เรามองว่าราคาหุ้นที่ Underperform กลุ่มในช่วงที่ผ่านมาได้ตอบสนองเชิงลบต่อประเด็นดังกล่าวไปมากพอสมควรแล้วขณะที่ปัจจุบันมีValuation น่าสนใจซื้อขายด้วยP/BV ปี2566 ต่ำเพียง 0.6 เท่า ส่วนราคาหุ้นปัจจุบันมีUpside 29.5% จากมูลค่าพื้นฐานใหม่ที่ 167บาท จึงคงคำแนะนำ ซื้อ”บล.หยวนต้าระบุ
บล.ดาโอลดราคาเป้าหมาย KKP เหลือ 64 บาท ลดลงจากเดิม 8 บาทหรือ -11.11% แนะนำ”ถือ”หลังกำไรไตรมาส 2/2566 ต่ำคาดจากสำรองฯ เพิ่มขึ้น และขาดทุนรถยึดยังสูง บล.ฟินันเซ๊ย ไซรัส ยังให้ราคาเป้าหมายไว้ที่ 65 บาท โดยรวมยังกังวลคุณภาพของสินทรัพย์ในปี 2566-2567 ที่อาจกดดันราคาหุ้น
สำหรับธนาคารกรุงเทพ บล.หยวนต้าแนะนำ “ซื้อ”เป็นธนาคารที่มีจุดเด่นเรื่องความระมัดระวังและมีคุณภาพสินทรัพย์ที่แข็งแรง อีกทั้ง Valuation ปัจจุบันซื้อขายด้วย P/BV ปี 2566 ต่ำเพียง 0.6 เท่า และยังมี Upside 16.6% จากมูลค่าพื้นฐานเดิมปี 2566 ที่ 190 บาท กำไรครึ่งปีคิดเป็น 60.1% ของประมาณการเดิมทั้งปีที่ 35,657 ล้านบาท โต 21.7%
แนวโน้มกำไรไตรมาส 3 ยังปรับขึ้นต่อทั้ง YoY และ QoQ แม้ฐานกำไรจากเครื่องมือทางการเงินที่วัดมูลค่ายุติธรรมผ่านงบกำไรขาดทุน (FVTPL) จะค่อนข้างสูงในไตรมาส 2 ที่ผ่านมา แต่จะถูกชดเชยด้วยการตั้งสำรองที่มีแนวโน้มลดลงในช่วงที่เหลือของปี เนื่องจากคุณภาพสินทรัพย์มีพัฒนาการที่ดีขึ้นต่อเนื่อง เห็นระดับ NPL Ratio ที่ทยอยปรับตัวลงเรื่อยๆ และ Coverage Ratio ที่เพิ่มขึ้นจนสูงที่สุดในอุตสาหกรรม ขณะที่รายได้ดอกเบี้ยคาดจะปรับตัวขึ้นต่อ หนุนจากพอร์ตสินเชื่อที่จะเร่งตัวขึ้น ตามแผนปล่อยสินเชื่อบริษัทขนาดใหญ่และสินเชื่อต่างประเทศที่กระจุกตัวอยู่ในช่วง ครึ่งปีหลังบวกกับ NIM ที่ขยับขึ้นจากการปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้กับกลุ่มลูกหนี้ ส่วน ไตรมาสที่ 4 เป็น Low Season ที่ปกติจะมีบันทึกค่าใช้จ่ายลงทุนระบบ IT และค่าใช้จ่ายพนักงานจำนวนมาก คาดเงินปันผลทั้งปีอยู่ที่ 5.60 บาท หรือให้อัตราผลตอบแทน 3.4% ส่วนปีหน้า แจกหุ้นละ 6.45 บาท เท่ากับ 7.5%
บล.เอเซียพลัสให้เป้าหมายใหม่ BBLที่ 191 บาท เพิ่มขึ้นจากเดิม 17 บาทหรือ +9.77% และบล.อินโนเวสท์ เอกซ์ให้มูลค่า 210 บาท เพิ่มขึ้นจากเดิม 13 บาทหรือ +6.60%
ด้านตลาดหุ้นที่ลดลงกว่า 5 จุด มาจากนักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 4,344.49 ล้านบาท สถาบันไทยขาย 534.69 ล้านบาท ส่วนนักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 4,550.02 ล้านบาท
นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า หุ้นวันนี้ปรับตัวลง รับ Sentiment ลบ ระยะสั้นจากข่าวผู้ตราวจการแผ่นดิน เห็นชอบยื่นศาลรัฐธรรมนูญให้รัฐสภาเลื่อนโหวตนายกฯ จนกว่าจะมีคำวินิจฉัย ทำให้เป็น Overhang การโหวตเลือกนายกฯต้องล่าช้ากว่ากำหนดการเดิม อย่างไรก็ดี Downside ตลาดไม่เปิดกว้าง